Chapter 2 คุณแม่ขอร้อง

1297 คำ
Chapter 2 คุณแม่ขอร้อง ภัทรพลสะพายกระเป๋าสัมภาระเดินมาหามารดาที่นั่งรออยู่ หลังจากการแข่งขันในคู่แรกจบลง ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะพูดอะไรออกมา รมิดาที่รอท่าอยู่แล้วเมื่อเห็นเขาเดินผ่านมาจึงรีบปรี่เข้ามาหาเพื่อไม่ปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดลอยไปอย่างง่ายๆ “พี่หมวด รอจิ๊บก่อนค่ะ” “เอ่อ…” เมื่อถูกจู่โจมในระยะประชิดภัทรพลถึงกับตั้งหลักไม่ทัน นึกอยากบีบคอตัวเองยิ่งนักที่หาเรื่องหว่านเสน่ห์ไปทั่วจนอีกฝ่ายทำท่าจะคิดจริงจังขึ้นมาเสียแล้ว ทั้งที่ตอนนี้เขายังไม่อยากหาห่วงมาผูกคอให้ต้องกลายมาเป็นภาระ พานจะทำให้เขาทำงานลำบากขึ้น “ผ้าเย็นมาแล้วค่า หมวดขา” ปองรักเพื่อนสาวของรมิดารีบแทรกขึ้นมาบ้าง ขณะรีบพุ่งพรวดเข้ามาแล้วเบียดเพื่อนเสียจนออกไปพ้นทาง ก่อนยื่นผ้าเย็นมาให้ภัทรพลเพื่อแย่งซีน “ขอบคุณครับ” ภัทรพลกัดฟันยิ้มออกมา จำใจรับมาถือไว้อย่างไม่เต็มใจนัก ก่อนทำท่าจะเดินเลี่ยงไปจากบริเวณนี้เพื่อความปลอดภัย เพราะเขาเองยังไม่อยากบริโภคของแปลก และใจยังไม่อยากลิ้มลองไม้ป่าเดียวกัน อดที่จะเสียววาบไปถึงไขสันหลังไม่ได้ เมื่อเห็นปองรักพยายามส่งสายตาหวานสุดพลังมาให้ ‘หยึ๋ย…ซวยแล้วไอ้เต้’ “พี่หมวด เดี๋ยวสิคะ” รมิดารีบปราดมาขวางหน้าเอาไว้ เมื่อภัทรพลหันหลังให้แล้วเดินเลี่ยงออกมา ในขณะนั้นภาวิณีที่เห็นเหตุการณ์อยู่ก่อนแล้วกำลังเดินรี่เข้ามายังจุดที่ทั้งสองยืนอยู่อย่างรู้ทัน “ตาเต้ ทำอะไรอยู่จ๊ะ ชักช้าจริง” หล่อนปราดเข้ามาดึงแขนลูกชายของตนออกมา เมื่อเห็นว่ากำลังถูกรุมทึ้งจากสาวๆ ที่มาร่วมเชียร์ในวันนี้ สายตาปรายมองไปทางรมิดาอย่างไม่เป็นมิตร รอยยิ้มหวานที่คลี่ออกมานั้นรมิดาไม่อาจคาดเดาได้ว่าหมายถึงอะไร “ฉันต้องขอตัวหมวดก่อนนะ เดี๋ยวหนูลิลลี่จะงอนเอาจ้ะ” “คุณแม่…” “เงียบไปเลย แม่กำลังช่วยเราให้รอดพ้นจากสาวๆ พวกนั้นอยู่นะ” ทั้งสองกระซิบคุยกันให้ได้ยินกันแค่สองคน ท่าทีแปลกๆ ของสองแม่ลูกทำให้รมิดามองตามไปด้วยความกังขา หากแต่ว่าก็ก้าวก่ายอะไรไม่ได้ เพราะคนที่ตนมีใจให้นั้นมีปราการแน่นหนาเป็นถึงมารดา แถมดูท่าแล้วเขาจะรักและเกรงใจท่านอยู่มากด้วย “โธ่…ไม่ต้องอ้างลิลลี่ก็ได้ ข้ออ้างมีถมไป” “จะอ้างจ้ะ เพราะอีกหน่อยลิลลี่ก็จะมาเป็นทองแผ่นเดียวกันกับบ้านเรา ผู้หญิงคนไหนก็หมดสิทธิ์” เมื่อมารดาย้ำออกมาเช่นนั้น ส่งผลให้ภัทรพลทำหน้าบอกบุญไม่รับขึ้นมาในทันใด รีบเดินหนีมารดาไปนั่งเปลี่ยนรองเท้า ภาวิณีจึงเดินตามไปเพื่อเตรียมเก็บของกลับบ้านเช่นเดียวกัน “ลิลลี่ เอาผ้าเย็นไปให้พี่เขาสิจ๊ะ ภาวิณีรีบยัดผ้าเย็นใส่มือของลีลาวดี ขณะทำหน้าพยักพเยิดไปทางภัทรพล เมื่อเห็นอีกฝ่ายยังคนยืนเฉยจึงเอามือดันหลังของเจ้าหล่อนเพื่อให้เดินไปหาลูกชายของตนที่กำลังนั่งเปลี่ยนรองเท้าอยู่อีกมุมหนึ่ง เพื่อที่จะเตรียมตัวกลับบ้านพร้อมกัน “เอ่อ…” “ไปสิจ๊ะ” “เดี๋ยวหมวดก็ดุลิลลี่อีก เมื่อกี้ก็ทำตาขวางใส่ ลิลลี่กลัวนี่คะ” หญิงสาวพยายามหาเหตุผลมาอ้าง แท้จริงหล่อนไม่ได้กลัวเขา แต่กลัวจะระงับอารมณ์ไม่ได้กับความปากเสียของเขามากกว่า จึงไม่อยากเข้าใกล้มากไปกว่านี้ “ลองแผลงฤทธิ์อีกสิ เดี๋ยวคุณแม่จะจัดการเอง หากหนูมัวอายอยู่อย่างนี้ คนอื่นมาชุบมือเปิบไปไม่รู้นะ” “ก็ช่างสิคะ ไม่เกี่ยวกับลิลลี่” “ลิลลี่! ทำไมพูดแบบนั้น ใจคอจะให้คนแก่ตรอมใจตายไปเลยใช่มั้ย ก็ได้ ให้คนแก่กลุ้มใจจนอาการกำเริบไปเลย” “คุณป้า! อะ เอ่อ คุณแม่ อย่าเล่นมุกนี้สิคะ” “ไม่ได้เล่นมุก แต่คุณแม่กำลังจะเป็นจริงๆ ยาดม...ยาดมอยู่ไหนกันนะ” พูดพลางรื้อค้นยาดมยาหอมในกระเป๋าขึ้นมาอังไว้ที่จมูก พลางยกมือขึ้นทาบอกแล้วถอยหลังไปนั่งบนแท่นอัฒจันทร์ แสดงให้อีกฝ่ายเห็นว่านั่นไม่ได้เป็นแค่คำตัดพ้อแต่กำลังจะเป็นจริงๆ ทำให้ลีลาวดีเกิดการละล้าละลังขึ้นมาทันที เพราะอาการแบบนี้ภาวิณีเคยเป็นจริงจนต้องหามส่งโรงพยาบาลมาแล้ว “ซุบซิบวางแผนอะไรกันครับ” “อุ๊ย!” ลีลาวดีสะดุ้งเฮือก เมื่อผ้าในมือของตนถูกกระชากออกไปอย่างแรง หันไปมองก็พบว่าภัทรพลมายืนอยู่ข้างหลังของหล่อนแล้ว คล้ายจะรู้ว่าผ้านี้ถูกเตรียมมาสำหรับเขาโดยเฉพาะ แทนที่ชายหนุ่มจะนำไปเช็ดหน้า เขากลับทำท่าพลิกผืนผ้าในมือไปมา ราวกับว่าพบความผิดปรกติในนั้น “หนูลิลลี่แค่เตรียมผ้าไว้ให้ น้องมีน้ำใจก็น่าจะขอบคุณกันบ้างนะหมวด” “เหรอ…” ชายหนุ่มลากเสียงยาว พลางหรี่ตามองหญิงสาวเบื้องหน้าชั่วครู่พร้อมยิ้มมุมปาก เป็นรอยยิ้มคล้ายหยันในความรู้สึกคนมอง “ลิลลี่เขาก็น่ารักดีนะครับ แต่เสียดายที่….” “ที่อะไร” ลีลาวดีแทรกขึ้นมาเมื่อเห็นสายตาชวนให้ตบไล่สำรวจมาทั่วร่างของตน ก่อนหยุดนิ่งยังอกอิ่มแล้วหัวเราะขบขันออกมา ในขณะที่หล่อนเริ่มนับหนึ่งถึงสิบอยู่ในใจอีกครั้ง “เฮ้อ…ที่อะไรๆ ก็ไม่เตะตาเอาเสียเลย มันไม่เร้าใจน่ะครับคุณแม่ หากอยากให้ผมสนใจ คุณแม่คงต้องไปบำรุงมาให้บึ้มๆ กว่านี้นะครับ บังเอิญผมชอบแบบ…” “ว๊าย! ตายแล้ว ตาเต้ พูดอะไรออกมา!” “อย่ามามองฉันด้วยสายตาแบบนั้นนะ คุณจะชอบแบบไหนก็ชอบไป คุณแม่คะ ลิลลี่ไม่ไปทานข้าวแล้วนะคะ เบื่อคนขี้เก๊ก ปากมอม ลิลลี่จะกลับบ้าน” เมื่อถูกสบประมาทกันอย่างซึ่งๆ หน้า หญิงสาวถึงกับฟิวส์ขาดต่อหน้าผู้ใหญ่ สะบัดหน้าพรืดเดินหนีทุกคนไปทันที ท่ามกลางการถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกของภัทรพล “ลิลลี่ เดี๋ยวสิ” “ช่างเขาเถอะครับ อยากกลับจะไปรั้งไว้ทำไม” ชายหนุ่มรีบแทรกขึ้นเมื่อเห็นมารดาทำท่าละล้าละลัง จะวิ่งตามอีกฝ่ายไปก็เชิง ภาวิณีหันไปมองหน้าคนปากเสียด้วยสายตาขุ่นขวาง ก่อนเอ่ยออกมาด้วยความฉุนเฉียว “รีบตามไปง้อเดี๋ยวนี้เลยนะ หากวันนี้พาลิลลี่กลับมาทานข้าวด้วยกันไม่ได้ ก็ไม่ต้องมาพูดกันอีก…เช๊อะ!” ภาวิณีสะบัดก้นเดินหนีไปทันที ภัทรพลตะโกนไล่หลังไปด้วยไม่เข้าใจความคิดมารดา “อ้าว ผมเป็นลูกคุณแม่นะครับ ทำไมไม่เข้าข้างกันเลย” “ไม่สน ไม่รู้ไม่ชี้ รับผิดชอบคำพูดตัวเองด้วย” “โอ๊ย! อะไรกันวะเนี่ย” ชายหนุ่มสบถกับตัวเองอย่างอารมณ์เสีย ขณะมองตามร่างมารดาที่กำลังเดินลิ่วไปรอที่รถ ก่อนส่ายหัวออกมาด้วยความเซ็ง เลือกที่จะเดินตามลีลาวดีไป เนื่องจากความเกรงใจมารดามีมากกว่า รู้ดีว่าท่านโกรธแล้วง้อยากเพียงใด จึงจำต้องยอมไปง้อลีลาวดีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้จะไม่เต็มใจก็ตามที ++++++
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม