และสุดท้ายไรอันก็ดื้อจนถึงที่สุด เมื่อตั้งแต่วันนั้นจนกระทั่งวันนี้ก็สามวันแล้วที่คุณไบรอันต้องรอคำตอบจากบุตรชาย เมื่อไรอันไม่ยอมกลับไปกับเขาแถมยังตีเนียนทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ขนาดจอห์นที่พยายามแล้วก็ยังไม่สำเร็จแถมโดนไรอันโกรธเข้าให้อีกคน
“ไรอันไปไหน”
“อยู่ห้องทำงานครับนาย”
“อืม ไปบอกมาหาฉันที่สระน้ำหลังคาสิโนหน่อยไป”
“ครับ”
พอสั่งเสร็จก็เดินกลับเข้าห้องทำงานไป เมื่อนี่คงเป็นวิธีสุดท้ายที่จะทำให้ไรอันกลับไปกับคุณไบรอันแล้ว ส่วนไรอัน เมื่อลูกน้องเดินไปบอกว่าจอห์นให้ไปพบเขาก็แทบอยากหนีออกจากคาสิโนไป แต่ก็ทำไม่ได้เมื่อหนีไปไหนก็คงหนีไม่พ้นอยู่ดี เลยตัดสินใจเดินออกไปหาบิดาตามที่สั่งมา
“ลูกว่าอะไรนะ! คุณแม่...คุณแม่หกล้มเข้าโรงพยาบาลเหรอ! แล้วตอนนี้คุณแม่เป็นยังไงบ้าง! งั้นเดี๋ยวพ่อจะบินกลับไปวันนี้เลย ใจเย็นๆแล้วคอยรายงานพ่อ ไม่นานพ่อคงถึง โอเคๆ”
“คุณแม่...คุณแม่เป็นอะไร...”
ไรอันที่เดินเข้ามาเหมือนกับคนละเมอ เมื่อเขาได้ยินที่คุณไบรอันคุยโทรศัพท์เมื่อกี้
“แกสนใจด้วยเหรอ ตั้งแต่แกหนีออกจากบ้าน แม่แกก็ร่างกายย่ำแย่ไม่แข็งแรง เข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น ตอนนี้ฉันหมดเวลาที่นี่แล้ว ถ้าแกไม่กลับไปกับฉันก็อยู่ที่นี่ไปละกัน”
“ไม่...”
ไรอันทำหน้าสับสนเมื่อคำพูดของบิดาช่างทำร้ายจิตใจของเขาเหลือเกิน ถึงแม้ว่าจะโกรธที่บิดาทำกับเขามากมายขนาดไหน แต่กับมารดานั้นเขาไม่เคยโกรธเลยสักนิด และทุกครั้งที่นึกถึงมารดามาเฟียหนุ่มนั้นปฏิเสธไม่ได้เลยว่าแอบเสียใจที่หนีมาอย่างนั้น แต่ไม่นึกว่ามารดาจะต้องมาล้มป่วยเพราะสิ่งที่เขาทำ พอได้ยินบิดาพูดออกมาเหมือนกับยิ่งถาโถมความเสียใจเข้ามาในใจของเขามากไปกว่าเดิม
“ผมจะกลับด้วย...แต่ถ้าคุณแม่หายดีแล้วผมจะกลับมาที่นี่”
“เฮ้อ ตามใจแกเลย แกโตพอที่จะตัดสินใจเองได้แล้วนี่”
คุณไบรอันพูดออกมาพร้อมกับเดินออกไปเพื่อเตรียมตัวกลับกรุงเทพฯ และจากนั้นไม่นานสองพ่อลูกก็อยู่บนเฮลิคอปเตอร์ส่วนตัว ตลอดทางไรอันเอาแต่ก้มหน้ากุมมือตัวเองแน่น เมื่อสิบปีแล้วที่เขาไม่ได้เจอมารดาและน้องสาวฝาแฝด ไม่รู้ป่านนี้ทั้งสองจะยังจำเขาได้ไหม ชายหนุ่มเอาแต่คิดไปต่างๆนานาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จนกระทั่งถึงจุดหมายปลายทาง
“แกโอเครึเปล่า”
จากมาดมาเฟียหนุ่มผู้หยิ่งผยอง ตอนนี้ใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยความวิตก ก่อนที่ไรอันจะยืดตัวขึ้นเพื่อเรียกความมั่นใจของตัวเองกลับมา
“ผมอยากเจอคุณแม่”
“อืม ตามฉันมา”
จากนั้นคุณไบรอันก็เดินนำเข้าไปในโรงพยาบาลที่อีกไม่นานไรอันก็จะต้องเข้ามาทำงานที่นี่ต่อจากเขา เพราะบุตรสาวของเขานั้นขอเป็นเพียงหมอของที่นี่ไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับการบริหารงาน เขาเลยต้องไปตามบุตรชายกลับมาเพราะมีอีกหลายโรงพยาบาลในเครือต้องดูแล แถมธุรกิจอื่นๆอีก เขาคนเดียวคงดูแลไม่ไหวและอีกไม่นานเขาก็วางแผนจะวางมือจากทุกอย่างแล้ว
“ไร...ไรอัน...”
และพอเดินเข้ามาในห้องผู้ป่วยวีไอพี เสียงแหบพร่าสั่นเครือของคุณมิรันก็เอ่ยขึ้นพร้อมทั้งน้ำตาแห่งความดีใจไหลพรากออกมาราวกับเขื่อนแตก เมื่อไม่คิดไม่ฝันว่าบุตรชายจะยอมกลับมา ร่างเล็กผอมแห้งพยายามจะลุกเดินเข้ามาหาจนเกือบล้มพับไปกับพื้นห้องดีที่คุณไบรอันสังเกตเห็นรีบเข้ามาช้อนกอดก่อนร่างภรรยาจะล้มลงไป ทำเอาไรอันที่มองอยู่ถึงกับสะท้านในอก ตาคมแดงก่ำอย่างแสนเสียใจ ก่อนจะค่อยๆเดินเข้ามาใกล้
“ผมขอโทษครับคุณแม่”
“ฮือๆๆๆ ไรอัน ฮือๆๆ ลูกจริงๆด้วย ลูกกลับมาหาแม่แล้ว ฮือๆๆ ไรอันลูกแม่ ฮือๆ”
ร่างผอมโผเข้ากอดบุตรชายทันทีก่อนจะปล่อยเสียงร้องไห้ออกมา ทำเอาคุณไบรอันอดเอ่ยขอโทษภรรยาในใจไม่ได้ ถ้าวันนั้นเขาไม่ใจร้อนแล้วฟังเหตุผลของลูกชายสักนิด ทุกอย่างก็คงไม่เป็นแบบนี้
“เดี๋ยวฉันขึ้นไปดูงานที่ห้องทำงานก่อนนะ”
คุณไบรอันรีบเดินเลี่ยงออกมา เมื่ออยากให้ภรรยาได้อยู่กับบุตรชายสองคน
“อ่าว คุณพ่อ! กลับมาแล้วเหรอคะ แล้วพี่ไรอัน...”
พอเดินออกมาจากห้องพักคนไข้ คุณไบรอันก็เจอเข้ากับร่างอรชรของบุตรสาวสุดที่รัก ไรอา บุตรสาวฝาแฝดน้องสาวของไรอันกำลังมองมาที่บิดาอย่างคาดหวัง ตากลมที่เหมือนกับของพี่ชายไม่มีผิดเพี้ยนกำลังมองเลยบิดาไปด้านหลังเพื่อหาใครอีกคนที่เธอแสนคิดถึง แต่ก็มีแต่ความว่างเปล่า ก่อนหน้าเรียวจะสลดลงทันทีพร้อมกับรอยยิ้มที่จางหาย
“เจอพ่อแล้วมันผิดหวังขนาดนั้นเลยเหรอ หืม?”
“โธ่ ไรอาแค่หวังว่าพี่ไรอันจะกลับมาด้วยนี่คะ แล้วนี่คุณพ่อเข้าไปดูคุณแม่มาแล้วเหรอคะ คุณแม่ตื่นรึยังคะ”
“ตื่นแล้ว”
“อ้อ งั้นเดี๋ยวไรอาเอาน้ำเกลือไปเปลี่ยนให้คุณแม่ก่อนนะคะ ท้องเสียแบบนั้นใส่อีกสักถุงน่าจะดี”
“เดี๋ยวๆๆๆ พ่อมีเรื่องจะคุยด้วย”
“อ่าว...”
ยังไม่ทันที่จะได้พูดจบร่างบางก็ถูกบิดาลากให้เดินตามไปด้วย เมื่อเขาอยากให้ภรรยาทำให้บุตรชายใจอ่อนยอมอยู่ที่นี่ ทำเอาไรอาถึงกับสับสน สองมือยังถือถึงน้ำเกลือเอาไว้ในมือ แต่สุดท้ายก็เดินตามบิดาไป
“คุณแม่...เป็นยังไงบ้างครับ”
พอคุณมิรันเริ่มสงบสติอารมณ์ได้ไรอันจึงถามถึงอาการป่วย พร้อมกับมองสำรวจร่างเล็กที่ผอมกว่าครั้งล่าสุดที่เขาเคยเจอเมื่อสิบปีก่อนเป็นอย่างมาก
“ก็ดีขึ้นแล้ว โรคคนแก่ธรรมดาน่ะ”
“แต่คุณแม่ดูไม่ค่อยแข็งแรงเลยนะครับ ผมขอโทษที่เป็นต้นเหตุให้คุณแม่ต้องล้มป่วยแบบนี้ ผม...”
“อย่าไปพูดถึงมันเลยนะลูก แค่ลูกกลับมาแม่ก็ดีใจมากแล้ว อย่าทิ้งแม่ไปไหนอีกนะ”
คุณมิรันโอบกอดร่างใหญ่ไม่ยอมปล่อย เธอไม่นึกว่าเขาจะกลับมาด้วยซ้ำ เมื่อไรอันช่างใจแข็งและเด็ดเดี่ยวได้ถึงสิบปีแถมไม่ยอมติดต่อมาหาเธอเลยสักครั้ง
“สัญญาสิว่าลูกจะไม่ทิ้งแม่ไปไหนอีก”
“แต่ผมมีงานต้องทำ...แต่ก็มาหาคุณแม่ได้...”
“......................”
คุณมิรันถึงกับเงียบไปทันที ก่อนจะปล่อยอ้อมกอดออกจากร่างใหญ่แล้วนอนหันหลังให้ ไรอันได้แต่มองมารดาอย่างหมดหนทาง เมื่อเขาก็มีสิ่งที่ต้องรับผิดชอบเหมือนกัน
“ถ้าอย่างนั้นลูกไม่น่ากลับมาแต่แรกเลย...”
เสียงที่บ่งบอกถึงความผิดหวังและไหล่ที่สั่นไหว ทำเอามาเฟียใจแข็งเป็นหินอย่างไรอันถึงกับแทบไปไม่เป็น
“ผมขอโทษครับคุณแม่...”
“กลับไปแล้วไม่ต้องกลับมาอีก...ปล่อยแม่ตายอย่างโดดเดี่ยวแบบนี้แหละดีแล้ว อีกไม่นานแม่ก็คงไม่อยู่ในโลกใบนี้...”
ไรอันถึงกับหมดแรง เมื่อไม่เคยมีใครที่ทำร้ายจิตใจเขาได้เลยสักคนนอกจากคนที่นอนอยู่บนเตียงในตอนนี้ เขารู้สึกเจ็บปวดกับคำพูดเพียงไม่กี่คำของมารดาจนแทบก้าวขาไม่ออก
“ผมขอโทษครับคุณแม่...”
ไรอันเอ่ยขึ้นเสียงแผ่วเบาแต่กึกก้องในหัวใจของคุณมิรันก่อนที่จะได้ยินเสียงประตูห้องปิดลง น้ำตาที่พึ่งหยุดไหลของคุณมิรันหลั่งไหลออกมาอีกรอบเมื่อรับรู้ได้ว่าตอนนี้เธอนอนอยู่ในห้องนี้เพียงลำพังเสียแล้ว
ส่วนไรอันที่ตัดสินใจเดินออกมาพร้อมกับน้ำตาที่หยุดไหลมาเป็นเวลาสิบปีกลับหลั่งรินอย่างหนัก ไม่ใช่ว่าเขาไม่เจ็บปวดกับสิ่งที่ทำ แต่เขาไปไกลเกินกว่าจะกลับมาอยู่ในจุดนี้ได้แล้ว ค่าหัวของเขาอาจแพงกว่าค่าหัวของผู้บริหารประเทศใดประเทศหนึ่งก็เป็นได้