บนโต๊ะอาหารตอนนี้ที่มีอาตงกับอามิวนั่งคู่อยู่ฝั่งตรงข้าม และมีพี่โมสนั่งตรงข้ามกับอาตงและกอหญ้าก็นั่งอยู่ข้างๆ พี่โมสตรงข้ามอามิว มันช่างเป็นมื้ออาหารที่วิเศษสุดจริงๆ กอหญ้าได้นั่งทานข้าวกับคนที่กอหญ้าแอบชอบมาตลอดด้วย ดีใจที่สุดเลย
“กอหญ้า..กอหญ้าจ๊ะ”
“คะ..?”
“เป็นอะไรหรือเปล่าจ๊ะ..อาเรียกตั้งหลายรอบแล้วนั่งคิดอะไรอยู่หรอ..?”
“ปะ ปะ เปล่าค่ะ..”
“งั้นก็รีบทานนะจ๊ะ อาจะได้รีบพาไปสมัครเรียน ออกไปพร้อมพี่โมสเขาเลย..”
“เดี๋ยวผมไปเองดีกว่าครับแม่..”
“อ้าว.! ทำไมละ ก็ไปด้วยกันนี่แหละไปรถแม่จะไปโหนรถเมล์ทำไม..?”
“ผมนัดเพื่อนไว้แล้วอะครับ แล้วผมก็ไม่ได้มีเรียนเช้าด้วย วิชาแรกเริ่มเรียนตอนบ่ายโมง..”
“บอกเพื่อนแกไปเจอที่มหาลัยเลยซิ แล้วแกก็ไปพร้อมแม่แกนี่แหละดีแล้ว พอแม่แกพาน้องสมัครเรียนเสร็จ แกจะได้พาน้องเดินไปแนะนำรอบๆ มหาลัยด้วยตัวเองด้วย..”
“แต่ว่า..”
“แค่ช่วงนี้เท่านั้นแหละโมส ให้น้องเริ่มคุ้นเคยสถานที่ให้มีเพื่อนก่อน ถึงตอนนั้นแม่ค่อยวางใจ”
“ครับ..”
กอหญ้าหันไปมองหน้าของพี่โมสก็รู้ได้ทันทีว่าเขาคงไม่พอใจ ที่โดนทั้งอาตงและอามิวบังคับให้มาคอยดูแลกอหญ้าแบบนี้ แล้วจู่ๆ เขาก็หันมามองหน้ากอหญ้าจนกอหญ้าตกใจต้องรีบหลบหันหนี สายตาเมื่อกี้น่ากลัวจังแค่เห็นแค่นิดเดียวนะเนี่ย
...
มหาวิทยามอชออินเตอร์
“ดีนะที่กอหญ้าโอนหน่วยกิจมาจากมหาลัยที่กรุงเทพฯได้ แล้วที่นี่ก็มีสาขามัณฑนศิลป์พอดีแบบนี้สบายเลย ไม่ต้องลงเรียนใหม่ให้เสียเวลา..”
“ใช่ค่ะ..ตอนแรกกอหญ้าก็คิดว่าจะต้องลงเรียนใหม่แล้วเหมือนกัน ไม่คิดเลยว่าจะได้เรียนต่อเนื่องไปเลยแบบนี้ดีจังค่ะ..”
“เรื่องเรียนก็ผ่านไปแล้วเหลือแค่เรื่องเพื่อนนี่แหละ ย้ายมาตอนกลางเทอมด้วยต้องมาทำความรู้จักกับเพื่อนกลุ่มใหม่ ปรับตัวเยอะหน่อยนะกอหญ้า..”
“ค่ะอามิว..”
“เสร็จหรือยังครับผมจะได้รีบไปหาเพื่อน..?”
“แล้วน้องละ..พ่อบอกว่ายังไง..?”
“แม่..ผมนัดเพื่อนไว้แล้วนะ..”
“พ่อบอกว่าให้โมสพาน้องเดินดูรอบๆ มหาลัยเพื่อแนะนำสถานที่นะ..”
แม่พูดย้ำประโยคที่พ่อสั่งกำชับผมมาว่าให้พากอหญ้าไปเดินดูรอบๆ มหาลัย
“ไม่เป็นไรค่ะอามิว เดี๋ยวกอหญ้าเดินเล่นรอบๆ มหาลัยเองก็ได้ค่ะ พี่โมสจะได้รีบไปหาเพื่อน.”
“ไม่ได้อาไม่ยอม..โมสต้องพาน้องไป”
“แต่ผมจะเข้าเรียนแล้วนะแม่..”
“ตั้งบ่ายโมงนี่มันเพิ่ง 10 โมงเอง..เอานะแม่ฝากน้องหน่อย เดี๋ยวแม่จะไปทำธุระก่อนบ่ายโมงแม่จะรีบกลับมารับน้องแม่ฝากดูแลน้องก่อน..เข้าใจไหมโมส..”
“ครับ..ก็ได้..”
“อามิวจะไปไหนหรอคะ..?”
“อาจะไปทำธุระของที่ร้านนิดหน่อยนะจ๊ะ กอหญ้าอยู่กับพี่โมสไปก่อนนะ อาจะรีบกลับมารับก่อนบ่ายโมงชัวร์ นะจ๊ะ..?”
“ค่ะ..”
แม่ผมพูดจบก็รีบวิ่งออกไปทันที โดยที่เอาตัวกอหญ้ามาทิ้งไว้กับผมแบบนี้
“พี่โมสจะไปไหนคะ..?”
“ฉันจะไปหาเพื่อน..”
“...”
“นี่เธอ..ฉันบอกจะไปหาเพื่อนไม่ได้ยินหรือไง..?”
“ได้ยินค่ะ..”
“แล้วเธอจะตามฉันไปทำไม คำว่ามารยาทสะกดเป็นไหม..จะเดินตามฉันไปเพื่อ..?”
“แต่อามิวให้พี่โมสคอยดูแลกอหญ้านี่คะ..”
“ฉันไปหาเพื่อนฉัน มันก็คือเวลาที่ฉันจะต้องอยู่แค่กับเพื่อน คนอื่นไม่ควรเสนอหน้าเข้าไปยุ่ง ถ้าเธอคิดเป็นก็เลิกตามฉันได้แล้ว..”
“แล้วถ้ากอหญ้าไม่ตามพี่โมสไป แล้วจะให้กอหญ้าไปไหนละคะ..?”
“งั้นก็ยืนอยู่ตรงนี้..ยืนรอฉันตรงนี้นี่แหละ ฉันคุยกับเพื่อนเสร็จเมื่อไหร่ฉันจะกลับมา..”
“ให้ยืนรอตรงนี้หรอคะ..?”
“เออ..”
...
เวลา 4 โมงเย็น
กริ๊งง กริ๊งงง >>>
“ครับแม่..”
(เลิกเรียนแล้วใช่ไหม พาน้องกลับมาบ้านด้วยนะ.?)
“แม่ยังไม่ได้มารับยัยนั่นอีกหรอ..?”
(ทำไมเรียกน้องว่ายัยนั่นหละ นิสัยไม่ดี)
“แล้วทำไมแม่ไม่มารับกอหญ้าเองละครับ มาทิ้งไว้ให้เป็นภาระผมทำไม..”
(เดี๋ยวเถอะพูดไม่น่ารักเลยนะ แม่จะฟ้องพ่อให้จัดการคอยดู..)
“ครับๆ ..ขอโทษครับ..”
(เมื่อกี้แม่โทรไปหาน้อง..เห็นน้องบอกว่าโมสพาน้องเดินดูรอบมหาลัยจนทั่วเลย ทำดีมากนะแต่จะดีกว่านี้ถ้ารีบพาน้องกลับมาบ้าน..นี่พาน้องไปรอแม่ที่ไหนเนี่ย..เห็นน้องบอกว่าโมสสั่งให้รอที่เดิม..?)
“เอ่อ...”
ผมเดินออกมาจากห้องเรียนเรื่อยๆ ก็เดินมาเห็นกอหญ้ายังยืนอยู่ที่เดิมจริงๆ ไม่ไปไหน ยัยนี่ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ
“แค่นี้ก่อนนะครับแม่..”
ผมวางสายจากแม่ทันทีแล้วรีบเดินเข้าไปหาเธอ
“นี่เธอ..”
“พี่โมส..”
“อย่าบอกนะว่าเธอยืนอยู่ตรงนี้ตั้งแต่ที่ฉันสั่ง.?”
“ค่ะ..”
“เห่ย.! บ้าปะเนี่ยไม่ร้อนหรือไง..?”
“ร้อนค่ะ..”
“ร้อนแล้วทำไมไม่เข้าไปนั่งรอในร่ม นี่เธอยืนตั้งแต่ 10 โมงยัน 4 โมงเย็นเลยเนี่ยนะ..?”
“ค่ะ..”
“...”
“ก็พี่โมสบอกให้กอหญ้ารอตรงนี้ไม่ให้ไปไหนนี่คะ..”
“นี่เธอซื่อหรือเธอบ้ากันแน่เนี่ย คนปกติที่ไหนเขาทำกันมายืนตากแดดอยู่ได้ตั้งเกือบ 4-5 ชั่วโมง นี่ถ้าพ่อกับแม่รู้ว่าฉันปล่อยให้เธอยืนตากแดดแบบนี้นานๆ พ่อกับแม่เอาฉันตายแน่ๆ ..”
