Merryweather bar
ท่ามกลางบรรยากาศครึกครื้นของเสียงดนตรี รวมนักท่องราตรียามค่ำคืน ผู้คนมากมายล้วนสนุกสนานเหมือนได้ปลดปล่อยระบายเรื่องตึงเครียดตลอดวัน
"มึงเป็นอะไรว่ะไอคลิน ดื่มหนักขนาดนี้มึงได้เมาก่อนนั่งชมบรรยากาศนะโว้ย" ฟรานเพื่อนชายเตือนอย่างหวังดี เขาพึ่งมาสนิทกับอีกฝ่ายได้ไม่นาน พอเห็นมาคลินยกดื่มแก้วเหล้าเอาเป็นเอาตาย จึงปัดมือออกห้ามไว้ก่อน
"กูจะลืมคืนนี้ให้หมดแมร่งจริงๆ เป็นคนดีแล้วไม่ได้เชี้ยไรเลย!" มาคลินแย่งแก้วเหล้าใบเดิมมากระดกพรวดเดียว ต่อให้ใครมาห้ามตอนนี้ก็หยุดไม่ได้
ภาพของหญิงสาวยังมองเขาด้วยสายตาเฉยชา ตีตื้นฉายวนในหัวสมองราวกับตอกย้ำ เสื้อเชิ้ตสีขาวตัวเดิมยังหลุดรุ่ยฟุ้งกลิ่นน้ำหอมละมุนชวนใจแกร่งเอนไหว
"ใจเย็นๆดิว่ะ สาวคนไหนทำมึงมีอาการหนักขนาดนี้ ลองคนสวยๆของร้านไอเตนล์ดูไหม" ฟรานส่งสายตาหื่นกระหายไล่มองไปทางโซนสาวสวยนั่งคอยบริการลูกค้ามากมาย แต่ต้องรีบวกกลับมาสนใจเพื่อนชาย เพราะเขากำลังเดินหน้าจีบน้องสาวเขาอยู่
"กูไม่มั่วหญิง มึงอยากได้ก็ไปเรียกเหอะ" นัยน์ตาคมมองผ่านต่างจากบุรุษคนอื่น เขามีหญิงสาวหนึ่งเดียวในใจมาตลอดแต่อีกฝ่ายไม่เคยรู้ และสถานะของเขาก็ไม่ควรได้พูดบอกไป
"ไม่ว่ะ เดี๋ยวน้องพลอยรู้กูจะดูไม่ดี" เขาแสร้งพูดเอาใจพี่ชายเธอ รู้ทั้งรู้ว่ามาคลินไม่ได้สนใจน้องสาวเลยสักนิด ปล่อยเวลาส่วนตัวที่มาคนเดียวค่อยควงพีอาร์สวยๆ กลับไปปรนเปรอต่อที่โรงแรม
"บอกกูเพื่อไรว่ะ กูไม่ได้อยากรู้เรื่องคนอื่นไปซะทุกเรื่อง แค่ตอนนี้เอาตัวเองให้รอดก่อนไหม" ใบหน้าหล่อเหลาเริ่มแดงก่ำสลับกับสูบบุหรี่รับสารนิโคตินอย่างหนัก จนไม่เหลือเค้าโครงนักธุรกิจมาดเนียบ เขาไม่สนใจจะรักษาภาพลักษณ์มันเลย
"เออ กูเรียกเด็กมาเติมเหล้าให้ แต่มึงต้องรีบกลับนะเว้ยพรุ่งนี้บริษัทประชุมเช้า เดี๋ยวมึงได้โดนบ่นอีก"
"เออ" เหลืออีกไม่กี่ชั่วโมงดีก็จะเช้าวันใหม่ เขายังจำกำหนดเดินทางไปต่างประเทศของรินเซ่ได้ หากเธอเลือกแล้วเขาคงต้องปล่อยไป ขืนรั้งไว้มันจะมีประโยชน์อะไรต่อ
@ เช้าวันใหม่
ณ สนามบินปริปัจน์
"พี่นาถเอกสารของรินอยู่ไหนคะ" น้ำเสียงหวานเอ่ยถามกับผู้จัดการส่วนตัว อายุอีกฝ่ายโตกว่าไม่กี่ปีเลยค่อนข้างสนิทกันร่วมงานมานาน ขณะที่กำลังส่งสัมภาระมากมายให้เจ้าหน้าที่ เตรียมขึ้นเครื่องบินตอนถึงเวลา
รินเซ่จับแว่นตากันแดดสีดำแบรนด์ดังกระชับเข้าที่ ดึงปลายหมวกแก๊ปปกปิดใบหน้าสวย ในสถานที่เปิดกว้างย่อมมีนักข่าวซุ่มตัวรอทำข่าวซุบซิบแวดวงบรรเทิง เธออยากให้การเดินทางครั้งนี้ไปเงียบที่สุด ไม่ใช่แค่เรื่องงานแต่มันรวมเรื่องส่วนตัวพร้อมกัน
"เดี๋ยวพี่เคลียร์ให้เองนะ เรารีบไปนั่งรอเถอะเดี๋ยวมีใครเห็นแล้วจะยุ่งอีก" นาถรับหน้าที่ปกป้องนางแบบสาว เอื้อมมือดันแผ่นหลังบางให้เธอเดินเข้าชั้นโดยสาร ที่เชื่อมต่อกับทางขึ้นเครื่องระดับเฟิร์สคลาสเน้นความเป็นส่วนสูงสุด
พอรู้เรื่องคร่าวๆว่าทำไมเธอถึงอยากรับงานต่างประเทศนัก แต่ก็ไม่อยากเซ้าซี้ทำลายความรู้สึกอีกฝ่าย
"โอเค แล้วรีบตามไปนะ" ร่างบางรีบเดินไปตามที่ผู้จัดการบอก เธอจะทิ้งเรื่องราวทั้งหมดไว้ที่นี่ แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่ในต่างประเทศรวมถึงค่ำคืนอันแสนข่มขืนของเมื่อวานด้วย ปล่อยกาลเวลาเป็นตัวช่วยลบลืม
@บริษัท Makin
ณ ห้องรองประธาน
ก็อก ก็อก!
"เข้ามาได้" น้ำเสียงเข้มเจ้าของห้องรีบบอกอนุญาต หลังจิตใจว้าวุ่นเพราะความอยากรู้ ไม่เป็นอันสนใจงานเอกสารสำคัญ ร่างสูงสง่ามาดตำแหน่งรองประธานเลื่อนวางปากกาในมือลงเพ่งมองประตูทางเข้า
"นายครับ เที่ยวบินไปอังกฤษออกเดินทางแล้วนะครับ" เมฆรับหน้าที่ผู้ช่วยชาย เร่งรายงานตามที่เขาสืบมาแค่เจ้านายออกคำสั่ง เขาไม่เคยทำผิดพลาดสักประการ ด้วยวัยอายุไล่เลี่ยกับเจ้านายเลยค่อนข้างรู้ความคิดไปเสียหมด
"อืม...ไปทำงานต่อเถอะ" ใบหน้าหล่อเหลาหันมองทางหน้าต่างกระจกใส ตึกสูงระฟ้าเห็นระยะไกล มีเครื่องบินแล่นขึ้นสู่ห้วงชั้นบรรยากาศ ใจแกร่งมันเจ็บปวดรวดร้าวแต่ไม่อาจแสดงอาการให้ใครเห็นได้ ทุกอย่างช่างตอกย้ำว่าเขาไม่สามารถรั้งเธอไว้ได้จริงๆ
แอ๊ด~~ แต่ยังไม่ทันไรประตูเลื่อนก็เปิดกว้างใหม่อีกครั้ง เป็นบิดากำลังเยื้องกรายเข้ามา มาดท่านประธานน่าเกรงขามทำให้เมฆต้องรีบก้มทำความเคารพก่อนออกไป บุคคลในห้องต้องรีบสับเปลี่ยนอารมณ์ทันที เพราะกลัวว่าทศพลจะเป็นห่วงหลังเหลือท่านคนเดียวแล้ว
"ประชุมวันนี้เป็นยังไงบ้างตาคลิน โปรเจคที่เรานำเสนอพ่อว่าดีมากเลยนะ" ทศพลเอ่ยชื่นชมบุตรชายคนโตอย่างภาคภูมิใจ ตรงมาทิ้งกายนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามเจ้าของห้อง
ตั้งแต่มาคลินเข้ามาช่วยงานบริหารดูทุกอย่างจะราบรื่นและหุ้นทุกไตรมาสกอบโกยกำไรได้งาม เขาเริ่มอยากไปพักผ่อน ปล่อยคนหนุ่มไฟแรงได้ทำงานต่อ
"ถ้าพ่อไม่ติดอะไร ผมส่งทีมออกแบบเริ่มงานเลยนะครับ" น้ำเสียงเข้มรีบบอก มุมปากหยักกระตุกยิ้มร้าย เขาจะไม่ยอมอ่อนข้อให้บริษัทคู่แข่งอีกต่อไปแล้ว ถึงแม้ว่าจะเคยเป็นเพื่อนสนิทกันมาก่อน
"เอาสิลูก ถ้าคลินเริ่มทำสินค้าออกสู่ตลาดได้เร็ว อีกไม่นานได้ขึ้นรับตำแหน่งประธานได้แน่"
"มันจะไม่เร็วไปหรอครับ ถ้าไม่มีท่านประธานอยู่สอนงานแล้วผมจะแย่เอานะ" ใบหน้าหล่อเหลาฝืนยิ้มออก ปฏิเสธอารมณ์ดิ่งในใจ ฝ่ามือหนารีบเลื่อนปิดลิ้นชัก ที่ซ่อนรูปของใครบางคนเต็มไปหมด
"ฮ่าๆ เราโตขนาดนี้แล้วตาคลิน แต่เอาเถอะพ่อจะอยู่ดูเราไปก่อนก็ได้" ชายวัยกลางคนหลุดหัวเราะพอใจ ท่านแอบกังวลอยู่เล็กน้อย เพราะไม่ได้มีแค่ลูกชายคนเดียว ถึงมาคลินไม่ยอมรับน้องสาวต่างมารดา
"ให้ได้อย่างนี้สิครับ เที่ยงนี้ผมขอเลี้ยงข้าวท่านประธานแล้วกัน กินคนเดียวคงไม่อร่อยแน่"
"ได้..พ่อไม่ขัดเราอยู่แล้ว"
..................................................
โปรดเตรียมอกเตรียมใจกับตอนต่อไป 555