“คือผม…”
“อ้าว! ไรอัน! ใช่ไรอันหรือเปล่า” เสียงของใครคนหนึ่งดังขึ้นจากภายในโรงเรียนตามมาด้วยร่างของหญิงสาวใบหน้าคมคายผิวสีน้ำผึ้งในชุดยูนิฟอร์มคุณครูของทางโรงเรียนอนุบาลฮานะ เดินก้าวเร็ว ๆ มายังจุดที่เขาและครูเวรประจำวันยืนอยู่ “ใช่ไรอันแน่ ๆ จำเราได้หรือเปล่า เมษาไง ที่เราเคยเรียนเยียร์สิบสองด้วยกัน"
“เมษา…” ไรอันนึกอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะระบายรอยยิ้มหล่อโลกละลายออกมา “เมษา จางใช่ไหม ลูกครึ่งจีนเหมือนกับเรา ที่เธอเข้ามาทักเราก่อน"
“ใช่ เมษาคนนั้นนั่นแหละ นี่เป็นไงมาไงเนี่ย ถึงได้มาเจอกันอยู่ที่นี่" เจ้าของชื่อเมษาถามด้วยรอยยิ้มตอบกลับเช่นเดียวกัน เธอหันไปมองเพื่อนร่วมอาชีพที่ยืนทำอะไรไม่ถูกอยู่ก็เลยอธิบาย “คนนี้เขาเป็นเพื่อนของพี่ เดี๋ยวยังไงมีอะไรพี่คุยเอง น้องอุ้มไปยืนรับเด็ก ๆ ต่อได้เลยนะจ๊ะ พี่ขอเวลาส่วนตัวนิดหนึ่ง"
ครูเวรประจำวันแม้จะไม่เต็มใจนักแต่ก็พยักหน้าขึ้นลงอย่างเข้าใจและเดินห่างออกไปตามที่ครูรุ่นพี่เอ่ยปากขอ เห็นดังนั้นเมษาจึงวนกลับมาที่คำถามเดิม
“สรุปยังไง ไม่เจอกันนาน หล่อขึ้นเยอะแถมยังมีเมียมีลูกแล้วซะด้วย มาส่งลูกเข้าโรงเรียนเหรอไรอัน"
คนถูกถามยกมือขึ้นเกาท้ายทอยแก้เก้อ
“ไม่ใช่หรอกเมย์ เรามา…”
“มา…" หล่อนเลิกคิ้วขึ้น “นี่ถ้ายังอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ อีกฉันจะคิดเอาเองแล้วนะว่านายมีลูกแล้วแต่แค่ไม่กล้าบอกฉันน่ะ"
“ไม่ใช่แบบนั้นหรอก" ไรอันส่ายหัวเบา ๆ “เป็น… ลูกสาวของพนักงานในบริษัทของฉันน่ะ คือฉันก็แค่เอ็นดูเหมือนเป็นลูกหลานนั่นแหละ”
“ไม่ใช่ว่าอ้างเพื่อแก้ตัวหรอกใช่ไหม นี่ ฉันดูนายออกนะไรอัน" เมษาหรี่ตามองอย่างจับผิด
“แก้ตัวอะไรล่ะ ฉันแค่อยากรู้ว่าเด็กคนนี้เป็นลูกเต้าเหล่าใครเท่านั้น เห็นคนในบริษัทฉันเทียวรับเทียวส่ง เผื่อได้ซื้อขนมไปฝากเขาเวลาเจอกันที่ทำงาน” เขาตอบยืดยาวพยายามไม่ให้มีพิรุธที่สุด เพื่อนสาวพยักหน้าขึ้นลงก่อนบอก
“โรงเรียนของฉันมีกฎเพื่อความปลอดภัยของเด็ก ๆ น่ะ ถ้าไม่ใช่พ่อแม่หรือผู้ปกครองที่ลงทะเบียนไว้ในระบบก็เข้าไปข้างในไม่ได้หรอกนะ ถ้านายอยากจะถามมันก็ยากหน่อย"
“เธอช่วยฉันหน่อยสิเมย์” ไรอันเอ่ยบอกความต้องการของตนทันที
“ช่วยน่ะมันก็พอช่วยได้ ยังไงฉันก็เป็นถึงรองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการอยู่แล้ว เห็นแก่นายเคยช่วยเหลือฉันหลายครั้งตอนที่เรียนด้วยกันที่อังกฤษหรอกนะ” หญิงสาวปัดปลายผมของตัวเองออกจากลำคอแล้วหันหลังเดินนำ “ตามมาสิ"
“ขอบคุณนะเมย์" ไรอันรีบบอกเพื่อน ก่อนจะเดินตามหลังไป สายตาก็สอดส่ายมองหาเด็กหญิงที่ตนอยากพบและพูดคุยมากที่สุด
“พี่เมย์จะพาเขาเข้าไปด้านในเหรอคะ” ครูเวรประจำวันคนเดิมถามอย่างไม่ไว้วางใจ
“ใช่ เขาเป็นแขกของพี่ พี่ไม่ได้จะพาไปวุ่นวายกับเด็ก ๆ หรอก พอดีมีเรื่องต้องคุยกันยาวหน่อย จะให้ยืนหน้าโรงเรียนก็คงจะขาแข็ง ยังไงก็ให้พี่เป็นกรณีพิเศษหน่อยนะคะน้องอุ้ม" ผู้มีตำแหน่งสูงกว่าใช้สายตากดดัน
“เอ่อ… ก็ได้ค่ะ” เธอตอบรับเสียงอ่อนแล้วถอยทางให้ทั้งสองได้เข้าไปภายในโรงเรียน
“ว่าแต่ว่า เด็กที่นายอยากมาเจอชื่ออะไรงั้นหรอ” คนที่เดินนำหน้าถามขึ้น
“ฉันไม่รู้ชื่อ จะวานให้เธอสืบให้นี่แหละ” ชายหนุ่มตอบกลับ “เป็นเด็กผู้หญิง ผมสีดำ ตาสีฟ้า ผิวขาวจั๊วะ มีพ่อหรือไม่ก็แม่ทำงานบริษัท W&C pub แบบนี้พอจะหาข้อมูลให้ได้ไหม”
“เดี๋ยวฉันค้นหาในทะเบียนนักเรียนออนไลน์ให้ รอเดี๋ยว" เมษาหยิบโทรศัพท์มือถือเครื่องบางเฉียบของตนออกมาจากกระเป๋ากางเกง นิ้วเรียวกดยิก ๆ อยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันหน้าจอมาทางไรอัน “ใช่เด็กคนนี้หรือเปล่า”
ชายหนุ่มเพ่งสายตามองแล้วก็ยิ้มออกมาโดยไม่มีเหตุผล ไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงดีใจที่ได้เห็นขนาดนั้น เขาพยักหน้า
“ใช่ คนนี้แหละ ช่วยให้ฉันได้เจอแกหน่อยได้ไหม"
“ได้อยู่แล้ว เด็กคนนี้อยู่อนุบาลสองทับหนึ่ง คราวหน้าถ้านายจะมาก็บอกฉันล่วงหน้าด้วยแล้วกัน" เมษาว่า พลางเก็บมือถือลงแล้วนำทางไรอันไปยังห้องเรียนขนาดใหญ่ที่มีป้ายสีน้ำเงินตัวอักษรสีขาวเรียงกันว่า Kindergarten 2 Room 1 “ริต้าจ๊ะ พี่ขอเด็กออกมาแป๊บหนึ่งได้ไหม คนที่ยืนอยู่ตรงนั้นน่ะ"
เมษาเอ่ยบอกกับครูพี่เลี้ยงที่ยืนอยู่บริเวณหลังห้อง เพียงครู่เดียวเด็กหญิงตัวเล็กที่ไรอันอยากพบหน้ามากที่สุดก็มาหยุดยืนอยู่ต่อหน้าเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ไม่รอให้ใครต้องเอ่ยบอก หนูน้อยยกมือขึ้นไหว้ไรอันทันทีแม้จะเป็นคนแปลกหน้า โดยไม่ลืมที่จะหันไปสวัสดีเมษาด้วย
