หล่อนถือโอกาสแนะนำตัวเอง ขณะสายตาจับจ้องรอยแผล บรรจงใส่ยาอย่างตั้งอกตั้งใจ ความเซ็กซี่ของชายผู้นี้ทำเอาหล่อนมือสั่น
“โชคดีนะคะที่แผลแค่ถากๆ”
หญิงสาวกล่าวขณะจับสำลีเช็ดแผล สายตาของชายหนุ่มจับจ้องใบหน้างามตลอดเวลา แก้มนวลเปล่งปลั่งน่าจูบ ผิวพรรณของคุณหนูขาวผ่องไปด้วยเลือดเนื้อของวัยสาวสะพรั่ง ไทเกอร์ผ่านผู้หญิงมาเยอะ แต่คุณหนูปั้นหยาคนนี้ดูแตกต่างจากผู้หญิงที่เขาเคยเจอ
“ขอบคุณนายที่ต้องมาเจ็บตัวเพราะฉัน”
หญิงสาวเปลี่ยนสรรพนามจาก ‘คุณ’ มาเป็น ‘นาย’ เพราะให้ความรู้สึกเป็นกันเองมากกว่า
“ไม่เป็นไรครับ... ”
ไทเกอร์ยิ้ม หัวใจพองโตเมื่อเห็นว่าหล่อนแสดงอาการสนใจในตัวเขาอย่างเห็นได้ชัด
“นายเป็นคนที่ไหน บ้านอยู่ในกรุงเทพฯ หรือเปล่า”
หญิงสาวชวนคุยขณะเช็ดแผลไปพลาง
“ผมมาจากต่างจังหวัดครับ... เข้ามาหางานทำในกรุงเทพฯ ได้สองวันแล้วครับ”
ไทเกอร์โกหก จู่ๆ แผนการบางอย่างก็ผุดวาบขึ้นมาในหัว
“นายเป็นลูกครึ่งใช่ไหม... หน้าตาเหมือนฝรั่ง”
ปั้นหยาสงสัย ได้โอกาสไทเกอร์รีบปั้นเรื่อง เล่าถึงความเป็นมาของตัวเอง บางเรื่องจริง และบางเรื่องก็แต่งขึ้นเท่าที่จะนึกได้
“ใช่ครับ... ผมเป็นลูกครึ่ง”
“ลูกครึ่งอะไร”
ปั้นหยาอยากรู้
“ไม่รู้ครับ... เพราะว่าผมเองก็เคยสงสัยในความเป็นมาของตัวเองเช่นกัน เดาเอาว่าพ่อหรือไม่ก็แม่ของผมคนใดคนหนึ่งจะต้องเป็นชาวต่างชาติอย่างแน่นอน”
ไทเกอร์ปั้นน้ำเป็นตัว แต่ก็เพื่อเรียกคะแนนสงสาร
“ผมเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกนำมาทิ้งครับ ลุงกับป้าที่เลี้ยงดูผมมาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอยเดาว่าคงเป็นฝ่ายพ่อของผมที่เป็นชาวต่างชาติ แม่ผมน่าจะเป็นคนเอเชีย ผมเลยกลายเป็นลูกครึ่งอย่างที่เห็นนี่แหละครับ”
ปั้นหยานิ่งฟังด้วยความรู้สึกสงสารลูกกำพร้า เรื่องโกหกของไทเกอร์ได้ผล
“นายเรียนจบอะไร”
หญิงสาวอยากรู้
“ผมเรียนจบแค่ชั้นมอหกครับ”
ชายหนุ่มตอบ ก่อนฉุกคิดได้ว่าวุฒิแค่มัธยมปลายนั้นน้อยไป แต่ก็พลั้งปากตอบเร็วไปหน่อย ช่างเถอะ... บอกไปแล้วนี่นา คงต้องปล่อยเลยตามเลย
สิ่งที่ได้ยินทำให้คิ้วของหญิงสาวชิดเข้าหากัน ไม่อยากเชื่อว่าชายหนุ่มที่แลดูสุดสมาร์ทหล่อเหลาเหมือนนักเรียนนอกคนนี้ จะเรียนจบแค่ชั้นมัธยมปลาย
“ตอนนี้ยังไม่มีงานทำใช่ไหม”
ปั้นหยามองหน้าชายหนุ่มอย่างนึกเห็นใจ สมัยนี้ปริญญาตรียังตกงานกันเกลื่อน แต่ไทเกอร์เรียนจบเพียงแค่ชั้นมอหก ยากนักที่จะได้งานดีๆ แต่อันที่จริงหน้าตาแบบนี้ก็ไม่น่าหางานยาก แม้การศึกษาน้อยก็จริง แต่ไทเกอร์มีรูปสมบัติเป็นสิ่งชดเชย
“ครับ... ผมยังไม่มีงานทำครับ”
ไทเกอร์รีบตอบ แอบนึกตำหนิตัวเองอยู่ในใจว่าเพียงเพราะอยากได้อยู่ใกล้ชิดผู้หญิงแสนสวยนามว่า ‘ปั้นหยา’ คนนี้ ทำให้เขาต้องสร้างเรื่องโกหกเป็นตุเป็นตะถึงเพียงนี้เชียวหรือ
“นายขับรถเป็นมั้ย”
“เป็นครับ... ผมทำได้ทุกอย่าง ขับรถ ตัดหญ้า ทำสวน หรืออะไรก็ได้แล้วแต่คุณหนูจะสั่ง”
แผนอยากอยู่ใกล้ชิดคุณหนูทำให้ชายหนุ่มรีบบอก ตอนนี้ไม่ว่าจะให้ทำอะไรเขาทำได้ทั้งนั้น
“งั้นก็ดี... ตอนนี้คุณพ่อกำลังรับสมัครคนขับรถอยู่พอดี ถ้านายสนใจฉันจะบอกคุณพ่อให้จ้างนายไว้เป็นคนขับรถเอามั้ย”
“ว้าว... นี่ผมไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหมครับ”
ดีใจจนออกนอกหน้า ก่อนฉุกคิดได้ว่าควรเก็บอาการเอาไว้บ้าง
“เดี๋ยวฉันจะคุยกับคุณพ่อให้นะ นายรอเดี๋ยว”
หญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น
“ขอบคุณครับคุณหนู”
ไทเกอร์ไม่คาดคิดว่าทุกอย่างจะง่ายดายถึงเพียงนี้ ภายหลังเสร็จจากทำแผลให้เขาหญิงสาวรีบเข้ามาคุยกับบิดาที่กำลังนั่งสูบไปป์ยาเส้นอยู่ที่เทอเรสหน้าบ้าน
“คุณพ่อคะ... ”
เสียงใสของลูกสาวทำให้เสี่ยโชคหันมามอง
“ว่าไงยัยหนู... ทำแผลเสร็จหรือยัง”
เสี่ยโชคคิดว่าถ้าทำแผลเสร็จแล้วจะขับรถออกไปส่งไทเกอร์ ถือเป็นการขอบคุณที่เขาเสี่ยงชีวิตแย่งกระเป๋าสตางค์ลูกสาวมาจากมือโจร
“เสร็จแล้วค่ะ เอ่อ... คุณพ่อคะ... ตอนนี้เสือยังไม่มีที่พัก เค้ากำลังหางานทำค่ะ”
ปั้นหยาบอกไปตามที่รู้ หารู้ไม่ว่าไทเกอร์โกหก ปั้นเรื่องเป็นตุเป็นตะเพื่อที่จะได้อยู่ใกล้หล่อน
“อ้าว... ”
เสี่ยโชคนึกแปลกใจกับสิ่งที่ลูกสาวบอก
“เสือขับรถได้ค่ะ คุณพ่อจ้างเสือไว้เป็นคนขับรถนะคะ”
หญิงสาวรบเร้า เสี่ยโชคมองหน้าลูกสาวก็พอจะรู้ว่าปั้นหยาอยากให้ตนรับพลเมืองดีคนนี้ไว้ทำงาน
“จะดีหรือลูก... ”
เสี่ยโชคมองลูกสาวด้วยสีหน้าครุ่นคิดลังเลใจ ปั้นหยารู้ว่าบิดากำลังคิดอะไร
“อย่าคิดมากเลยค่ะคุณพ่อ... ถ้าไม่ใช่คนดีผู้ชายคนนี้คงไม่เสี่ยงชีวิตแย่งกระเป๋าสตางค์กับโจรหรอกนะคะ”
เสี่ยโชคนิ่งฟัง คำพูดของลูกสาวฟังดูมีเหตุผล
“แล้วมันขับรถเป็นใช่ไหม”
“เป็นค่ะคุณพ่อ”
“งั้นก็ตามใจ... มีห้องว่างที่เรือนคนสวน ให้มันไปพักที่นั่นก็แล้วกัน”
ที่ต้องรับไทเกอร์เอาไว้ก็เพราะว่าตอนนี้เสี่ยโชคกำลังต้องการคนขับรถพอดี
“ขอบคุณค่ะคุณพ่อ”
หญิงสาวกลับมาที่ห้องรับแขกด้วยสีหน้าดีใจ รีบบอกข่าวดีกับชายหนุ่ม
“เสือ... คุณพ่อตกลงรับนายไว้เป็นคนขับรถแล้วนะ”
ปั้นหยารีบบอก
“ว้าว... ขอบคุณครับคุณหนู”
ไทเกอร์ดีใจ ยกมือไหว้คุณหนูเจ้าของบ้าน
“อุ๊ย... ไม่ต้องไหว้ฉัน”
ปั้นหยาตกใจ
“คุณหนูอายุเท่าไรแล้วครับ”
“ยี่สิบ... แล้วนายล่ะ”
“ยี่สิบหกครับ”
“นายพักที่ห้องด้านหลังนะ เดี๋ยวป้าช้อยจะพาไป”
“ครับคุณหนู”
ตอบพร้อมส่งยิ้มหวาน มิอาจปิดซ่อนแววตาเจ้าชู้ เพราะ ‘เสือ’ ย่อมเป็นเสืออยู่วันยังค่ำ
ในเวลาต่อมา