พอมาถึงที่บ้านฉันก็รีบเข้าห้องนอนร้องไห้ขดตัวอยู่ในผ้าห่ม ที่ผ่านมาที่เสือแทบไม่เอ่ยถึงจ๋ายเลย แต่วันนี้กลับพูดแบบนั้นออกมา
มันเหมือนสื่อความหมายว่าถึงฉันและจ๋ายจะหน้าเหมือนกันแต่มีคนเดียวที่พี่เสือรู้สึกด้วย ซึ่งมันไม่ใช่ฉัน
เจ็บปวดขนาดนี้แล้วไม่อยากคิดเลยว่าหากเราหมั้นกันต่อไปจะเป็นยังไง…แต่ฉันยังไม่ยอมแพ้หรอก ยังไงก็อยากจะเอาชนะใจพี่เสือให้ได้ เพราะจ๋ายเองก็ไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับเขาไปมากกว่าพี่ชาย
#วันต่อมา มหาวิทยาลัย
“ใจ๋หนุ่มคณะแพทย์ตามขายขนมจีบแกมาหลายเดือนแล้วนะไม่สนใจหน่อยหรือไง” ยี่หวาเอ่ยถามเพราะเห็นพี่ยูซื้อขนมมาให้
พี่ยูเป็นรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยเราบังเอิญเจอกันที่โรงพยาบาล พี่เขาเป็นนักศึกษาแพทย์และก็เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน รู้ว่าเขากำลังตามจีบและฉันก็ปฏิเสธไปแล้วเพราะภายในใจมันไม่เหลือที่ว่างให้ใครเลย
“คบแพทย์ไม่มีเวลาให้หรอก” ไทเกอร์บอก
“เบาบ้างนิสัยหวงเพื่อนน่ะ ทีกับพี่ชายตัวเองไม่เห็นจะหวง” ยี่หวาถาม ไทเกอร์น่ะเป็นแบบนี้แต่ไหนแต่ไร ถ้ามีผู้ชายเข้ามาจีบฉันกับยี่หวาเชาจะคอบกันท่าให้ตลอด
“อันนั้นเพื่อนเราตามจีบเขาหรือเปล่า”
“อะพูดถูก สวยๆ แบบใจ๋ ใครจะไปคิดว่าตามจีบผู้ชาย”
“แถมเขายังไม่สนใจ” ฉันพูดเสริมเสียงเศร้า ก่อนจะเบือนหน้าไปทางอื่น
“นี่เศร้าจริงหรอ ถูกพี่เสือดุมาหรือไง”
“ถ้าโดนดุคงจะดีกว่านี้”
“เขาไม่ชอบก็ถอยเหอะใจ๋” โอดินที่นั่งกินขนมไม่พูดไม่จาเอ่ยขึ้น
“ทำเป็นบอกเพื่อน เข้าใจความรักดีแค่ไหนคะคุณโอดิน” ยี่หวาถาม เพราะโอดินไม่เคยมีแฟนเลยไม่แปลกหรอกที่จะถูกแซว
“ก็ไม่ได้คบไปทั่วเหมือนเธอ”
“เอ๊ะ!! เขาเรียกบริหารเสน่ห์เหอะ!! นี่ฉันน่ะยังบริสุทธิ์อยู่นะขอบอก”
“น่าเกลียดนะยี่หวาพูดอะไรออกมา”
“น่าเกลียดตรงไหนก็มันเป็นความจริง”
“เลิกเถียงกัน เห็นไหมว่าใจ๋เศร้าอยู่” ไทเกอร์ช่วยห้ามปรามทั้งสองคนไหน แต่ฉันไม่อะไรหรอกชินแล้ว ยี่หวากับโอดินก็ชอบเถียงกันไปเรื่อยแบบนี้แต่ไหนแต่ไร
ติ้ง~ ขณะที่กำลังนั่งเหม่อเสียงแชตแจ้งเตือนทำให้ฉันก้มหน้ามองจอโทรศัพท์ ก่อนหัวใจดวงน้อยจะเต้นรัวๆ เมื่อเห็นว่าชื่อที่ส่งมาคือพี่เสือ
เสือ: เลิกเรียนแล้วมารอที่สวนกุหลาบหลังมอ
ฉันขมวดคิ้วงงกับคำสั่งนั้นครู่หนึ่ง ก่อนจะพิมพ์ถาม
ฉัน: ให้ใจไปหาที่มหาวิทยาลัยหรอคะ
เสือ: พ่อให้ไปรับเธอกลับบ้านพร้อมกัน
ถึงว่าเพราะถูกบังคับนี่เอง หากเป็นเมื่อก่อนมันไม่แปลกหรอกที่กลับพร้อมกัน แต่ตอนนี้มันแปลกมากๆ
ฉัน: แปลว่าพี่เสือต้องมารับใจ๋หรือเปล่า
เสือ: อย่าเรื่องมาก ฉันไม่ว่าง
ฉัน: ก็ได้ค่ะใจ๋จะไปรอ
ฉันกับพี่เสือไม่ได้เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันจึงต้องนั่งรถไป สวนกุหลาบหลังมอเป็นชื่อเรียกโซนวีไอพีของมหาวิทยาลัย เขตนั้นบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาตห้ามเช้า มันเป็นเขตของแก๊งค์พี่ฉลามที่เป็นเพื่อนกับพี่เสือ ที่มีอภิสิทขนาดนี้ก็เพราะพี่ฉลามเป็นลูกชายเจ้าของมหาวิทยาลัย
หลังเรียนเสร็จ ไทเกอร์อาสามาส่งที่มหาวิทยาลัยขิงพี่เสือ เพราะไม่อยากให้ฉันเรียกแกร๊ปมันอันตราย พี่เสือไม่เห็นจะคิดแบบนี้บ้างเลย
“รอด้วยกันไหมไกเกอร์”
“นัดเล่นเกมกับไอ้ดิน”
“ได้ถามพี่เสือไหมว่าจะเลิกเรียนกี่โมง”
“ไม่ได้คุย แล้วมานี่ไม่ได้ถามก่อน?”
“ไม่กล้าถามมากหรอก เดี๋ยวหงุดหงิดใส่อีก”
“อะๆ เดี๋ยวอยู่เป็นเพื่อนก็ได้” ไทเกอร์ใจดีตลอดเลย แต่สำหรับเพื่อนนะถ้าเป็นเรื่องผู้หญิงก็ร้ายไม่แพ้พี่ชายของเขาหรอก
“ไม่เป็นไรนัดกับโอดินไว้ไม่ใช่หรอ”
“อยู่ได้?”
“อือ”
“อ่าๆ ตามใจ ไปแล้วนะ”
“ขับรถดีๆ”
หลังจากที่เพื่อนขับรถออกไปแล้วฉันก็เดินเข้ามาในเขตหวงห้าม ภายในมันเป็นทั้งห้องรับรองและมีกิจกรรมให้ทำคลายเครียด ทั้งสบามบาสขนาดเล็ก ตู้คีบตุ๊กตา ทีวีจอใหญ่ไว้สำหรับดูและเล่นเกมส์ ห้องจะแบ่งเป็นโซนส่วนตัวชัดเจน ถ้าเข้ามาแล้วอาจลืมไปเลยว่านี่เป็นมหาวิทยาลัย
“อ้าวใจ๋มาได้ไง” มาถึงก็เห็นพี่โซ่นั่งเล่นเกมอยู่คนเดียว
“พี่เสือบอกให้มารอค่ะ เอ่อ พี่เสือยังเรียนไม่เสร็จหรอคะ” แปลกใจนิดหน่อยเพราะพี่โซก็เรียนพร้อมกับพี่เสือแต่ทำไม่เขาอยู่นี่แค่คนเดียว
“มันยังเรียนอยู่ แต่พี่ขี้เกียจเอง”
“อ๋อ”
“เล่นเกมไหม?”
“ใจ๋เล่นไม่เป็นหรอกค่ะ”
“เดี๋ยวพี่สอนให้เอาไหม”
ฉันพยักหน้าตอบอย่างไม่คิดอะไรมากเพราะถ้าอยู่เฉยๆ คงคิดฟุ้งซ่านไปเรื่อยคิดว่ามีอะไรทำก็ดีเหมือนกัน
พี่โซ่ยื่นจอยเกมมาให้จากนั้นก็สอนฉันเล่น บอกตามตรงว่ามันไม่ค่อยเข้าใจเลยเพราะไม่ชอบทางนี้แต่พี่โซ่ก็มีความพยายามที่จะสอนมากๆ ในตอนนี้พี่โซ่กำลังนั่งซ้อนหลังของฉันอยู่จากนั้นก็เอามือมาช่วยจับจอยเกมแล้วแนะนำ
“กดตัวนี้นะ”
“แล้วก็กดตรงนี้ด้วย”
“แบบนี้ เห็นไหมง่ายๆ”
ขณะกำลังมีสมาธิอยู่กับการฟังพี่โซ่อธิบาย จู่ๆ หัวใจดวงน้อยก็กระตุกวูบเมื่อพี่เสือมาหยุดยืนตรงหน้า แล้วก้มมองฉันด้วยสายตาที่เย็นชาอย่างเคย
“มึงทำอะไร?” พี่เสือมองผ่านฉันแล้วถามเพื่อนของตัวเอง
“สอนน้องเล่นเกม”
“นั่นท่าสอนเล่นเกมมึง?”
พอมีสติฉันก็รีบขยับตัวออกห่างจากพี่โซ่ ไม่รู้ตัวเลยว่าใกล้กันขนาดนี้
“มึงคิดอะไร?”
พี่เสือไม่ได้ตอบคำถามจากเพื่อนแต่ก้มมามองฉันด้วยแววตาที่ตำหนิ
“ทำตัวให้มันดีๆ หน่อย อย่าลืมว่าตัวเองมีแฝด ใครมาเห็นแล้วเข้าใจผิดเธอไม่ได้เสียหายคนเดียว”
“ใจ๋ไม่เคยลืมว่าตัวเองมีแฝด อีกอย่างมันไม่ได้เสียหายอะไรเลย พี่โซ่แค่สอนเล่นเกมเอง”
“สอนแต่ปากก็ได้มั้ง จำเป็นต้องใกล้ขนาดนั้น?”
“ไม่มีใครเข้ามาที่นี่ได้อยู่แล้วนี่คะ” ฉันกำมือแน่นพร้อมพูดต่อ “พี่เสือไม่ต้องกลัวหรอก ใจ๋ไม่เคยทำให้จ๋ายเดือดร้อนอยู่แล้ว”
“หึ!!”
“อีกอย่างใจ๋กับจ๋ายเป็นแฝดกันก็จริงแต่เราไม่ใช่คนเดียวกัน แยกให้ออกสิคะ”
“ถ้าแยกไม่ออกฉันคงรู้สึกกับเธอไปนานแล้ว”
ฉันกำมือแน่น คำพูดแต่ละคำที่พี่เสือพ่นออกมามันทำให้ฉันทั้งเจ็บและจุกได้เสมอ
“ถ้าอย่างนั้นก็อย่าลืมแล้วกันว่าคนที่พี่เสือต้องหมั้นด้วยคือใจ๋”