ไม่คิดว่าจะร้าย 11 - เบอร์แปลก

1312 คำ
“เป็นยังไงบ้าง?” ร่างบางลืมตาขึ้นมาอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงของหิรัญที่กำลังร้องเรียก “กลับมาแล้วเหรอคะ” “ดีขึ้นบ้างไหม?” เธอส่ายใบหน้าน้อยๆ แทนคำตอบ เพราะดูเหมือนว่าอาการป่วยจะไม่ดีขึ้นมาบ้างเลย “พี่ซื้อข้าวต้มกับยามาให้ รีบลุกไปกินสิ กินข้าวเสร็จจะได้กินยา” “ขอบคุณค่ะ” “ลุกไหวหรือเปล่า ต้องให้อุ้มไหม?” “ไหวค่ะ หนูไม่ได้เป็นอะไร แค่นี้สบายมาก” คนตัวเล็กพยายามหยัดตัวลุกขึ้นยืนด้วยตัวเอง เธอกัดปากเบาๆ เมื่อความเจ็บปวดแล่นพล่านทั่วร่างทันทีที่ก้าวขาเดิน แค่ไม่อยากทำตัวอ่อนแอเพื่อเรียกความสงสาร… “ถ้ารู้ว่าจะอวดเก่งแบบนี้ พี่น่าจะจัดให้สักรอบก่อนออกไป” หิรัญพูดด้วยความหงุดหงิดใจเมื่อเห็นท่าทางอวดดีของคนตรงหน้า เขาไม่รอช้าที่จะเป็นฝ่ายอุ้มกระเตงเธอเดินออกมาจากห้องนอนด้วยตัวเอง “พอแล้วค่ะ ไม่ต้องมามองหนูด้วยสายตาแบบนั้น” นิรินพูดด้วยความเขินอายเมื่อเห็นสายตาของแฟนหนุ่มนั่งจ้องในขณะที่เธอกำลังนั่งกินข้าวอยู่เงียบๆ “ทำไมมีถุงเดียวล่ะคะ แล้วข้าวของพี่ไปไหน?” “พี่ยังไม่หิว” “แต่ตอนนี้สายแล้วนะ ถ้าไม่กินข้าวเช้าเดี๋ยวจะปวดท้องเอา” เธอพูดอย่างเป็นห่วง ก่อนจะตักข้าวต้มในชามแบ่งให้ชายหนุ่ม “พี่กินคนละครึ่งกับหนูก็ได้ หนูคงกินไม่หมด เดี๋ยวหนูแบ่งให้ค่ะ” “กินให้อิ่มแล้วค่อยเอามาให้พี่” “ถ้ากินก็ต้องกินด้วยกัน หนูไม่อยากให้พี่กินของเหลือจากหนูนะ” “แต่พี่ไม่ถือ” “แต่หนูถือค่ะ คุณแม่เคยสอนว่าให้คนอื่นกินของเหลือจากเรามันดูไม่ดี” หิรัญเลื่อนมือไปลูบศรีษะของแฟนสาวอย่างนึกเอ็นดู โดยไม่รู้ตัวเองว่าเผลอยิ้มให้เธออยู่บ่อยครั้ง “ถ้างั้นก็ป้อนพี่หน่อยสิ” “ไม่กลัวติดไข้จากหนูเหรอ?” “พี่แข็งแรงกว่าหนูเยอะ” “งั้นอ้าปากให้หน่อย เดี๋ยวหนูป้อนค่ะ” นิรินตักข้าวคำโตจ่อไปที่ริมฝีปากของชายหนุ่มอย่างเคอะเขิน ก่อนที่คนทั้งสองจะนั่งกินข้าวด้วยกันอย่างมีความสุข ครืด~ คนทั้งสองรีบผละริมฝีปากออกจากกันเมื่อได้ยินโทรศัพท์ส่งเสียงดังขึ้น ในขณะที่กำลังนั่งจูบกันอย่างดูดดื่มอยู่ในห้องนั่งเล่น “รับสายก่อนค่ะ” เธอดันอกแกร่งให้ถอยห่างเมื่อแฟนหนุ่มโน้มใบหน้าลงมาจะจูบเธออีกรอบ โดยไม่สนใจสายเรียกเข้า หิรัญถอนหายใจพรืดใหญ่ออกมาด้วยความรำคาญเมื่อถูกขัดจังหวะ ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับสาย โดยมีนิรินคอยนั่งมองอยู่เงียบๆ “มีอะไร?” “ตอนนี้ไม่ว่าง” “อืม เดี๋ยวกูไป” สายตาคู่คมตวัดไปมองหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ แล้วตัดสินใจตอบตกลงไปในที่สุด “พี่ขอตัวไปทำธุระแป๊บนึง” “แล้วหนูล่ะคะ?” ร่างบางถามด้วยความสงสัย ถ้าเป็นแบบนั้นหมายความว่าเธอต้องอยู่ในห้องนี้คนเดียวทั้งๆ ที่ยังป่วยอยู่ “หนูนั่งดูหนังต่อเถอะ อย่าลืมกินยาด้วยนะ ถ้าง่วงก็นอนพัก เดี๋ยวพี่รีบกลับมา” “…..” ปึง! เสียงประตูถูกปิดลงพร้อมกับหิรัญที่เดินออกไปโดยไม่หันกลับมามองเลยสักนิด จะเหลือก็เพียงแค่เธอที่ยังนั่งอยู่ตรงนี้คนเดียว หลายชั่วโมงผ่านไป… ‘ขออภัยค่ะหมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้กรุณาติดต่อใหม่อีกครั้งนะคะ’ ใบหน้าแสนหวานแหงนขึ้นมองนาฬิกาที่แขวนอยู่บนฝาผนัง บ่งบอกว่าขณะนี้เป็นเวลาตีสองกว่าๆ แล้ว แต่เขาก็ยังไม่กลับมา “มานั่งทำอะไรตรงนี้ ทำไมไม่เข้าไปนอนในห้อง” คนตัวเล็กค่อยๆ ขยับตัวเมื่อสัมผัสได้ถึงสิ่งรบกวนในขณะที่เธอกำลังนั่งฟุบหน้าหลับบนโต๊ะเพื่อรอชายหนุ่มให้กลับมา “หนูนั่งรอพี่เลยเผลอหลับไปน่ะค่ะ” “ตัวไม่ค่อยร้อนแล้วนิ คงดีขึ้นแล้วใช่ไหม?” หิรัญใช้หลังมือเลื่อนไปแตะที่หน้าผากของเธอเบาๆ ก่อนจะพบว่าไข้ได้ลดลงไปบ้างแล้ว “ดีขึ้นมากแล้วค่ะ” “ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว” “ทำไมถึงกลับดึกนักล่ะคะ หนูเป็นห่วงนะ โทรไปพี่ก็ตัดสายหนูทิ้ง” เธอพูดอย่างน้อยใจแต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะคิดว่าเขาอาจจะไปทำงานเลยไม่มีเวลารับสายเธอ “พี่เอาโทรศัพท์ไว้ในรถ เลยไม่ได้รับสายหนู” “ดื่มมาด้วยเหรอคะ ทำไมถึงเมาขนาดนี้” หญิงสาวรีบเบือนหน้าหันหนีเมื่อหิรัญโน้มใบหน้าหล่อเหลาลงมาคลอเคลียที่พวงแก้ม เธอสัมผัสได้กลิ่นบุหรี่และกลิ่นแอลกอฮอล์ที่ลอยคละคลุ้งออกมาทางลมหายใจ “ดื่มกับเพื่อนนิดหน่อย” “กินข้าวมาหรือยังคะ” “ยัง” “งั้นเดี๋ยวหนูเอาข้าวไปเวฟให้นะ พี่จะได้กินร้อนๆ” “อาหารพวกนี้หนูทำเองเหรอ?” เขาไล่สายตามองไปยังอาหารที่วางเรียงรายอยู่บนโต๊ะ “ใช่ค่ะ กลัวพี่กลับมาแล้วหิวหนูเลยทำไว้ให้” “…..” “รอแป๊บนึงนะ เดี๋ยวหนูรีบมา” เธอพูดแล้วหยิบจานข้าวจะนำไปอุ่นให้ ถ้าเขาได้กินร้อนๆ มันคงอร่อยมากกว่า “ไม่ต้องหรอก พี่ยังไม่หิวน่ะ” “…..” “ตอนนี้พี่อยากกินอย่างอื่นมากกว่ากินข้าว” พรึ่บ! คนตัวเล็กเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เมื่อถูกชายหนุ่มกระชากข้อมืออย่างแรงให้เข้าหา ก่อนจะอุ้มเธอให้ขึ้นมานั่งบนโต๊ะกินข้าวกลางห้อง “พะ…พี่หิรัญคะ จะทำแบบนั้นกับหนูอีกแล้วเหรอ” “แล้วหนูจะยอมไหมคะ?” หัวใจดวงน้อยเต้นแรงเมื่อเห็นสายตาออดอ้อน เธอไม่เคยปฏิเสธเขาได้เลยสักครั้ง “ตรงนั้นยังเจ็บอยู่เลย เอาไว้ให้หายดีก่อนได้ไหม?” “ถ้าให้รอนานขนาดนั้น พี่คงขาดใจตายกันพอดี” ชายหนุ่มแทรกตัวเข้าไปยืนกลางหว่างขาของคนตัวเล็ก ก่อนจะถกกระโปรงให้ขึ้นมากองอยู่ที่ต้นขาขาวเนียนจนเผยให้เห็นถึงกางเกงในลูกไม้ที่เธอสวมใส่ “พี่ลืมแวะซื้อถุงยาง หนูคงไม่ว่าอะไรใช่ไหม?” นิ้วเรียวลูบไล้ไปตามกรอบหน้าลงมาจนถึงเนินอก นิรินคือเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขาตัดสินใจมีอะไรด้วยโดยไม่สวมเครื่องป้องกัน “มันจะไม่เป็นไรใช่ไหมคะ?” “พี่เอาออกทัน” “ก็ได้ค่ะ” “เด็กดี” “อื้อออ” ใบหน้าแสนหวานหลับตาพริ้มแล้วค่อยๆ เปิดริมฝีปากให้แฟนหนุ่มได้สอดลิ้นเข้ามาเกี่ยวพัน ก่อนที่เรื่องทุกอย่างจะจบที่ความสัมพันธ์ลึกซึ้งเหมือนที่ผ่านมา เช้าวันต่อมา… ‘0809199xxx อย่าลืมโทรมานะคะ จากหลิน’ คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย เมื่อใช้มือล้วงในกระเป๋ากางเกงของแฟนหนุ่มแล้วเจอแผ่นกระดาษข้อความและเบอร์ปริศนา “ทำอะไร!” นิรินสะดุ้งเฮือก เพราะมัวแต่ใจลอยเลยไม่ทันได้สังเกตว่าหิรัญกำลังยืนอยู่ด้านหลังของเธอ “หนูกะ…กำลังจะเอาผ้าไปซักให้ค่ะ” “ไม่ต้อง เสื้อผ้าของพี่มีแต่ตัวแพงๆ ทั้งนั้น ถ้าทำขาดหรือทำสีตกใส่ขึ้นมาจะทำยังไง” “เดี๋ยวหนูซักมือให้ก็ได้ค่ะ” “ก็บอกว่าไม่ต้อง พูดไม่รู้เรื่องหรือไง!” “เอ่อ…” หญิงสาวถึงกลับใบหน้าถอดสีเมื่อถูกขึ้นเสียงใส่ แค่ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงต้องโมโหใส่เธอขนาดนี้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม