“ผมจะกลับไปอยู่ที่บาฮามาสสักพัก ที่เกาะไดโอนีของผมไงครับแม่”
“โอ!” คลอเดียขมวดคิ้วมุ่นเมื่อรู้ความคิดบุตรชาย “แม่ไม่ชอบไดโอนีของลูกเลย ที่เกาะนั่นอันตรายจะตายไป”
เธอกำลังบ่นถึงเกาะเล็ก ๆ ซึ่งอยู่เลยหมู่เกาะบาฮามาสเข้าไปในเขตทะเลลึกของมหาสมุทรแอตแลนติก ฮอฟมันน์ซื้อเกาะที่อยู่ห่างไกลผู้คนเอาไว้และเรียกมันว่า ไดโอนี ตามชื่อดาวเคราะห์ซึ่งเป็นหนึ่งในดวงจันทร์บริวารของดาวเสาร์ เธอไม่เคยย่างกรายเข้าไปเพราะรอบ ๆ อาณาบริเวณเกาะมีน้ำวนในหลุมสีน้ำเงินใต้สมุทร (Ocean Blue Hole) ซุกซ่อนอยู่ในที่ใดสักแห่งหนึ่ง ทว่าสถานที่ยิ่งมีภยันตรายมากเท่าไหร่ก็ดูเหมือนว่าบุตรชายหัวขบถของเธอจะยิ่งโปรดปราณมันมากเท่านั้น
“แม่ไม่เคยได้ยินหรือครับว่า ที่ยิ่งอันตรายก็ยิ่งปลอดภัยสำหรับเรา”
“โอเค แม็กซ์ แต่อีกอย่างที่แม่อยากรู้ก็คือ...ลูกจะไปพบพ่อก่อนไปบาฮามาสหรือเปล่า?”
ฮอฟมันน์ทำสีหน้าครุ่นคิด ร่างสูงใหญ่ผิวแทนเข้มจัดภายใต้ชุดสูทเนื้อหนาบีบมือบางเบา ๆ อย่างทะนุถนอมก่อนกระตุกยิ้มมุมปากและกล่าวเสียงห้าวลึก
“ผมอาจจะแค่...แวะไป อีกอย่าง...ผมแค่อยากเห็นผู้หญิงคนใหม่ของพ่อ...ก็เท่านั้น”
แสงไฟหลากสีที่ส่องประกายวูบวาบด้านหน้าโรงแรมอันหรูหราดูจะดึงดูดสายตาของนักท่องเที่ยวและลูกค้าของบ่อนคาสิโนภายในเขตลาสเวกัส ทว่าอะไรก็ไม่น่าสนใจสำหรับบุรุษร่างสูงใหญ่ที่นั่งสงบนิ่งอยู่เบื้องหลังกระจกอาบฟิล์มดำสนิทภายในรถเก๋งที่จอดอยู่ไม่ไกลจากทางเข้าโรงแรมเท่ากับภาพของชายร่างสูงวัยกลางคนกับสาวสวยร่างอรชรอ้อนแอ้นในชุดเน้นสัดส่วนโค้งเว้าที่เดินคลอเคลียกันออกมา เบื้องหลังคนทั้งสองมีบอดี้การ์ดร่างใหญ่สองสามคนคอยอำนวยความสะดวกด้วยการเปิดประตูรถลีมูซีนให้ก่อนขับรถอีกคันตามออกไปไม่ห่าง ฮอฟมันน์ภายในชุดเสื้อยืดเน้นมัดกล้ามบนร่างหนาและกางเกงเดนิมยังคงนั่งนิ่งบนเบาะด้านหลังคนขับกระทั่งมีใครอีกคนเปิดประตูรถและก้าวขึ้นมานั่งด้านข้าง
“คุณฮอฟมันน์...เรื่องที่คุณให้ผมไปสืบ ผมได้ข้อมูลมาแล้วครับ”
เสียงทุ้มลึกของชายร่างโปร่งอายุราว ๆ สามสิบกว่าปีในชุดเสื้อโค้ตตัวยาวดังขึ้นก่อนยื่นซองกระดาษให้กับฮอฟมันน์แกะออกดู
“ผู้หญิงที่พ่อคุณพาไปไหนมาไหนด้วยตอนนี้ เธอชื่อ อัญมณี แต่ในวงการนางแบบใคร ๆ ต่างรู้จักเธอในชื่อ จูเวล...นี่เป็นรูปน้องสาวคนเดียวของเธอที่เมืองไทยครับ เธอชื่อ บุษราคัม เป็นพีอาร์อยู่ในโรงแรมแถวพัทยา”
ฮอฟมันน์ก้มลงมองรูปถ่ายในมือภายใต้แสงไฟสลัว นัยน์ตาสีน้ำเงินเป็นประกายเข้มจัดเมื่อเห็นคนในภาพซึ่งถูกถ่ายทั้งระยะไกลและใกล้ โดยเฉพาะรูปสุดท้ายเป็นใบหน้าของหญิงสาวชาวไทยที่ดูละม้ายกับนางแบบเปรี้ยวจัดคู่ควงของบิดาคนนั้น แม้แสงสว่างยังไม่มากพอให้เขาพินิจพิจารณาชัด ๆ ทว่า บุษราคัม ทักษาพินิจ ก็จัดได้ว่าเป็นผู้หญิงที่สวยมากคนหนึ่งเลยทีเดียว
ก็แค่ผู้หญิงหน้าตาดี...
ชายหนุ่มสะกดความคิดตัวเองลงที่พี่สาวของเจ้าหล่อน ถึงให้สวยหยาดฟ้ามาดินแค่ไหนหากก็คงไม่ใช่คนดีนักหรอก ในเมื่อเธอมีสายเลือดเดียวกันกับผู้หญิงคนนั้น...คนที่หวังปอกลอกบิดาและทำให้แม่ของเขาต้องเสียใจ
“เธอทำงานอยู่ในโรงแรม เคป พาราไดส์ ส่วนที่อยู่กับประวัติส่วนตัวของเธออยู่ในซองเอกสารนี้แล้วครับ”
“ขอบใจมาก พอล...นี่เป็นค่าเหนื่อยของคุณ”
ฮอฟมันน์ยื่นซองกระดาษที่เตรียมไว้ให้นักสืบของเขารับไปด้วยรอยยิ้ม น้ำหนักสิ่งของในนั้นทำให้ผู้รับแทบไม่ต้องคาดเดาเลยว่าคุ้มค่าแค่ไหนกับการลงแรง
“ถ้ามีอะไรนอกเหนือจากนี้ก็เรียกใช้ผมได้ทุกเวลาครับ คุณฮอฟมันน์”
“ถ้ามีอะไรจะให้สืบเพิ่มเติมอีก ผมจะนึกถึงคุณเป็นคนแรก...พอล”
รอยยิ้มเหี้ยมจุดขึ้นบนเรียวปากหยัก เมื่อนักสืบของเขาไปแล้วฮอฟมันน์ก็ยังคงนั่งจับจ้องรูปถ่ายในมือไม่วางตา
บุษราคัม...เธอคงไม่รู้ว่าเกมแห่งการเอาคืนกำลังเริ่มต้นขึ้นแล้ว
“ยังไม่กลับอีกหรือบุษ...แล้วนั่น กำลังนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ดีใจเรื่องอะไรบอกกันหน่อยได้ไหม?”
เสียงทุ้มลึกที่ดังขึ้นทำให้เจ้าของใบหน้าสวยหวานในชุดผ้าไหมไทยสีบานเย็นที่กำลังก้มหน้ายิ้มอมเงยไปมองหน้าเคาน์เตอร์ภายในล็อบบี้ของโรงแรมอันหรูหราเพื่อพบว่ามีหนุ่มร่างสูงหน้าตาดียืนรอคำตอบอยู่
“อ้าว!...ปกรณ์...บุษกำลังจะกลับ แต่มีข่าวดีเลยยังไม่ไปไหนค่ะ”
หญิงสาวยิ้มกว้างอวดฟันขาวเยบเป็นระเบียบขณะอีกฝ่ายชะโงกหน้าดูของที่เธอกุมไว้ในมือ
“ข่าวดีอะไรกันที่ทำให้บุษมีความสุขได้ขนาดนี้”
ปกรณ์ หนุ่มหล่อวัยยี่สิบแปดซึ่งมีตำแหน่งเป็นถึงเชฟระดับมิชลินของ เคป พาราไดส์ โรงแรมระดับห้าดาวริมหาดพัทยาออกอาการใคร่รู้เมื่อ บุษราคัม สาวสวยพนักงานต้อนรับบอกเขาเช่นนั้น
“พี่อิงส่งจดหมายมาค่ะ แถมมีตั๋วเครื่องบินให้บุษไปหาเขาด้วย”
“อะไรนะ! พี่อิงของบุษน่ะหรือ ส่งตั๋วเครื่องบินมาให้”
เจ้าของนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มย่นคิ้วเมื่ออีกฝ่ายบอกข่าวดีของเธอ หากช่างเป็นเรื่องน่าแปลกประหลาดสำหรับเขายิ่งนัก ปกรณ์รู้จักบุษราคัม สาววัยยี่สิบสี่ปีรูปร่างบอบบางและมีใบหน้าสวยหวานตั้งแต่เธอมาทำงานในตำแหน่งพนักงานประชาสัมพันธ์ของเคป พาราไดส์