บทที่ 10 เหตุการณ์ไม่คาดคิด

1623 คำ
“อีกสิบสองชั่วโมงค่อยทานอีกหนึ่งเม็ด หนูจำได้ใช่ไหม” มะปรางพยักหน้ารับ เตชินขับรถมาส่งถึงที่หน้าบ้านแล้วแต่เธอกลับยังไม่กล้าลงไป เด็กสาวตัวแสบของเขาในวันนี้ดูจะสูญเสียความมั่นใจเอามาก ๆ เตชินจึงเอื้อมมือไปลูบศีรษะของเธอเบา ๆ “เด็กดีครับ ไม่คิดมากนะ” “หนูกลัว อึก!” “ไม่ต้องกลัวนะ เฮียจะมองหนูอยู่ตรงนี้” เตชินปลอบใจเธอแล้วหยิบซองเงินจำนวนหนึ่งหมื่นบาทให้กับมะปราง “พี่เรย์ฝากมาให้” “...” มะปรางยกมือไหว้พร้อมรับซองเงินที่เธอควรจะได้อยู่แล้วมากอดไว้ “อย่าไปทำตามยัยแสบนั่นอีก แล้วก็ห้ามกินเหล้าจนเมาไม่ได้สติกับคนแปลกหน้า” “ก็พี่เรย์ท้าหนูแก้วละพัน” เธอตอบโต้พร้อมเก็บเงินไว้ในกระเป๋าสะพายของตัวเอง เตชินมองคนข้าง ๆ พลางยิ้มละไมเมื่อเห็นว่าเธอเริ่มมีอาการที่ดีขึ้น สำหรับเขาตอนนี้​ สภาพจิตใจของเธอสำคัญที่สุด “มากอดหน่อย” “หืม?” มะปรางเอียงศีรษะเล็กน้อยพลางทำสีหน้าเชิงคำถาม เมื่อเห็นว่าเตชินอ้าแขนออกกว้างเพื่อรอรับกอดจากเธอ “มาให้เฮียกอดหน่อยนะเด็กดี” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน มะปรางยิ้มแป้นก่อนจะโถมเข้าไปสวมกอดเขาอย่างไม่ลังเล​ “ยังเจ็บตรงไหนอยู่หรือเปล่า” “ยังเจ็บไปทั้งร่างเลย แต่ว่าตรงนี้หายเจ็บแล้ว” เธอพูดแล้วกุมไปที่อกข้างซ้ายของตัวเอง เพราะมีเตชินอยู่เคียงข้างมันทำให้เธออบอุ่นหัวใจ “มีอะไรไม่สบายใจ หนูต้องบอกเฮียคนแรกนะ อย่าเก็บไว้คนเดียว เข้าใจไหม” มะปรางพยักหน้าให้ก่อนจะหลับตาปริ่มเมื่อเตชินโน้มใบหน้า​ไปจูบที่หน้าผากมนของเธออย่างละไม “เฮียเป็นของหนูแล้วนะ หนูต้องรับผิดชอบเฮียนะครับ” เตชินกระซิบพูดกับเด็กสาวในอ้อมกอดอย่างหยอกล้อ หวังให้เธอยิ้มออกมาได้บ้าง แต่สิ่งที่เขาได้กลับมาคือกำปั้นหนัก ๆ จากเธอ “โอ๊ย! เฮียเจ็บนะ” “หนูซีเรียส!” แม้จะพูดออกมาเสียงแข็ง แต่ใบหน้าของเธอกลับร้อนเห่อ แก้มที่เคยขาวผ่องค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ หัวใจดวงน้อยมันเต้นแรงจนควบคุมไม่อยู่ “เฮียล้อเล่น” “หนูไม่ตลกนะ ไม่กอดกับเฮียแล้ว” มะปรางผละตัวออกจากชายหนุ่มแล้วหันหน้ามองไปทางอื่นกลบเกลื่อนอาการเขินอาย ก่อนจะลงจากรถยนต์ไป โดยที่มีเตชินคอยเฝ้ามองตามอย่างไม่ละสายตา เธอเดินเข้าไปภายในบ้านเพียงไม่นานก็วิ่งแตกตื่นออกมา โดยที่มีคนเป็นแม่ถือไม่เรียววิ่งตาม “แม่! แม่ฟังปรางก่อน!” “ทำไมกลับมาดึกดื่นป่านนี้ ไปเถลไถลที่ไหนมา” “เถลไถลที่ไหนกันแม่” “ไหนเงินค่าครู” คาริสากับเรติกาโทรไปโกหกคำโตกับแม่มะลิว่าพวกเธอได้พาตัวมะปรางไปขึ้นสังเวียนมวย