บทที่ 2 คู่กัดหรือคู่กัน (3)

1340 คำ
เมื่อคุยเรื่องชดใช้ค่าเสียหายลงตัว ต่างคนต่างแยกย้ายกลับบ้าน ธารธารายังเดินไปไม่ถึงรถจักรยานยนต์ของตัวเอง กลับต้องเหลียวหลังมองด้วยความรำคาญเมื่อรู้สึกว่ามีคนเดินตาม “คุณจะตามฉันมาทำไมไม่ทราบ” อากาศก็ร้อนยังมาเจอคนนิสัยไม่ดีอีก วันนี้วันซวยของจริง หญิงสาวบ่นในใจก่อนจะเอามือเท้าสะเอวจ้องมองใบหน้าของศัตรู “ใครตามคุณไม่ทราบ รถของผมจอดอยู่ตรงนี้” มุมปากยกยิ้มขึ้นมาราวกับตัวร้ายหลังจากชี้ไปยังรถคันหรู ที่จอดอยู่ไม่ห่างจากรถของฝ่ายหญิง ธารธาราแอบหน้าชาเล็กน้อย “งั้นก็เชิญ ที่จอดก็มีเยอะแยะทำไมต้องมาจอดใกล้กันด้วย” หญิงสาวเบะปากอย่างไม่สบอารมณ์ ไม่รู้เพราะชีวิตตัวเองสงบสุขเกินไปไหม สวรรค์จึงส่งคนอย่างสิงหราชมากวนประสาท เธอไม่เข้าใจเลยจริงๆ จะส่งคนแบบนี้มาให้รู้จักทำไม “ถามตัวเองดีกว่ามั้ง ผมมาก่อนคุณอย่าลืม” “ใครจะไปรู้ว่ารถคุณ เหลืองอ๋อยเหมือนขะ...เชียว” “ถึงจะเหลืองอ๋อยก็ปอร์เชครับ” “ปอร์เชแล้วไง รูปร่างหน้าตาอย่างกับตะพาบน้ำ” คำพูดของธารธาราทำให้สิงหราชอยากอ้าปากค้าง ตะ…ตะพาบน้ำเหรอ!!! ยัยคนมีตาหามีแววไม่ ผู้หญิงอะไรตาต่ำ รถปอร์เชของเขาเหมือนตะพาบน้ำตรงไหน คนไม่มีปัญญาซื้อก็แบบนี้แหละ อิจฉามากกว่าถึงพูดแบบนี้ “อย่ามาบุลลีรถผมนะคุณ” “ฉันไม่บุลลีเจ้าของรถก็บุญแล้ว” “หน้าตาอย่างผม ฐานะอย่างผม จะเอาอะไรมาให้บุลลี” “เหอะ ฐานะไม่เถียงแต่หน้าตาไม่ใช่ มีให้บุลลีเพียบ” “หล่ออย่างกับพระเอกเกาหลีอย่างผม ไม่ทราบว่ามีตรงไหนให้บุลลีกัน” คนหล่อสายเกายิ้มด้วยความมั่นใจ ทว่าความมั่นนั้นกลับถูกสาวตรงหน้าทำลายสิ้นไม่เหลือซาก ธารธารามองสิงหราชจากบนลงล่าง จากล่างขึ้นบนก่อนจะพูดออกมา “หล่ออย่างกับพระเอกเกาหลี? กระจกบานไหนบอกคุณเหรอ เอาไปทิ้งเถอะหลอกลวงผู้บริโภคชัดๆ” น้ำเสียงของเธอทำให้คนมั่นในหน้าตาใจแป้ว เกิดมาเพิ่งมีเธอนี่แหละที่บอกว่าเขาไม่หล่อ เขาอยากจะด่ากลับแต่เลือกไม่ทำเพราะมีเรื่องสำคัญต้องพูดมากกว่า “เรื่องหล่อไม่หล่อช่างมัน ไหนๆ ก็เจอกันแล้ว ผมขอคุยเรื่องที่ดินหน่อย” “ไม่คุย บอกแล้วไงไม่ขาย” “ทำยังไงคุณถึงจะยอมขาย” “...” “ผมอยากได้จริงๆ ขายให้ผมเถอะคุณ” “คุณจะยอมทำตามที่ฉันบอกทุกอย่างไหมล่ะ” “เพื่อที่ดินผืนนั้นผมยอม” “ขอกลับไปคิดก่อน แต่ไม่รู้จะคิดออกตอนไหนเหมือนกัน” สิงหราชถึงกับหัวเสียในความเจ้าเล่ห์ของธารธารา เขายอมขนาดนี้แล้วยังจะเรื่องมากอีก หากแต่โชคชะตาเหมือนจะเข้าข้างเขาเพราะอยู่ดีๆ รถของเธอก็ยางแบนซะงั้น “วันนี้มันวันซวยของฉันแน่ๆ เจอกับคุณยังไม่พอ รถยังมายางแบนอีก โอ๊ยชีวิต!” “เดี๋ยวผมไปส่งคุณเอง แล้วค่อยให้ลูกน้องมาจัดการเรื่องรถ” “ไม่ต้อง ฉันจัดการเองได้ เชิญคุณกับตะพาบน้ำตามสบาย” “อย่าดื้อนักเลยคุณ แถวนี้ไม่มีร้านปะยางสักร้าน กว่าจะเจอก็โน้นอีกเป็นกิโล คุณจะยอมถ่อสังขารเข็นรถไปคนเดียวเหรอ” หญิงสาวฉุกคิดตามที่ชายหนุ่มบอก แต่ยังไม่ทันจะตอบรับหรือปฏิเสธ โทรศัพท์กลับมีสายเรียกเข้าเป็นสายจากจตุพงศ์บอกว่าให้รีบกลับไร่ด่วน ตอนนี้พ่อของเธอมาอาละวาดอยู่ที่นี่ “เอ่อคือฉันรบกวนคุณไปส่งหน่อย ฉันมีเรื่องด่วนต้องไปจัดการ” เธอไม่อยากขอความช่วยเหลือจากคู่กัดแต่มันจำเป็น สิงหราชยิ้มชอบใจก่อนจะพยักหน้าตกลง ทว่ากลับมีข้อแลกเปลี่ยน “ได้สิ แต่คุณต้องรับปากผมว่าจะยอมพิจารณาเรื่องขายที่ดิน” “โอเคๆ ตอนนี้ขอกลับบ้านก่อน เราต้องรีบไปก่อนที่สวนของฉันจะเละเป็นโจ๊ก” “เชิญครับคุณผู้หญิง ตะพาบน้ำของผมพร้อมบริการ” ตะพาบน้ำคันหรูของสิงหราชพุ่งทะยานไปตามท้องถนนอย่างรวดเร็ว เพียงไม่นานก็มาถึงสวนอิ่มใจ หญิงสาวรีบกระโดดลงจากรถแล้ววิ่งเข้าไปในโฮมออฟฟิศทันที เห็นบิดากำลังอาละวาดทำลายข้าวของจึงเข้าไปห้ามปราม ทว่าแรงของเธอสู้แรงของผู้ชายไม่ได้จึงถูกเหวี่ยงไปกองกับพื้น เป็นจังหวะเดียวกับที่สิงหราชเดินเข้ามาพอดี “คุณธารา! เป็นยังไงบ้าง” ชายหนุ่มเข้าไปประคองหญิงสาวขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง หลังจากเห็นเธอล้มไปชนกับขอบประตู “ช่วยห้ามเขาหน่อยคุณ” คนมึนชี้ไปยังคนเมาที่ยังอาละวาดไม่หยุด “หยุดนะคุณ ผมบอกให้หยุด” สิงหราชเข้าไปคว้าแขนแต่ถูกคนเมาสะบัดกลับมา ด้วยความที่ตั้งตัวไม่ทันทำให้เขาเกิดอาการเซเล็กน้อย “มึงเป็นใครมายุ่งอะไรด้วย” ปฐพีซึ่งอยู่ในอาการเมามายชี้หน้าถามสิงหราชอย่างไม่เกรงกลัว ใบหน้าแดงก่ำจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่คงจะดื่มเข้าไปจนหมดขวด ทำให้สุดท้ายลูกสาวต้องงัดไม้ตายมาใช้ เอาตำรวจมาขู่ แต่อาจจะทำจริงก็ได้ถ้าพ่อยังไม่เลิกอาละวาดเหมือนหมาบ้าแบบนี้ “ถ้าไม่หยุดอาละวาดหนูจะแจ้งความจับพ่อ” “เออแจ้งเลย ชาวบ้านชาวช่องจะได้รู้ว่ากูมีลูกอกตัญญู” “ผู้ชายคนนี้เป็นใครคุณ พ่อคุณเหรอ” ชายหนุ่มกระซิบถามหญิงสาว แต่ก็พอเดาได้ว่าคนเมาตรงหน้าเป็นใคร “พ่อขี้เมา เมาแล้วชอบหาเรื่อง หนูบอกให้หยุดไง อยากเข้าไปอยู่ในคุกหรือไงพ่อ” “เดี๋ยวผมแจ้งความเอง ถ้าคุณยังไม่หยุด คุณได้เข้าไปกินข้าวแดงในคุกแน่” “แล้วมึงเป็นใครวะ มาแส่เรื่องของพ่อลูกเขาทำไม” “เขาเป็นเจ้าของที่ดินคนใหม่ หนูขายให้เขาแล้ว” หญิงสาวไม่อยากให้บิดามายุ่งวุ่นวายกับเรื่องนี้อีกจึงเลือกโกหก เธอส่งสัญญาณทางสายตาให้เขาช่วยอีกแรง “ใช่ ผมเป็นเจ้าของที่ดิน และผมซื้อที่นี่เอาไว้แล้ว” “นังธารา ทำไมมึงขายให้คนอื่น อีลูกอกตัญญู” “ถ้ายังไม่ออกไป ผมจะแจ้งความเดี๋ยวนี้” “เออฝากไว้ก่อนเถอะ โดยเฉพาะมึงอีลูกไม่รักดี” ปฐพีในสภาพเมามายเห็นสีหน้าโกรธเกรี้ยวของสิงหราชก็ไม่อยากจะหาเรื่องใส่ตัวจึงรีบหลบออกไปอย่างรวดเร็ว ก่อนไปยังชี้หน้าต่อว่าลูกสาวด้วยความเจ็บใจ ทำไมถึงไม่ขายให้พ่อเลี้ยงอำพลเขาจะได้ส่วนแบ่งจากพ่อเลี้ยงด้วย “ว้ายคุณธาราขา คือ...” จตุพงศ์ที่แอบอยู่หลังเสาค่อยๆ โผล่หน้าออกมา ก่อนจะร้องเสียงหลงเมื่อเห็นเจ้านายสาวหัวแตกมีเลือดไหลเป็นทาง ทว่าเจ้าตัวกลับไม่รู้เพราะมัวแต่มองบิดาที่กำลังสตาร์ตรถแล้วบิดออกไป “มีอะไรคะพี่จีซู” “คะ...คือว่า หัวของคุณธารามี...” “คุณหัวแตกนี่ เลือดออกเยอะเลย” เป็นสิงหราชที่หันมาบอกด้วยความตกใจเมื่อเห็นเลือดสีแดงไหลลงมาตามแก้ม “เลือดเหรอ เลือด” “เฮ้ยคุณ!” ชายหนุ่มรับร่างหมดสติของหญิงสาวได้ทัน หลังจากที่เธอเอามือไปแตะบนหัวแล้วเห็นเลือดเต็มสองตา ระหว่างทางไปโรงพยาบาล จตุพงศ์ได้แอบบอกความลับของเจ้านายสาวให้สิงหราชรู้ ธารธาราเป็นคนที่กลัวเลือดมาก กลัวถึงขั้นเห็นไม่ได้เลย ถ้าเห็นแล้วจะมีความรู้สึกกลัวอย่างรุนแรง ถึงขั้นหมดสติอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้ ทางการแพทย์เรียกโรคนี้ว่า Hemophobia แต่คนทั่วไปเรียกกันว่าโรคกลัวเลือด
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม