บทที่ 5 จูบแรก (1/2)

1206 คำ
จากวันที่พยัคฆ์ประกาศก้าวว่าจะจีบเธอ เขาก็ทำอย่างที่พูดจริง ๆ ทุกเช้าดอกรักไม่จำเป็นต้องนั่งรถเมล์แล้วเพราะมีสารถีหน้าหล่อมารับมาส่งไม่ขาด ไม่รู้อีกฝ่ายไปรู้ตารางเรียนเธอได้อย่างไร แต่เมื่อคิดว่าเขาคือพยัคฆ์เรื่องแค่นี้คงแสนง่ายดายจึงไม่คิดจะถามเอาคำตอบ เหมือนอย่างวันนี้ที่ดอกรักลงจากหอพักก็เจอกับรถสปอร์ตคันงามจอดรออยู่ก่อนแล้ว “เลิกเรียนแล้วโทรมา” “เดี๋ยวรักกลับเองก็ได้” “กว่าเธอจะทำงานเสร็จไม่มีรถเมล์ให้เธอนั่งแล้ว” “แต่-” “โทรมา เข้าใจไหม” “ค่ะ” วันนี้ดอกรักต้องทำงานของกลุ่มนักศึกษาทุนที่ต้องทำงานวิชาการเพื่อจัดแสดงให้กับสถาบันอื่นที่จะเข้ามาชมงานในอีกไม่กี่วัน อีกทั้งยังเป็นกิจกรรมที่บังคับให้นักศึกษาที่ต้องรับทุนอย่างพวกเธอเข้าร่วมเผื่อที่จะได้เก็บเป็นคะแนนกิจกรรมไว้ยื่นในเทอมถัดไป แน่นอนว่าดอกรักและพิกุลหลีกเลี่ยงมันไม่ได้ “ไหนว่าไม่มีอะไรไงจ๊ะ” ขาเรียวก้าวยังไม่ทันจะถึงโต๊ะเสียงแหลมของมาลีวัลย์ก็เอ่ยแซว โดยมีพิกุลยิ้มล้อเลียนอยู่ด้านหลัง “อะไรล่ะ อย่ามาจับผิดกันนะ” ดอกรักบ่นอุบเพราะตอนนี้สถานะของเธอกับพยัคฆ์เขยิบขึ้นมาอีกขั้นแล้ว แม้จะยังไม่ได้ตกลงคบกันก็เถอะ แต่ภาพที่รถสปอร์ตคันหรูสีดำมาจอดรอถึงหน้าคณะก็เป็นที่ชินตาไปแล้ว “คิก ๆ ไม่ต้องเขินน่า” “ไม่ได้เขินสักหน่อย” “อ๋อเหรอ แล้วทำไมหน้าแดงขนาดนั้นล่ะจ๊ะ” มาลีวัลย์ยังแซวต่อเพราะใบหน้าแดง ๆ ของดอกรักมันน่าแกล้งชะมัด ไหนจะสองมือที่ยกขึ้นปิดบังใบหน้าแดงก่ำอย่างน่ารักทำเอาเพื่อนทั้งสองหัวเราะชอบใจ “กุลลางานหรือยัง” “ลาแล้ว แต่ถ้างานเสร็จเร็วก็อาจจะแวะไปที่ร้านหน่อย เผื่อวันนี้คนเยอะ” “อื้ม” ดอกรักถามพิกุลเพื่อเตือนว่าวันนี้ทั้งสองคนต้องอยู่ทำงานกับชมรมนักศึกษาใช้ทุน และดูจากเนื้องานที่บอกก่อนหน้าก็คิดว่าน่าจะใช้เวลาทำหลายชั่วโมงเลยทีเดียว “เฮ้อ ฉันต้องกลับบ้านคนเดียวเหรอเนี่ย” มาลีวัลย์ตัดพ้ออย่างไม่ได้จริงจังนักทำทั้งสองหันขวับไปมอง ‘ปกติเธอก็กลับคนเดียวอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง’ … งานของชมรมสิ้นเสร็จในเวลาเกือบเที่ยงคืน ดอกรักหยิบโทรศัพท์มาดูเวลาพลางคิดว่าเธอควรโทรหาพยัคฆ์ดีไหมเพราะดึกดื่นขนาดนี้แล้วจะให้อีกฝ่ายขับรถมารับก็เกรงใจไม่น้อย “กลับยังไง” ระหว่างที่กำลังเดินออกมาจากห้องชมรมพร้อมเพื่อนคนอื่น ๆ พิกุลก็ถามขึ้น “เอ่อ น่าจะแท็กซี่” “แท็กซี่ ?” “ใช่ ฮะ ! พี่มาอยู่นี่ได้ไง” ดอกรักตอบออกไปก่อนจะหันกลับไปมองเจ้าของเสียงเข้มด้านหลัง แล้วก็พบกับร่างสูงใหญ่ของพยัคฆ์ที่มองเธออยู่ก่อนแล้ว “เพราะรู้ว่าเธอจะแอบกลับเองน่ะสิ” เสียงเข้มตอบกลับ เพราะคาดเดาไว้แล้วว่ายัยตัวดื้อนี่จะไม่กล้าโทรหาเขาแล้วแอบกลับเองแน่นอน ดึกดื่นขนาดนี้แล้วจะปล่อยให้ผู้หญิงตัวเล็ก ๆกลับเองได้ยังไง คนตัวเล็กเลิ่กลั่กเพราะคิดว่าเมื่อกลับไปเมื่อถึงห้องแล้วค่อยส่งข้อความไปบอกทีหลัง ไม่คิดว่าพยัคฆ์จะมาอยู่ตรงหน้าแถมยังมองเธอราวกับเป็นพวกเด็กดื้ออีก “ถ้างั้นฉันขอก่อนนะ” พิกุลที่เห็นเพื่อนมีคนมารับแล้วจึงขอตัว “เดี๋ยว แล้วเธออกลับยังไง รถเมล์ทางนั้นหมดแล้วนี่” “แท็กซี่ไง” “เอ่อ...” ดอกรักเงยหน้าสบตาพยัคฆ์อย่างขอความช่วยเหลือ แม้จะเกรงใจเพราะหอเธอกับบ้านของพิกุลอยู่คนละทาง แต่จะให้เพื่อนกลับเองแบบนั้นก็รู้สึกไม่ดีเท่าไหร่ พิกุลที่เห็นท่าทางของเพื่อนสนิทก็รู้ว่าดอกรักกำลังคิดอะไรอยู่ “ไม่ต้องเลย ฉันกลับเองได้ ชิลน่า” พิกุลพูดสบาย ๆ ไม่อยากให้เพื่อนกังวล เพราะปกติพิกุลก็ทำงานพิเศษที่ร้านเหล้าอยู่แล้ว ดังนั้นการกลับบ้านดึกดื่นมืดค่ำสำหรับเธอไม่ใช่เรื่องน่ากังวลสักนิด “เดี๋ยวฉันไปส่งเอง” “คะ ?” เสียงของอีกคนมาใหม่ดังมาทางด้านหลังของเธอและเจ้าของเสียงก็คือเจ้าป่าเพื่อนในกลุ่มของพยัคฆ์นั่นเอง ที่พยัคฆ์ได้มาดักรอดอกรักส่วนหนึ่งก็เพราะเพื่อนสนิทอย่างเจ้าป่ารั้งตัวไว้ให้ช่วยงานของทางมหาวิทยาลัยนี่แหละ เจ้าป่ามีตำแหน่งเป็นถึงนายกสมาคมนักศึกษาที่ต้องทำทั้งกิจการงาน ๆ ต่างของมหาวิทยาลัย และแน่นอนว่าเพื่อนสนิทอย่างพวกเขามักจะโดนมันลากคอยมาช่วยงานอยู่บ่อย ๆ แม้จะไม่ได้มีตำแหน่งอะไรก็ตาม พิกุลสบตาดอกรักอย่างงุนงงเพราะเธอไม่ได้รู้จักมักจี่กับคนพวกนี้เสียเท่าไหร่ “เอ่อ ไม่เป็นไรค่ะ” เสียงหวานปฏิเสธอย่างสุภาพเพราะได้ยินกิตติมศักดิ์ของคนพวกนี้จากมาลีวัลย์เหมือนกัน แม้เธอจะไม่ได้เรียบร้อยถึงขนาดดอกรัก แต่ก็ใช่ว่าจะอยากมีปัญหากับใครเสียหน่อย ยิ่งพวกที่ดูมีอิทธิพลแบบนี้แล้วด้วย “ไม่ต้องห่วงน่า ไม่ใช่แค่เราสองคนสักหน่อย ใช่ไหมไอ้วิน” “เออ” เสียงอัศวินดังขึ้นจากในมุมมืดทำพิกุลสะดุ้งตกใจเพราะคิดว่าไม่มีใครอยู่ตรงนั้น แบบนี้มันน่าห่วงกว่าอีกไม่ใช่หรือไง ? “ถ้าอย่างนั้นฝากพี่เจ้าป่าด้วยนะคะ” ไม่รอให้เพื่อนได้ปฏิเสธอีกรอบ ดอกรักก็เป็นฝ่ายพูดขึ้นมาเอง ดอกรักที่ช่วงนี้ค่อนข้างได้อยู่กับกลุ่มเพื่อนพยัคฆ์ อีกอย่างคนกลุ่มนี้ก็ใช่ว่าไม่น่าไว้วางใจเสียทีเดียว ให้เพื่อนไปกับพวกเขาคงดีกว่าให้กลับแท็กซี่เองคนเดียว ยิ่งตอนที่ทำงานเมื่อกี้มีเพื่อนคนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า สามวันก่อนเพิ่งมีนักศึกษาถูกแท็กซี่ลวนลามแล้วยังตามตัวคนร้ายไม่ได้ ดอกรักยิ่งเป็นกังวล “แน่นอนน้องรัก” ชิ้ง ! ทันทีที่เจ้าป่าพูดจบก็ได้รับสายตาเยือกเย็นจากเพื่อนสนิทที่ยืนราวกับจะสิงเข้าไปในร่างดอกรักทันที เจ้าป่าส่ายหน้าเอือมระอา แค่ทำท่าทีสนิทสนมกับคนของมันแค่นี้ต้องมองกันแรงขนาดนั้นเลยหรือไง ไอ้ขี้หวงเอ๊ย “จะกลับได้หรือยัง” เสียงทุ้มต่ำของอัศวินดังขึ้นจากมุมมืดอีกครั้ง “กลับสิโว้ย ทางนี้เลย-” “พิกุลค่ะ” “อ่า ทางนี้ ๆ เลย” เมื่อไม่มีทางเลือกพิกุลจึงยอมเดินตามหลังชายทั้งสองคนไปยังรถสปอร์ตอีกคันที่อยู่จอดหน้าตึก ตากลมมองเพื่อนสนิทเดินตามกลุ่มเพื่อนของพยัคฆ์ไปแล้วก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ส่วนตัวเองก็เดินตามแรงจับของมือใหญ่มายังรถยนต์คุ้นตา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม