Episode 6 เข้าผับครั้งแรก

1942 คำ
@ไร่องุ่น “ฮื้มม หวานจัง” เฟรนด์พูดขึ้นหลังจากได้ชิมองุ่นสดๆที่ฟาร์มเพิ่งเก็บมาให้ “แน่นอนอยู่แล้ว องุ่นที่นี่อร่อยทุกลูกเลยล่ะ” ฟาร์มเอ่ยบอก “งั้นเราขอกินหมดไร่เลยได้ไหม ฮ่าๆ” เฟรนด์พูดขึ้นอย่างติดเล่นพร้อมกับยิ้มหัวเราะออกมา “ถ้าคิดว่าไหวก็เอาเลยสิ” ฟาร์มก็ไม่วานที่จะพูดเล่นกลับอีกคน ในขณะที่ทั้งสองพูดคุยหัวเราะอย่างสนุกกันอยู่นั้น…… “อ๊ะ” “เฟรนด์เป็นอะไรหรือเปล่า” ฟาร์มที่ได้ยินเสียงของอีกคนร้องขึ้น ก็รีบถามด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วงทันที “ไม่รู้อะไรเข้าตาอะ” ฉันพูดพร้อมขยี้ตาตัวเอง “อย่าขยี้ตาสิ” “ก็มันแสบอะ” “มาเดี๋ยวเราช่วยดูให้” พูดจบฟาร์มก็โน้มตัวลงไปดูให้เฟรนด์ โดยทำให้ใบหน้าของทั้งสองนั้นต้องใกล้กัน . . . อีกด้าน “ไอ้สัสเขื่อน มึงพาพวกกูมาทำอะไรที่นี่เนี่ย ร้อนก็ร้อน” เป็นเสียงของเข็มทิศที่โวยวายขึ้นหรือจะบอกว่าเขาบ่นมาตลอดทางเลยก็ว่าได้ “เออกูก็ว่างั้น แล้วพากูมาทำห่าอะไรที่ไร่องุ่นวะ มึงชอบกินองุ่นตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมกูไม่เห็นรู้เลย” ตามมาด้วยเสียงของวอดก้าที่ถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจ “พวกมึงจะบ่นทำห่าไรนักหนาวะ ตามๆกูมาเหอะ” ตั้งแต่มาถึงที่ไร่องุ่นพวกมันสองตัวก็ยังบ่นไม่หยุด และผมก็ไม่รู้ว่าทำไมผมต้องตามสองคนนั้นมาด้วยเช่นกัน “เห้ยย เดี๋ยวๆ” วอดก้าเอ่ยเรียกเพื่อนทั้งสองคนขึ้น “อะไรของมึงอีกวะ” ผมถามมันด้วยน้ำเสียงติดหงุดหงิด “เอ้อร้อนจะตายห่าอยู่แล้ว” เข็มทิศก็ไม่วายที่จะเอ่ยขึ้นตาม “พวกมึงช่วยกูดูหน่อยสิว่า นั่นมันใช่ไอ้ฟาร์มเปล่าวะ” ไอ้วอดก้าพูดพร้อมขมวดคิ้วขึ้นมองไปข้างหน้าที่ห่างจากพวกผมไม่ไกลนัก “เอ้อใช่ แล้วนั่นใช่เฟรนด์หรือเปล่า พวกมันทำอะไรกันอยู่วะ” เข็มทิศพูดต่อ “เหมือนกำลังจะจูบ…” “เห้ย ไอ้เขื่อนมึงจะรีบไปไหนวะ” เขื่อนมองไปตามที่เพื่อนบอก พอเขาเห็นอย่างนั้นก็รีบตรงดิ่งเข้าไปหาทั้งสองทันที โดยไม่สนใจคำเรียกของเพื่อนเลยแม้แต่น้อย “เห้ยพวกมึงทำอะไรกันวะ”เขื่อนที่เพิ่งมาถึงก็ใช้มือผลักตัวฟาร์มออกจากเฟรนด์ทันที “ทำอะไรของมึงวะ” ฟาร์มที่โดนผลักก็ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่หงุดหงิด “กูสิต้องถามว่ามึงกำลังทำอะไร เฟรนด์มันเป็นเพื่อนมึงนะเว้ย มึงทำอย่างนี้ได้ยังไงวะ” เขื่อนต่อว่าฟาร์มด้วยน้ำเสียงที่ดูโมโห “กูทำอะไร กูก็แค่ช่วยดูฝุ่นที่เข้าตาให้เฟรนด์ก็แค่นั้น” “เพล้ง หน้าแตกไหมล่ะมึง” เข็มทิศที่พึ่งมาถึงและได้ยินทุกประโยคที่ทั้งสองต่อกรกันก็พูดขึ้น ส่วนเขื่อนที่รู้ว่าตัวเองเข้าใจผิดก็พยายามหาเรื่องต่ออย่างไม่อยากเสียหน้า “แล้วทำไมหน้าต้องใกล้กันขนาดนั้นด้วย” เชี่ยเอ้ย นี่กูกำลังทำอะไรอยู่วะเนี่ย “ถ้ากูไม่ดูใกล้ๆแล้วกูจะเห็นไหมล่ะ” ฟาร์มเอ่ย “เพล้ง หน้าแตกรอบที่สอง” วอดก้าพูดขึ้นเมื่อเขื่อนถูกฟาร์มตอกกลับ เขื่อนที่เถียงไม่ออกก็ได้แต่ยืนเงียบ ก่อนที่ฟาร์มจะพูดต่อ “และถ้ากูกับเฟรนด์จะทำอะไรกันก็ไม่เกี่ยวกับมึง” ฟาร์มพูดกระแทกเขื่อนขึ้นอย่างจงใจกวนประสาทของอีกคน ส่วนเขื่อนที่ได้ยินแบบนั้นได้แต่กำหมัดแน่นโดยที่ไม่คิดจะตอบโต้ เพราะถ้าเขาทำมันจะทำให้อีกคนที่ตั้งใจป่วนเขานั้นได้ใจ ในขณะเดียวกันเฟรนด์ที่อยู่ในเหตุการณ์และยังเป็นต้นเหตุในเรื่องนี้ก็ได้แต่ยืนเงียบ แต่ทว่าในหัวนั้นกลับมีคำถามผุดขึ้นมามากมาย หลังจากที่ได้เห็นท่าทางของผู้ชายทั้งสองคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเพื่อนของเธอ “……” ฉันได้แต่ยืนอึ้งกับคำพูดของฟาร์มฉันไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่คำที่เขาพูดออกมามันหมายความว่ายังไง และตอนนี้ฉันก็ยังงงกับปฏิกิริยาท่าทางของเขื่อนที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ เหมือนว่าเขากำลัง…หวงฉัน “ไปกันเถอะเฟรนด์” หลังจากจบประโยคนั้นฟาร์มก็จับมือเฟรนด์เดินออกไปทันที ฟาร์มพาฉันเดินมาไกลจากพวกนั้น ก่อนที่ฉันจะหยุดเดินแล้วเอ่ยปากถามฟาร์มทันที “ฟาร์ม ทำไมถึงพูดแบบนั้นกับเขื่อน มันหมายความว่ายังไง” ฉันถามออกไปด้วยความสงสัย ฟาร์มปล่อยมือฉันก่อนที่จะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง “เรารู้นะว่าเฟรนด์ชอบเขื่อน” “……” ฉันชะงักเล็กน้อย แต่ทว่าก็ไม่ได้แปลกใจอะไร เพราะฉันก็รู้ตัวดีว่าฉันนั้นแสดงออกชัดเจนว่าชอบเขื่อน “เรารู้มาตั้งนานแล้วแหละ และเราก็อยากให้เฟรนด์รู้เอาไว้…ว่าเราก็ชอบเฟรนด์เหมือนกัน” ฟาร์มพูดด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่จริงจัง ฉันตกใจเล็กน้อยไม่คิดว่าฟาร์มจะพูดมันออกมาตรงๆต่อหน้าฉันแบบนี้ ถึงแม้ก่อนหน้านี้ฉันจะรู้สึกหรือพอจะรู้แล้วก็ช่างเถอะ แต่มันก็อดที่จะตกใจไม่ได้ “แต่เรา.....” ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดจบ ฟาร์มก็พูดแทรกทันที เหมือนรู้ว่าฉันกำลังจะพูดอะไร “เราไม่ได้ต้องการให้เฟรนด์เลิกชอบมันเพื่อมาชอบเราหรอกนะ” “……” เฟรนด์ยืนนิ่ง “บางทีเราก็คิดว่าเฟรนด์ควรจะเลิกชอบมัน…มันทำกับเฟรนด์ขนาดนี้…เฟรนด์ไม่เจ็บบ้างหรอ” “เราคิดว่าเฟรนด์ควรจะลองเปิดใจให้คนอื่นเข้ามาบ้างนะ เราไม่อยากเห็นเฟรนด์ตามคนอย่างมันอีกแล้ว” ฟาร์มเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ดูจริงใจปนเป็นห่วง…บางทีมันก็จริงอย่างที่ฟาร์มพูด หรือฉันควรจะลองเปิดใจให้คนอื่นบ้างจริงๆ . . . วันเปิดเทอม “ทำไมกูรู้สึกว่าช่วงนี้เฟรนด์ไม่ค่อยมาตามมึงเลยวะ” เข็มทิศเอ่ยถามขึ้น เพราะหลังจากที่กลับจากฟาร์มเขาก็ไม่ค่อยเห็นเฟรนด์มาตามตื้อเพื่อนของเขาเหมือนอย่างเคย “เอ้อใช่ ตั้งแต่หลังกลับมาจากฟาร์ม” วอดก้าพูดขึ้นอย่างเห็นด้วย “ช่างมันสิ ดีซะอีกกูจะได้มีเวลาส่วนตัวบ้างไม่ใช่มีคนมาตามทำตัวน่ารำคาญตามตื้ออยู่ได้” เขื่อนเอ่ยตอบเพื่อนออกไป “มึงพูดจริงหรอวะ” วอดก้าถาม “ก็เออนะสิ” เขื่อนตอบด้วยน้ำเสียงที่ดูติดขัดเล็กน้อย “แต่สีหน้ามึงทำไมบอกว่ามึงโกหกวะ” “โกหกเชี่ยไร พวกมึงหุบปากไปเลยไป” อย่างที่ทุกคนได้ยิน หลังจากกลับมาจากฟาร์มเฟรนด์ก็ไม่มาตามตื้อผมอีกเลย ตอนเรียนในห้องเธอก็ดูเหมือนไม่สนใจผมเหมือนเคย แต่ก็ช่างเถอะดีซะอีกไม่มีใครมาทำให้หงุดหงิดน่ารำคาญ แต่ทว่าบางทีมันก็รู้สึกแปลกๆเหมือนกันนะ ผมคงไม่ได้สนใจในตัวมันใช่ไหม @ผับ TIME 9.00 PM “กะเพรา เฟรนด์ ทางนี้” เสียงหญิงสาวชุดเดรสเกาะอกสีดำเอ่ยเรียกทั้งสองขึ้น ทั้งสองที่ได้ยินก็เดินไปหาเจ้าของเสียงนั้นทันที “ขอบคุณมากนะที่มางานวันเกิดเรา” หญิงสาวเอ่ยขึ้นทันทีที่เฟรนด์กับกะเพราเดินมาถึง “ไม่เป็นไรหรอก นิวก็เป็นเพื่อนเรา เราก็ต้องมาอยู่แล้ว” กะเพรายิ้มตอบ “ยังไงก็ขอบคุณนะ ขอบคุณเฟรนด์ด้วยถึงเราจะพึ่งรู้จักกันแต่ก็ขอบคุณที่มา” หันไปกล่าวขอบคุณเฟรนด์ “ไม่เป็นไร เราเต็มใจ” เฟรนด์ก็ยิ้มตอบกลับ “งั้นตามสบายเลยนะ” คนที่พึ่งกล่าวจบไปคือนิว เธอเป็นเพื่อนห้องเดียวกันกับกะเพราตอนม.ต้นหรือเด็กห้อง1 นั่นแหละ วันนี้เป็นวันเกิดของเธอ เธอจึงชวนทุกคนที่เธอรู้จักรวมถึงกะเพราที่เป็นเพื่อนเก่าซึ่งกะเพราก็ขอนิวพาฉันมาด้วย เธอก็ยินดี งานวันเกิดของเธอจัดขึ้นที่ผับ แต่ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าพวกเขาเข้าได้ยังไงทั้งที่อายุก็ยังไม่ถึง ถ้าให้ฉันเดาพ่อเธอคงน่าจะเป็นคนใหญ่คนโตถึงเข้าได้ และนี่ก็เป็นการเข้าผับครั้งแรกของฉัน ถ้าถามว่าฉันเข้ามาได้ยังไง ก็แค่บอกการ์ดด้านหน้าว่ามางานวันเกิดของคุณนิวการ์ดก็ให้เข้ามาเลย “เอ่อ..