“กอหญ้าไม่บอกหรอกค่ะ กอหญ้าสัญญาค่ะว่ากอหญ้าจะไม่บอกอาตงกับอามิว..”
“...”
ผมมองหน้ากอหญ้านิ่งๆ นี่ยัยนี่ต้องไม่ปกติแน่ๆ เพราะคนปกติที่ใหนจะมายืนตากแดดอยู่ได้้เป็นวันๆ
...
กอหญ้าเดินมาคู่กับพี่โมสในมหาลัยมันเป็นอะไรที่โชคดีจริงๆ ที่ได้มาเดินคู่กับคนที่ตัวเองเองชอบมาตลอด ไม่คิดไม่ฝันเลยว่ามันจะมีวันนี้จริงๆ
“เธอหิวไหม..?”
“หิวค่ะ..”
“อะเงิน..”
พี่โมสยื่นเงินมาให้ฉันตรงหน้า ฉันจึงก้มมองเงินในมือของเขาอย่างงงๆ
“นั่นร้านค้าเธอไปซื้ออะไรกินนะ พอเธอซื้อเสร็จเธอก็ไปนั่งรอฉันตรงนั้นหาที่ร่มๆ นั่งรอฉันไปก่อน สักประมาณ 2 ชั่วโมงเราค่อยกลับบ้านกัน..”
“ทำไมต้อง 2 ชั่วโมงด้วยคะ..?”
“อย่าถามมากนักได้ไหม บอกว่าให้รอก็รอเถอะนะ ฉันจะรีบไปคุยกับเพื่อนก่อน..ไปนะ”
พี่โมสพูดจบก็รีบวิ่งไปอีกทางโดยมีผู้หญิงคนหนึ่งที่ใส่ขุดนักศึกษายืนรออยู่ กอหญ้ามองตามไปอย่างรู้สึกแปลกใจว่าพี่โมสจะไปคุยอะไรกับเพื่อนนะทำไมถึงต้องใช้เวลานาน 2 ชั่วโมงขนาดนี้
...
“ริวจิ..นี่มันนาฬิการุ่นใหม่เลยนี่หว่า.?”
“อืม..พ่อถอยมาให้ใหม่นะ ราคาเกือบครึ่งล้านเลยนะ เป็นของขวัญวันเกิดให้กูนะ..”
“สุดเลยว่ะ รวยจริง..ขอเรือนละ3-4หมื่นที่จะทิ้งแล้วแบ่งๆ มาให้สัก 2-3 เรือนก็ได้นะ..”
“เออ..เดี๋ยวกูดูให้..”
“โห..โคตรป๋าเลย”
“อวดรวย เงินตัวเองก็ไม่ใช่..”
ริวจิหันมามองตามเสียงเพราะได้ยินคนพูดถึงเขา เขามองด้วยความไม่พอใจจึงลุกขึ้นมาหาเธอ
“นี่เธอพูดถึงใคร..?”
“ใครอยากจะรับก็รับซิ..”
“กล้ามากนะที่พูดกับฉันแบบนี้ เธอรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร..?”
“นายยังไม่รู้จักตัวเองเลย แล้วฉันจะรู้จักนายได้ยังไง.”
“ยอกย้อน ยอกย้อนมาก..”
“ก่อนที่จะมาทำตัวอวดรวยคนอื่นเขา ช่วยเรียนให้จบแล้วก็หางานมีเงินใช้ด้วยตัวเองก่อนดีกว่านะแล้วค่อยมาอวด แบบนั้นดูน่าภูมิใจกว่าเยอะเลย แต่ถ้าจะเอาเงินพ่อเงินแม่มาอวดคนอื่นว่าตัวเองรวยอย่าอวดเลยดีกว่า เพราะมันไม่น่าภูมิใจเลย..”
“...”
ริวจิอึ้งกับพูดของเธอเพราะไม่เคยมีใครกล้าพูดแบบนี้กับเขาเลยสักคน นอกจากคนที่พูดชื่นชมและเทิดทูนเขากันทุกคน
เธอพูดจบก็ลุกขึ้นไปนั่งอีกโต๊ะหนึ่งโดยมีสายตาของเขามองตามไปอย่างรู้สึกสนใจในตัวเธอ
“ไปสืบมาให้ทีว่าเธอเรียนคณะอะไร สาขาอะไร แล้วเรียนอยู่ปีไหนแล้ว..”
“ได้..เดี๋ยวจัดการให้..”
....
โมสทิ้งกอหญ้า 2 รอบละนะ