“มารยาทดีจริง ๆ เลยเด็กคนนี้ คุยกันตามสบายเลยนะ เดี๋ยวฉันต้องรีบไปประชุมต่อ” เพื่อนสาวเอ่ยลา ไรอันที่กำลังจดจ่ออยู่กับเด็กหญิงหน้าตาน่าเอ็นดูจึงทำได้เพียงพยักหน้ารับ ไม่มีการเอ่ยบอกลาใด ๆ ทั้งสิ้น “พี่ฝากด้วยนะริต้า”
เมษาสำทับเป็นครั้งสุดท้าย แล้วเดินออกไปทำธุระของตน
“หนูชื่ออะไรครับ อาถามได้ไหม" ไรอันถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ขณะที่ย่อตัวลงให้เสมอกับเด็กหญิงตัวน้อย
“หนูชื่อ เร… อันค่ะ น้องเรอัน” เด็กน้อยตอบพร้อมกับยิ้มยิงฟันให้เห็นฟันซี่เล็ก ๆ ที่เรียงตัวสวย ความสดใสนั้นทำเอาไรอันต้องยิ้มตอบกลับอย่างห้ามตัวเองไม่อยู่
“น้องเรอันน่ารักจังเลยครับ ไว้อาจะซื้อขนมมาให้หนูนะครับ" เขาบอกพลางส่งมือไปลูบผมของเด็กหญิงเรอันแผ่วเบา “พ่อกับแม่ของหนูชื่ออะไรครับ”
ในที่สุดชายหนุ่มก็ทำใจเอ่ยปากถามในสิ่งที่ตนอยากรู้ออกไปจนได้ และหวังว่าคำตอบทั้งหมดจะต่างจากที่เขาคิด…
ทีแรกเด็กหญิงเรอันเอียงคอเหมือนจะไม่เข้าใจในคำถาม แต่ในที่สุดก็ตอบพร้อมกับรอยยิ้มอีกครั้งอย่างไม่ประสีประสา
“พ่อบีม… กับแม่เหนือค่ะ”
ถ้อยคำสั้น ๆ นั้นแทงลึกเข้าไปในใจของไรอันทันที เขาชะงักมือที่กำลังลูบเส้นผมนุ่ม ๆ นั้นลงแล้วลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำเอาเด็กหญิงตัวน้อยหน้าเหวอด้วยความตกใจ ริต้าที่ยืนอยู่ห่าง ๆ ไม่ได้ยินบทสนทนาด้วย แต่เมื่อเห็นท่าไม่ดีจึงรีบเดินมายืนซ้อนข้างหลังเรอัน
“ขอตัวก่อนนะครับ” ไรอันพูดเสียงเบาแล้วหันหลังจ้ำอ้าวออกไปจากบริเวณนั้นทันที ใบหน้าคมเคลือบไปด้วยอารมณ์หลากหลาย ทั้งความเสียใจ ความเสียดาย ความโกรธ และความไม่เข้าใจ
เพราะแบบนี้ใช่ไหมพี่เหนือ… พี่ถึงได้ไม่สนใจผม
“คุณครูขา หนูไม่ได้มีแค่… พ่อบีมกับแม่เหนือนะคะ" เด็กหญิงเรอันพูดขึ้นหลังจากที่ไรอันเดินออกไปแล้ว “หนูมีแม่หนิงด้วยค่ะ”
ริต้าก้มลงมองเด็กหญิง แม้จะไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายบอกตนเองทำไม แต่ก็เอื้อมมือไปจูงมือน้อย ๆ ให้เดินตามเข้าห้องเรียน