คือเราถามไรหน่อยได้ไหม” ฉันหันไปถามนิวด้วยความสงสัยและอยากรู้อยากเห็นของตัวเอง ก็ทำไงได้ฉันมันเป็นคนชอบสอดเรื่องคนอื่นอยู่แล้ว “อื้ม ได้สิ” “พวกเธอเข้าผับได้ยังไงอะ ทั้งที่อายุก็ยังไม่ถึง” “เธอคิดว่าไงล่ะ” นิวตอบฉันพร้อมกับยิ้มขึ้นเล็กน้อย ฉันก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ แล้วนิวก็หันไปคุยกับเพื่อนของเธอ เวลาผ่านไปสักพักฉันก็เริ่มรู้สึกปวดฉี่คงจะกินน้ำโค้กเยอะไป ถ้าถามว่าทำไมฉันถึงไม่ดื่มหรือกินเหล้าล่ะ ก็เพราะว่าฉันยังไม่เคยดื่มและยังไม่คิดจะลองในครั้งนี้ อีกอย่างมากับคนที่ไม่สนิทด้วย มีก็แค่กะเพราคนเดียว แถมยัยนั่นยังหัวอ่อนไม่ทันคนอีก ฉันก็เลยปลอดภัยไว้ก่อนจะดีกว่า “เราขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” ฉันบอกทุกคนในโต๊ะออกไปก่อนจะลุกยืนขึ้นหมายจะไปเข้าห้องน้ำอย่างที่กล่าวไป “ให้เราไปเป็นเพื่อนไหม” กะเพราะที่ได้ยินแบบนั้นก็ถามขึ้น “ไม่เป็นไรหรอก มึงอยู่นี่แหละกูไปแค่แปปเดียว” ฉันบอกออกไป ก่อนก็เดินออกมา “ว่าแต่ ห้องน้ำอยู่ทางไหนวะเนี่ย” ฉันเดินตามทางมาเรื่อยๆ แต่ก็ไม่รู้ว่ามันไปทางไหน อีกอย่างก็ลืมถามมาด้วย “เฟรนด์นะเฟรนด์ ทำไมมึงไม่รู้จักถามทางมาวะ” ฉันด่าตัวเองด้วยความที่ไม่ถามทางมา ฉันได้แต่เดินตามทางมาเรื่อยๆ จนกระทั่ง…… “นั่นไง” ฉันร้องขึ้นอย่างดีใจ เมื่อเห็นว่าข้างหน้าเป็นห้องน้ำแต่พอมาถึง ฉันถึงกับต้องร้องออกมาอย่างหัวเสียอีกครั้ง “เหี้ยเอ้ย! ห้องน้ำผู้ชายหรอเนี่ย จะบ้าตาย ปวดฉี่ก็ปวด พอเจอห้องน้ำก็เสือกเป็นห้องน้ำผู้ชายอีก แล้วทำไมไอ้เจ้าของผับมันไม่สร้างไว้ใกล้ๆกันวะ แม่ง” ฉันได้แต่ยืนบ่นอยู่หน้าห้องน้ำผู้ชาย ทำไมวันนี้มีแต่เรื่องซวยๆวะเนี่ย แต่ในขณะที่ฉันกำลังยืนหัวเสียอยู่หน้าห้องน้ำนั้นจู่ๆก็มีคนเดินมาชนฉันอย่างแรงจนทำให้ฉันถึงกับเซไปชนผนังด้านข้าง ตุ๊บ! “โอ้ยย อีเหี้ย มึงเห็นไหมว่ากูยืนอยู่เนี่ย ไม่มีตาหรือยังไงห๊ะ” ฉันร้องโวยวายออกมาด้วยน้ำเสียงที่หงุดหงิด คนยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่ แม่ง! ยิ่งเสือกมาเดินชนกูอีก “ใครวะ! แม่งมายืนขวางทางกูว~” คนที่พึ่งชนฉันพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงบ่งบอกถึงอาการมึนเมามากพอสมควร พอฉันหันไปมองยังต้นเสียงก็ต้องเบิกตากว้างขึ้นอย่างตกใจไม่คิดว่าเขาคนนั้นจะเป็น……
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม