“เหตุการณ์ไม่คาดคิด”

1878 คำ
ชมพู หรือ ชมพูนุช เด็กสาววัยเพียง 22 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาตรี สามารถสอบแข่งขันเพื่อบรรจุเป็นข้าราชครู ได้ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชมพูหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู สูง 160 ซม. ผิวขาวเนียน แก้มป่องสีแดงระเรื่อ ส่วนปากรูปกระจับ เธอมีนิสัยร่าเริง ยิ้มง่าย ตลก พูดเก่งเข้าขั้นเลยทีเดียว ยิ่งสนิทยิ่งชวนคุยได้ไม่หยุด สร้างเสียงหัวเราะและรอยยิ้มให้คนรอบข้างได้เสมอ แต่ยังมีอีกนิสัยอีกหนึ่งอย่างที่แก้ยังไงก็ไม่หายสักที คือ ความใจร้อน กล้าได้กล้าเสีย ไม่ชอบการถูกเอาเปรียบ หากมีเรื่องที่ไม่พอใจก็จะกลายร่างเป็นแม่เสือพร้อมบวกอยู่เสมอ.. เธอถือคติที่ว่าดีมาดีกลับ ร้ายมาเจอหมัดสวนแน่!! เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันในครั้งนั้น ทำให้ชมพูนิสัยเริ่มเปลี่ยนไป ชอบเก็บตัว ไม่ค่อยพูด ถามคำตอบคำ นั่งเหม่อลอยอยู่ตลอด เมื่อย้อนไปเมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคม ชมพูที่ได้รับข่าวดีสามารถสอบบรรจุเป็นข้าราชการครูได้ และเธอยังสอบได้คะแนนเป็นลำดับที่ 1 อีกด้วย ด้วยความดีใจและอยากฉลองกับครอบครัว จึงรีบออกไปซื้อของสดที่ตลาด เพื่อมาทำอาหารเตรียมฉลองกันคืนนี้ แต่ระหว่างทางกลับบ้าน ชมพูที่กำลังขับรถมาพร้อมรอยยิ้มอันสดใส อยู่ๆ ก็มีมอเตอร์ไซค์ พุ่งออกมาจากซอยข้างทาง ทำให้ชมพูขับรถชนมอเตอร์ไซค์คันนั้นอย่างแรง คนขับมอเตอร์ไซค์ลอยขึ้นไปและตกลงมาหัวฟาดพื้น เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เหตุการณ์ครั้งนี้จะว่าเป็นความผิดของชมพูทั้งหมดก็ไม่ใช่เพราะคนที่เสียชีวิต ขับออกมาจากซอยและตัดหน้ารถของชมพูกะทันหัน ทำให้ชมพูเบรกรถไม่ทันและชนรถคันนั้นเข้าอย่างแรง ภาพคนลอยจากรถมอเตอร์ไซค์แล้วตกลงมา ศีรษะฟาดลงกับพื้น เลือดไหลนองเต็มไปหมด ภาพเหล่านี้ยังติดตาของหญิงสาวอยู่ตลอดเวลา ส่วนชมพูแม้จะคาดเข็มขัดนิรภัย แต่ด้วยแรงปะทะทำให้ได้รับบาดเจ็บหัวแตกและมีรอยฟกช้ำตามตัวหลายจุด ต้องพักรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล 2 วัน คุณหมอจึงอนุญาตให้กลับมาพักฟื้นต่อที่บ้านต่อได้ แต่สภาพจิตใจของชมพูนั้นยังย่ำแย่มาก ภาพเหตุการณ์ยังคงติดตา ทำให้นอนฝันร้ายอยู่ทุกคืน ชมพูเมื่อออกจากโรงพยาบาลรีบให้พ่อกับแม่พาไปขอขมาครอบครัวผู้เสียชีวิตทันที ยิ่งเธอได้เห็นได้รับรู้ว่าผู้เสียชีวิตเป็นหัวหน้าครอบครัว มีลูกชาย 1 คน อายุ 15 ปี ยิ่งทำให้ชมพูสะเทือนใจยิ่งนัก เมื่อกลับมาถึงบ้านก็เอาแต่เก็บตัวเงียบอยู่ในห้อง น้อยครั้งที่จะออกมานั่งนอกบ้าน เธอเป็นแบบนี้อยู่เกือบเดือน พ่อแม่ น้องชาย และพวกเพื่อนๆ ที่พยายามแวะเวียนเข้ามาปลอบ มาพูดคุย พาไปทำบุญ มันก็ทำให้ชมพูดีขึ้นได้บ้าง แต่พออยู่คนเดียว ก็คิดถึงภาพอุบัติเหตุ ภาพครอบครัวพี่คนที่เสียชีวิตอีก ชมพูนอนร้องไห้บ่อยๆ กัญญาผู้เป็นแม่ของชมพูรับรู้ถึงความเสียใจของบุตรสาว แต่ไม่ว่าจะทำยังไง บุตรสาวก็เอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้อง ทำให้เธอเป็นกังวลมากๆ จนแอบร้องไห้ตามอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งบางครั้งชมพูเองก็แอบเห็น และรับรู้ถึงความกังวลของแม่เป็นอย่างดี… ชมพูเห็นแม่แอบร้องไห้ตามเธอบ่อยๆ จึงเริ่มได้สติว่าถ้าเธอยังเป็นอยู่แบบนี้ พ่อกับแม่คงเป็นทุกข์มากกว่าเธอแน่ๆ ชมพูจึงเข้าไปคุยกับพวกท่านทั้งสองขอ เดินทางไปพักผ่อน สัก 1 เดือน แล้วจะกลับมาเป็นชมพูคนเดิมอีกครั้ง ส่วนทางด้านคดีความ เนื่องจากอีกฝ่ายขับรถตัดหน้ากะทันหัน และทางบ้านของชมพูก็พยายามเยียวยาอย่างเต็มที่ ศาลจึงตัดสินให้รอลงอาญา 1 ปี “พ่อจ๋าแม่จ๋าหนูขอไปพักผ่อนต่างจังหวัดได้ไหมคะ” กัญญา และพิบูลย์ต่างตกใจ ถึงคำขอของชมพูลูกสาวอันเป็นที่รักของพวกเขา แต่ไหนแต่ไรมา เวลาชมพูไปไหน กัญญากับพิบูลย์และบลูน้องชายของเธอจะไปด้วยเสมอ ยกเว้นไปกับที่โรงเรียน ด้วยสายตาและน้ำเสียงของชมพูตอนที่เอื้อนเอ่ยออกมา ทำให้ผู้เป็นแม่อย่างกัญญารับรู้ได้ทันทีว่า ครั้งนี้ลูกสาวตัวน้อยของเธออยากไปคนเดียวจริงๆ แต่ถึงอย่างนั้น ผู้เป็นแม่ก็ไม่อาจวางใจ และการแทนตัวเองด้วยคำว่าหนู คือ วิธีการอ้อนพ่อกับแม่ของชมพู เวลาที่เธอต้องการสิ่งที่ขอมากๆ “ให้พ่อกับแม่ไปด้วยดีไหม” กัญญาเอ่ยถามบุตรสาว โดยหวังว่า ลูกสาวของเธอจะเปลี่ยนใจ “หนูอยากไปคนเดียวค่ะ หนูอยากไปตั้งสติ หนูขอเวลา 1 เดือน นะคะ” ชมพูสบตากัญญาก่อนตอบเพื่อให้ผู้เป็นแม่เข้าใจ “แต่พ่อกับแม่เป็นห่วง ไม่อยากให้ลูกไปคนเดียวเลย” พิบูลย์ชายวัย 54 ปี ที่นั่งฟังอยู่นาน เอ่ยออกมา “พ่อว่าไปพักผ่อนกันทั้งครอบครัวเลยดีไหม พ่อกับแม่ได้ไป พักผ่อนด้วย” พิบูลย์กล่าวเสริมเพื่อโน้มน้าวให้บุตรสาวยอมให้พวกตนไปด้วย “ครั้งนี้หนูขอนะคะ เข้าใจหนูนะ หนูสัญญา หนูจะโทรรายงานพ่อกับแม่ตลอด จะไม่ขาดการติดต่อแน่นอนค่ะ” ชมพูตอบด้วยใบหน้าจริงจัง กัญญากับพิบูลย์ได้แต่มองหน้ากัน สุดท้ายก็ยอมให้ชมพูไปคนเดียวตามที่เธอต้องการ ชมพูเลือกที่จะมาพักผ่อนที่หัวหิน เพราะชมพูเคยมาตอนเด็ก เธอชอบบรรยากาศที่นี้ และชมพูเองก็อยากมาทำความคุ้นเคยไว้ก่อนด้วย เพราะเดือนหน้าเธอต้องมาสอนหนังสือที่นี้ ชมพูนั่งรถตู้มา เพราะยังไม่กล้าขับรถเอง แม้ผู้เป็นพ่อจะขอขับรถมาส่งก็ตาม ..... หัวหิน ถิ่นมีหอย..... เรื่องราวความรู้สึกดีๆ เริ่มต้นที่นี้ ก่อนเดินทาง ชมพูได้จองรีสอร์ตแห่งหนึ่งไว้ผ่านแอพพลิเคชั่น เพราะได้ราคาที่ถูกกว่า รีสอร์ตแห่งนี้บรรยากาศดีมาก ติดทะเล เงียบสงบ ผู้คนไม่พลุกพล่าน เหมาะแก่การพักผ่อนอย่างที่ตั้งใจไว้ วันแรกที่มาถึง ชมพูก็เช็คอินเข้าที่พัก เพื่อเก็บของให้เรียบร้อย ซึ่งมีแค่เสื้อผ้าและของใช้จำเป็นไม่กี่อย่างติดตัวมา ช่วงเย็น ชมพูได้เดินเล่นที่ชายหาดซึ่งติดกับที่พัก ชมพูแต่งกายด้วยชุดเดรสกระโปรงยาว ช่วงเย็นมีลมแรงพัดมาอีก ทำให้กระโปรงของชมพูปลิวไสว ยิ่งแสงแดดช่วงเย็นส่องกระทบลงมาที่ใบหน้าหวานของเธอ ทำให้ผู้ที่ได้พบเห็นหญิงสาวต่างก็ต้องหยุดมอง ชมพู เดินไปนั่งที่เตียงผ้าใบข้างชายหาด สั่งอาหารมา 1 อย่าง น้ำเปล่า 1 ขวด เท่านั้น นั่งรอประมาณครึ่งชั่วโมง พนักงานมาเสิร์ฟอาหาร ชมพูดื่มแต่น้ำเปล่า อาหารไม่ได้แตะเลย.. เธอนั่งมองทะเล ในหัวยังคงคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น และวิธีที่จะกลับมาเป็นคนเดิม แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกเศร้าใจ ความคิดที่ตีกันในหัวยุ่งเหยิงไปหมด.... ชมพูนั่งเหม่อลอยจนเวลาล่วงเลย ฟ้าเริ่มมืดลง เธอเดินใจลอยไปชนกับใครบางคน เหตุการณ์ไม่ได้เป็นแบบในละครหลังข่าวที่จะมีพระเอกมาประคองตอนเธอจะล้ม แล้วสบตากัน ปิ๊งๆ แต่เรื่องจริงคือ เธอเซถลาจนเกือบล้ม ดีที่คว้าชายเสื้อของอีกฝั่งไว้ได้เลยไม่ล้มลงไป “ขอโทษค่ะ เราเดินไม่ทันระวัง” หญิงสาวรีบปล่อยชายเสื้อ แล้ว ยกมือไหว้ขอโทษ ชายหนุ่มมองหน้าเธอด้วยความไม่ พอใจเพราะทางเดินออกจะโล่ง ยังเดินมาชนเค้าอีก “เดินยังไงให้ชน ไม่เห็นคนหรือไง” ชายหนุ่มเอ่ย “ขอโทษจริงๆค่ะ เราผิดเองค่ะ” ก้มหน้า สำนึกผิด “สายตาไม่ดีก็ไปตัดแว่นมาใส่ซะ คนอื่นจะได้ไม่เดือดร้อน“ ชมพูรู้สึกงงที่โดนต่อว่าอย่างรุนแรง เพราะตัวเธอเองไม่ได้ตั้งใจและก็ขอโทษไปแล้ว เธอเงยหน้ามองคู่กรณีแต่ โอ้ว... ความหล่อตรงหน้าทำให้เธอตาเบิกกว้างขึ้น ปากเขาอมชมพูยิ่งกว่าเธออีก ตัวขาว สูงโปร่ง คิ้วเข้ม ใบหน้าของชายหนุ่มทำเอาเธอเกือบลืมไปเลยว่ากำลังไม่พอใจที่โดนว่าอยู่ ความหล่อ ความออร่ายังกับเทพบุตรมาจุติ “ดิชั้นไม่ได้ตั้งใจจริงๆค่ะ แล้วก็ขอโทษคุณไปแล้ว คุณเองก็ ไม่ได้บาดเจ็บตรงไหน ยังสบายดี ยังมีแรงตะคอกดิชั้น คุณต้องการอะไรอีกคะ” ชมพูตอบเขารัวหลังจากดึงสติ ออกมาหลังจากตกอยู่ในภวังค์ความหล่อของเขา ชมพูจ้องหน้าคนที่ตัวสูงกว่า พรางได้แต่คิดในใจ… เธอนี่มันดวงซวยจริงๆ “ซุ่มซ่าม” ชายหนุ่มยืนกอดอกมองเธอ “ขอโทษอีกครั้งนะคะ ขอตัวก่อน” ชมพูเลือกที่จะเดินหลบชายตัวสูง พอเดินผ่านคนตัวสูงมาได้ เธอถอนหายใจ “เห้อ” ออกมาอย่างแรง เธอจะมาพักสมอง แต่มาถึงวันแรกก็เกือบเกิดเรื่องซะแล้ว เธอเดินกลับเข้าห้องพักจัดการอาบน้ำ แล้วโทรหากัญญาผู้เป็นแม่เพื่อรายงานตัว และส่งแชทไปบอกเพื่อนรักอย่างกั้งให้สบายใจ ว่าตนเองถึงหัวหินเรียบร้อย แล้วนอนหลับไปเพราะความเหนื่อยล้าจากการเดินทางจากเมืองปัว จังหวัดน่าน มาหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รวมระยะเวลายาวนานกว่า 13 ชั่วโมง -วันรุ่งขึ้น- เนื่องจากเมื่อวานเธอไม่ได้กินอะไรเลย ตื่นเช้ามาชมพูเริ่มรู้สึกหิว จึงไปหาอะไรทานที่ห้องอาหารของรีสอร์ต เธอตักข้าวต้มกุ้งมา 1 ถ้วย พร้อมน้ำส้มคั้น 1 แก้ว แล้วเดินมาหาโต๊ะนั่ง ระหว่างทางมีคนเดินมาชนเธอ “อุ้ย!” ชมพูอุทานด้วยความตกใจ ชมพูจึงหันไปดูว่าใครเดินมาชนกลับพบผู้ชายตัวสูง คนที่เธอเดินชนเมื่อวาน ชายตัวสูงทำหน้านิ่งแต่ยักคิ้วเล็กน้อยให้เธอ ชมพูไม่อยากทะเลาะกับคนตัวสูงอีก พยายามเดินเลี่ยงออกมา เพื่อหาโต๊ะนั่งทานอาหารเช้า เธอเพิ่งสังเกตเห็นว่าเสื้อเลอะน้ำส้ม จึงเดินไปห้องน้ำเพื่อล้างก่อน แต่เมื่อเธอกลับมายังโต๊ะกลับพบว่า ชายตัวสูงที่เดินชนเธอ เอาอาหารมาวางที่โต๊ะที่เธอวางข้าวต้มกับน้ำส้มไว้ เขากำลังนั่งกินอย่างสบายใจไม่สนว่าบนโต๊ะจะมีอาหารของเธอวางอยู่ แถมมีสาวๆ ที่นั่งโต๊ะข้างๆ แอบมองตะลึงในความหล่อของชายหนุ่มอยู่อีกหลายคน ชมพูได้แต่ถอนหายใจ แล้วเดินไปหยิบถาดข้าวต้มเพื่อไปนั่งตรงอื่น ชมพูไม่อยากมีเรื่อง เธอบอกตัวเองว่าเลี่ยงได้ก็พยายามเลี่ยง ไม่อยากสร้างปัญหาอีก เธอต้องการมาพักผ่อนจริงๆ “จะไปไหน” ชายหนุ่มเอ่ยถาม
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม