“คุณติณณ์คะ วันนี้มีนัดดูตัวนะคะ”
“ผมให้เวลาคุณไปจัดตารางมาใหม่ ผมให้เวลากับเรื่องนี้สามวันแค่นั้นและหลังจากนี้อย่ามานัดดูตัวไร้สาระให้ผมอีก”
“ได้ค่ะ เดี๋ยวปุณจัดการให้ใหม่ค่ะ” ปุณเดินออกจากห้องทำงานของติณณ์ด้วยความงุนงง เพราะเขาดูจะหงุดหงิดเรื่องอะไรก็ไม่รู้ เพราะเขาทำหน้านิ่งจนพนักงานต่างกลัวกันไปหมด ภายในห้องทำงานอึมครึมไปด้วยอารมณ์หงุดหงิดของติณณ์แผ่รังสีออก
“คุณติณณ์ค่ะ ปุณส่งรายละเอียดทั้งหมดให้ทางไลน์เรียบร้อยแล้วนะคะ”
“ครับ ผมจัดการเอง คุณอยู่ที่บริษัทเถอะ ผมไม่เข้ามาแล้วนะ” อะไรของเขาหงุดหงิดจากไหนมา ช่วงนี้ก็อุตส่าห์เคลียร์คิวเลื่อนนัดประชุมนัดลูกค้าให้แล้วยังจะมาอารมณ์เสียอีก หลังจากที่พูดคุยกันนิดหน่อยคุณติณณ์ก็เดินตึงตังออกจากห้องทำงานไปทันที ทำให้พนักงานที่เดินผ่านหลบแทบไม่ทันก็เพราะเจ้าตัวเล่นทำหน้าโหดนิ่งตลอดทางเดินออกจากบริษัทขนาดนั้น
@ ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง
“สวัสดีค่ะ คุณติณณ์ มายมิ้นนะคะ”
“ครับ” นัดดูตัวคนแรกเธอจัดว่าหน้าตาดี ตัวเล็ก ขาวหมวย ท่าทางเขินอายของเธอช่างขัดกับการกระทำของเธอเป็นอย่างมาก เธอคนนี้เป็นรู้นักการเมืองและซึ่งผมก็ไม่ได้สนใจอะไรเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว
“คุณติณณ์ตัวจริงหล่อมากเลยนะคะ”
“ครับ” เธอเป็นคนช่างพูดจนน่ารำคาญในสายตาของผม ชีวิตนี้ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยต้องมานั่งทนอึดอัดและลำบากใจแบบนี้มาก่อน เมื่อครบกำหนดหนึ่งชั่วโมงผมก็ขอตัวออกมาทันทีและไปต่อกับคู่ดูตัวคนต่อไปและต่อไป
@ร้านที่สอง
“พี่ติณณ์สวัสดีค่ะ เมญ่านะคะ” ผู้หญิงคนนี้ไหว้ย่อหัวเข่าแทบชิดพื้นด้วยความสุภาพมาก ท่านั่งและท่าเดินเป็นกุสตรีทุกอย่างจนผมแทบจะกุมขมับ แม่หาคนแบบไหนให้ผมกันแน่สรุปว่าแม่อยากได้ลูกสะใภ้แบบนี้เหรอถึงได้นัดตัวให้ผม
“ทำไมพี่ติณณ์ ทำหน้าแบบนั้นค่ะ”
“อ๋อ เบื่อนิดหน่อยครับ” ครบหนึ่งชั่วโมงผมรีบออกจากร้านทันทีและมุ่งหน้าไปร้านต่อไปให้เร็วที่สุด
@ ร้านที่สาม
“คุณติณณ์เก่งจังเลยค่ะ พริ้งอยากเก่งได้เท่าคุณบ้าง สอนได้มั้ยค่ะ” ประโยคต่าง ๆ นานาที่ผมได้ยินไม่ได้ทำให้ผมชื่นชมตัวเองเพิ่มขึ้น จนตอนนี้ผมเองก็เริ่มท้อแล้วเหมือนกัน
ตลอดสามวันที่ผ่านมาคู่ดูตัวของผมไม่ต่ำกว่าสามสิบคนที่ผมต้องตระเวนไปพบ เพื่อให้แม่สบายใจและพึงพอใจ คู่ดูตัวทั้งหมดตลอดสามวันที่ผ่านมา มีคนสวย คนรวย ฐานะชาติตระกูลดี พร้อมทุกอย่างแต่ผมกลับไม่พึงพอใจในตัวของพวกเธอเลยสักคน
ยอมรับได้เลยว่าการนัดดูตัวตลอดสามวันที่ผ่านมาเหนื่อยยิ่งกว่าผมทำงานสักอีก กว่าจะพ้นไปแต่ละวันทำให้ผมเหนื่อยสายตาแทบขาดที่ตั้งไปนั่งปั้นหน้า ว่าตัวเองเต็มใจที่จะนัดดูตัวแต่ไม่มีสักคนที่ผมจะอยากสานสัมพันธ์ต่อหลังจากที่นัดดูตัว
ข้อความที่ถูกส่งมาหลังจากนัดดูตัวเสร็จทำให้ผมแทบจะกุมขมับ หลังจากเบอร์ไลน์เข้าไปดูมีแต่ผู้หญิงทักเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวของผมแต่จะมีหนึ่งคนที่ไม่มีแม้แต่ข้อความเดียว ผมอยากจจะถามว่าบริษัทของผมไม่มีงานด่วนให้จัดการเลยรึไงหรือว่าเลขาของผมทำงานเก่งเกินไป
ผมไม่ได้เข้าบริษัทสามวันเต็มไม่มีแม้แต่ข้อความหรือสายเข้าจากเลขาแม้แต่สายเดียว ไม่รู้ทำไมว่าผมอยากให้งานมีปัญหาหรืออะไรก็ได้ที่ทำให้มือถือผมดังแต่นี้เล่นเงียบกริบไปทั้งหมดจนตอนนี้ผมคิดว่าตัวเองว่างมากจริง ๆ
ครืด ครืด ครืด รอยยิ้มตรงหน้าปรากฏเมื่อมือถือที่ภาวนาให้ดังกลับดังขึ้นดั่งได้ยินคำขอของผม ผมพยายามหยิบมือถือขึ้นมาดูให้ช้าที่สุดแต่ต้องอารมณ์เสียอีกครั้ง เมื่อสายที่โทรเข้ามาคือเพื่อนเวรของผมนั้นเอง
“มึงมีอะไร”
“ว่าไง ว่าที่เจ้าบ่าวได้ฤกษ์รึยัง”
“ส้นตีน”
“ออกมาเจอกูที่ร้านไอ้ครามนะ กูกับไอ้ครามรออยู่”
“เอ่อ” ความหงุดหงิดทำให้ผมต้องหาที่ระบายออกก่อนที่จิตใจอันร้อนรุ่มของผมจะระเบิดออกมาซะก่อน
“ทำไมทำหน้าแบบนั้นวะ กูได้ข่าวว่าแม่มึงหาคู่ดูตัวให้ไม่หลายสิบคนไม่ใช่เหรอ” เสียงกระแหนะกระแหนของไอ้ครามดังขึ้น ทั้งที่ผมยังไม่ได้นั่งเลยด้วยซ้ำ สีหน้าล้อเล่นของไอ้ครามและไอ้แดนทำให้ผมอยากจะกระโดดถีบมันเป็นอย่างมาก
“เอ่อดิวะ” ตอนนี้ผมยังไม่รู้ว่าตัวเองควรจะทำยังไง ได้แต่เอนตัวลงกับโซฟาทิ้งทั้งตัวและหัวพิงโซฟาเอาไว้ด้วยความเหนื่อย ใครไม่เป็นผมตอนนี้ไม่มีทางเข้าใจหรอก
“ว๊าย!! น้องปุณของกูอัพไอจีด้วยเว้ย สวยฉิบหาย” เสียงเอ่ยชมบุคคลที่ผมไม่ได้เจอมาสามวัน เธอคือเลขาของผมเองเป็นบุคคลเดียวที่ไอ้แดนชื่นชมและชื่นชอบเป็นอย่างมาก
“ไหนขอดูหน่อยดิ” ไอ้ครามก็อีกคน ไม่รู้ว่าพวกมันจะปลื้มอะไรนักหนา สาว ๆ ของพวกมันสวยกว่าปุณก็มี
“มึงแต่คอมเม้นต์ จีบน้องปุณวะ”
“น้องสวยขนาดนี้ ไม่มีคนจีบสิแปลกแต่ว่าน้องเขามีแฟนรึยังวะ” ไอ้ครามหันมาผมเป็นคำตอบที่ผมก็ไม่สามารถตอบได้เหมือนกันแต่วันนั้นปุณบอกว่าตัวเองโสดผมยังจำได้ดี วันนั้นคำตอบของปุณทำให้หัวใจของผมพองโตอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เพียงแค่เธอบอกว่าตัวเองโสด โสด!!
“ปุณมีแฟนแล้ว”
“กูว่าแล้วไอ้คราม น้องสวยขนาดนี้จะโสดเหลือมาถึงกูได้ยังไง” เสียงร้องโอดโอยของไอ้แดนทำให้ผมต้องขอโทษที่โกหกมันในใจ ก็เพราะว่าเพื่อนผมคนนี้เจ้าชู้และผมก็ไม่อยากให้เลขาของผมเสียการเสียงานถ้าเธอต้องอกหักจะทำให้เสียการเสียงานเปล่า ๆ ถ้าเกิดว่าปุณคบกับไอ้แดนจริง ๆ ผมก็กลัวว่าวันไหนจับได้ว่าไอ้แดนมีผู้หญิงคนอื่นอาจทำให้งานของผมเสียก็เป็นได้
“กูรู้สึกว่าตัวเองกำลังอกหัก น้องปุณคนสวยของพี่แดน”
“ฮ่าฮ่า กูสมน้ำหน้า” ไอ้ครามช่างรู้ใจของผมเป็นอย่างดี มันค่อยช่วยซ้ำเติมไอ้แดนให้ผมเป็นอย่างดี
“ทำไมมึงทำหน้าเจ้าเล่ห์แบบนั้นวะ ไอ้ติณณ์”
“เปล๊า”
“อย่าให้กูรู้นะ ว่ามึงปิดบังอะไรกูไว้” ไอ้แดนมันชี้หน้าผมด้วยสายตาอาฆาตซึ่งผมก็ไม่ได้กลัวมันอยู่แล้วผมยักไหล่ให้มันไปและนั่งดื่มต่อแต่สมองของผมกำลังประมวลผมอะไรบางอย่างอยู่ ผมควรทำยังไงดีทำไมความลำบากใจครั้งนี้ต้องตกอยู่ที่ผมแค่คนเดียวนะ!!