“โอ๊ย!” เบอร์รี่ร้องด้วยความเจ็บเมื่อลูกวอลเลย์บอลมากระแทกกับใบหน้าเข้าอย่างจัง
“โทษทีเบอร์รี่ ทำไมแกไม่รับลูกล่ะ” ปันปันเอ่ยถามเพื่อน พลางเดินมาดูอาการของเพื่อน
“เจ็บ” เบอร์รี่ไม่ตอบว่าทำไมไม่รับลูก แต่ลูบหน้าตัวเองไปมา และมันก็กำลังแดงก่ำ
“แกมัวแต่มองอะไรของแก” ปันปันหันไปมองตามสายตาของเพื่อนก่อนที่จะตาโต
“แกมองครูกายอยู่เหรอ”
“ฉันน่ะเหรอจะมองครูจอมขี้เก๊กนั่น ไม่ได้มองเสียหน่อย”
“มันชักจะยังไงๆ แล้วสิ” ปันปันกระแทกไหล่เพื่อนรัก ในคาบนี้เป็นวิชาพละศึกษา โดยกายสิทธิ์หรือครูกายเป็นคนสอนวอลเลย์บอลให้ชั้นเรียนของเธอ
“ยังไงยังไงคือยังไง” คนถามกัดปากตัวเองเบาๆ กลัวเพื่อนรู้ความลับของเธอกับกายสิทธิ์เข้า
"ก็ยายส้มจี๊ดยังไงล่ะ ดูสิให้ครูกายสอนตัวเองอยู่คนเดียว เสนอหน้าสุด ๆ” เบอร์รี่มองตามสายตาของเพื่อนรัก ก็เห็นว่ากายสิทธิ์กำลังช่วยจับบอลและจัดท่าให้ส้มจี๊ดอยู่
“เขาคงอยากสอนส้มจี๊ดกระมัง” คนพูดกัดปาก อยู่ในโรงเรียนเช่นนี้เธอจะให้ใครรู้ไม่ได้ว่ากายสิทธิ์คือสามี
บ้าจริง!
มีผัวตั้งแต่ยังเรียนไม่จบมัธยมปลาย เพราะพี่ชายของเธอที่จากโลกนี้ไปแท้ ๆ
แต่ในเวลานั้นเธอกับกายสิทธิ์ต้องรับปากคนใกล้ตาย
พี่ชายเข้าช่วยเหลือกายสิทธิ์เอาไว้ เลยทำให้โดนยิงตาย แต่กายสิทธิ์เองก็เข้าช่วยพี่ชายเอาไว้ จากพวกทวงหนี้ของพี่ชายเช่นกัน พวกทวงหนี้โหดจากจากโต๊ะพนันบอล
ในช่วงที่กำลังอยู่ระหว่างความเป็นความตาย พี่ชายของเธอก็ฝากเธอเอาไว้กับกายสิทธิ์ และขอให้แต่งงานกันด้วย ทั้งเธอและกายสิทธิ์ไม่อยากรับปาก แต่คนใกล้ตายกำลังจะสิ้นใจ เพื่อให้นอนตายตาหลับ เธอกับเขาเลยต้องรับปากอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
งานศพจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนเพราะเธอกับพี่ชายเป็นกำพร้า พ่อแม่ตายหมดแล้ว ทิ้งบ้านเอาไว้หนึ่งหลัง ซึ่งโดนยึดไปเรียบร้อยแล้วเพราะพี่ชายติดหนี้พนันบอลเป็นจำนวนเงินค่อนข้างมาก
กายสิทธิ์ที่มีบ้านใกล้กันจึงต้องรับเธอเข้ามาอยู่ในบ้าน เขามีพี่น้องหลายคน ต่างแยกย้ายกันไปทำงานยังจังหวัดต่าง ๆ เหลือเพียงเขาอยู่บ้านเพียงคนเดียว บิดามารดาของเขาก็ตายไปหมดแล้วเช่นกัน
เธอไม่คิดว่าเขาจะถือเป็นจริงเป็นจังกับการแต่งงานที่พี่ชายของเธอขอร้อง แต่ที่ไหนได้ เขาโทรศัพท์ไปบอกข่าวว่าจะแต่งงานให้พี่ ๆ กลับมาเป็นญาติผู้ใหญ่ให้ เมื่อทำการผูกข้อไม้ข้อมือกันเสร็จ ทุกคนก็แยกย้ายกันกลับไปทำงานของตัวเอง ทิ้งเธอเอาไว้กับเขา ดังนั้นก็จะมีเพียงญาติพี่น้องของเขาเท่านั้นที่รับรู้ ว่าเธอกับกายสิทธิ์เป็นสามีภรรยากันแล้ว แต่ก็เป็นสามีภรรยากันในนามเท่านั้น กายสิทธิ์รับปากว่าจะไม่ล่วงเกินเธอให้มัวหมอง
การย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านของเขาทำให้เธอรู้สึกทำตัวไม่ถูก เพราะปกติก็ไม่ได้ชอบหน้าเขาสักเท่าใด เพื่อนพี่ชายคนนี้ขี้เก๊กจะตายไป แถมยังพูดน้อย เย็นชา หน้าตึง เคร่งขรึม ไว้ตัว เสียเหลือเกิน
เสียงกริ่งดังขึ้น ทำให้บัณฑิตาหลุดจากภวังค์ความคิด หมดคาบแล้วแต่เธอยังคิดเรื่องกายสิทธิ์อยู่แบบนั้น
โรงเรียนอยู่ไม่ไกลจากบ้านแต่ก็ไม่ใกล้นัก เมื่อก่อนเธอขับมอเตอร์ไซค์มาเรียนด้วยตัวเอง ตอนนี้เธอก็ยังทำแบบนั้น จะให้นั่งรถมากับกายสิทธิ์โรงเรียนได้แตกแน่ ๆ
ทำไมน่ะเหรอ ก็เขาเป็นครูพละเนื้อหอมอย่างไรเล่า มีครูสาว ๆ ในโรงเรียนทอดสะพานให้ไม่ขาด ทั้งหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ แถมเด็กนักเรียนมัธยมปลายก็แก่แดดเหลือเกิน อ่อยกายสิทธิ์ด้วยกันทั้งนั้น
ชิ! หมั่นไส้พวกคนเนื้อหอมนัก
จริง ๆ การขับรถกลับบ้านก็ไม่ได้ทำให้เธอกลัวอะไรนักหรอก เพราะเขาขับตามเธอมาด้วย
เธอขับมอเตอร์ไซค์ฮอนด้ารุ่นเก่า ๆ ของพี่ชาย ซึ่งตกทอดมาจากรุ่นบิดามารดา ในขณะที่กายสิทธิ์ขับบิ๊กไบค์ราคาแพงลิ่ว
เป็นแค่ครูพละไม่ได้รวยขนาดนี้หรอก แต่เพราะมรดกที่บิดามารดาของเขาทิ้งเอาไว้ก่อนตาย หลังจากแบ่งให้พี่ ๆ และกายสิทธิ์คนละเท่า ๆ กัน ก็สามารถทำให้เขาอยู่ได้อย่างสบายเชียวละ