“ครูเข้าใจแล้วค่ะ เพราะงั้นน้องเรอันต้องตั้งใจเรียน ไม่ดื้อกับคุณครูนะคะ คุณพ่อบีม คุณแม่เหนือ แล้วก็คุณแม่หนิงจะได้ภูมิใจ”
เรอันยิ้ม อาการตกใจที่บุคคลแปลกหน้าหุนหันเดินออกไปละลายหายเป็นปลิดทิ้ง เธอเดินตามหลังคุณครูคนสวยเข้าไปภายในห้องเรียนและไม่ได้นึกถึงคุณอาที่เพิ่งลูบหัวเธออีกตลอดทั้งวัน
ร่างเพรียวระหงของหญิงสาววัยเลขสามเดินวนเข้าออกครัวอยู่สองสามรอบ ขณะที่กำลังจัดสำรับกับข้าวเพื่อยกขึ้นเสิร์ฟบนโต๊ะ เธอเช็ดมือเปียกกับผ้ากันเปื้อนสีเหลืองอ่อนของตัวเองแล้วร้องเรียกเพื่อนสนิททั้งสองในห้องนั่งเล่นให้เข้ามาทานอาหารในห้องครัว
“หนิง! บีม! กับข้าวเสร็จแล้วนะ รีบมากินเร็ว เดี๋ยวจะหายร้อนซะก่อน"
“จ้า ฉันกำลังไป ไอ้บีมนั่นแหละตั้งแต่ไปรับน้องเรอันกลับมาวันนี้ก็มัวแต่พาเล่นทำท่าสัตว์ พอได้แล้วน่า เหนือรออยู่นะ" เสียงสุกัญญาตอบกลับมาจากห้องนั่งเล่น สักพักทั้งสามคนก็เดินเข้ามานั่งที่ประจำของตัวเอง
“โอ้โห มื้อใหญ่เลยนะครับเนี่ยพี่เหนือ เนื่องในโอกาสอะไรเหรอครับ” สรศักดิ์ถามขณะที่ยกจานไปรับข้าวสวยร้อน ๆ ที่ดาวเหนือตักให้
“ไม่มีโอกาสอะไรหรอก ก็แค่อยากขอบคุณที่ที่ผ่านมาบีมกับหนิงช่วยเราเลี้ยงลูกมาตลอด ไหนจะเรื่องที่ยอมเป็นพ่อทูนหัวแม่ทูนหัวให้เรอันอีก กับข้าวมื้อเล็ก ๆ แค่นี้เทียบไม่ได้เลยกับสิ่งที่ทั้งสองคนทำให้เรา"
สุกัญญาหันไปมองหน้าสรศักดิ์ทีหนึ่ง ก่อนจะเอื้อมมือไปแตะเอวเพื่อนรักของตนเบา ๆ
“ไม่เป็นไรเลยเหนือ ของแบบนี้ไม่เห็นจะต้องตอบแทนเลย เรากับบีมเต็มใจมาก ๆ ดีซะอีกที่เหนือไว้ใจให้เรากับบีมเป็นพ่อกับแม่ทูนหัวของเรอัน อีกอย่างนะฉันไม่อยากเห็นเธอต้องเลี้ยงลูกคนเดียวด้วย"
“นั่นสิพี่เหนือ เรอันก็เหมือนลูกผมคนหนึ่ง ไม่ต้องคิดมากเรื่องบุญคุณอะไรหรอกนะครับ" สรศักดิ์สมทบด้วย ดาวเหนือจึงยิ้มรับน้ำใจของเพื่อน
“ขอบคุณทั้งสองคนมาก ๆ เลยนะ” ดาวเหนือมองไปยังลูกสาวของตนที่กำลังนั่งกินซุปสาหร่ายอย่างเอร็ดอร่อยแล้วพึมพำออกมาเสียงเบา “ครั้งหนึ่งฉันเคยมองว่าเรอันคือความผิดพลาด…แต่ความจริงแล้วไม่เลย เรอันคือของขวัญที่ล้ำค่าที่สุดในชีวิตของฉันในตลอดสี่ปีที่ผ่านมาต่างหาก…”
……
ฝากติดตามด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