โดยมีค่าครูให้ แต่มะปรางได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จึงให้มะปรางพักผ่อนอยู่ที่ค่ายมวยหนึ่งคืน พรุ่งนี้จะพาไปส่งที่บ้าน แม่มะลิก็สบายใจขึ้นมาบ้าง เพราะคิดว่าลูกสาวคงเที่ยวหาเงินไปเรื่อย แต่เมื่อเห็นว่ามะปรางกลับมาดึกดื่นป่านนี้ก็คิดว่าลูกสาวเที่ยวเถลไถลกับเงินที่เพิ่งหามาได้อีกตามเคย “นี่จ้ะแม่ ปรางให้แม่หมดเลยนะ” มะปรางหยิบซองเงินจากกระเป๋าสะพายที่เพิ่งได้มาจากเรติกาให้กับคนเป็นแม่ “...” แม่มะลิถึงกับตาลุกวาวเมื่อเห็นจำนวนเงินมากมายอยู่ในซองสีน้ำตาล “ปรางล้ามาก ก็เลยหลับจนถึงเย็นเลย” มะปรางเดินเข้าไปสวมกอดแม่มะลิตามประสา ครั้งนี้เธอต้องโกหกคนเป็นแม่อย่างไม่น่าให้อภัย “แล้วไหนใครมาส่งล่ะ” “เขากลับไปแล้วแม่ เราเข้าบ้านกันดีกว่านะ ปรางมีเรื่องจะเล่าให้แม่ฟังเยอะแยะเลย” เตชินที่เฝ้ามองดูเหตุการณ์ทั้งหมดตั้งแต่เริ่มแอบยกยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นมะปรางก็เอาตัวรอดให้กับตัวเองได้เสมอ ครืด! ครืด! “ว่าไงหมวด” ประโยคบอกเล่าจากปลายสายทำให้เตชินตกใจเป็นอย่างมาก “ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้!” ทันทีที่กดวางสายเตชินก็กระชาก​รถออกไปจากหน้าบ้านของมะปรางอย่างไม่รอช้า “เกิดอะไรขึ้น” “ผู้หญิงคนนี้บอกว่าสามีตัวเองมีอาการคลุ้มคลั่งหลังจากที่กินยาแก้แพ้นี้เข้าไป มันจะเป็นไปได้เหรอครับอาการมันอย่างกับคนหลอนย***า” ผู้หมวดพูดพร้อมหยิบซองยาจำนวนมากมายให้เตชินดู “ช่วยฉันด้วยนะคะผู้กอง ผัวของฉันเป็นคนดี เขาไม่เคยมีประวัติเสพยาเสพติดมาก่อน หลังจากที่กินยานี้เข้าไปเขาก็ไล่ทุบตีฉันกับลูก แถมยังทุบรถที่ตัวเองรักอีก” “ยาพวกนี้เอามาจากไหน” “มีผู้ใหญ่ใจดีเอาข้าวของเครื่องใช้และยาสามัญประจำบ้านมาแจกจ่ายให้กับคนในชุมชน ฉันเพิ่งไปรับมาเมื่อบ่ายวันนี้” “แม่! ได้กล่องยาพวกนี้มาจากไหน” มะปรางตะโกนถามด้วยความตกใจเมื่อเห็นกล่องยาสามัญประจำบ้านใหม่เอี่ยมวางอยู่บนโต๊ะอาหาร เหตุการณ์ที่เธอเพิ่งเจอมาทำให้เธอกลัวเป็นอย่างมาก “มีคนเขาเอาของมาบริจาคเมื่อตอนบ่าย เรียกซะแม่ตกอกตกใจหมดเลยยัยลูกคนนี้” “แม่ยังไม่กินมันเข้าไปใช่ไหม” “แม่ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อยจะกินเข้าไปทำไมล่ะ เป็นอะไรไปฮะมะปราง” “เดี๋ยวก่อนนะแม่ แม่บอกว่ามีคนเอาของพวกนี้มาบริจาคเหรอ แปลว่าคนในชุมชนก็ได้กันหมดเลยสิ” “เอ้า! ก็ต้องได้กันหมดทุกคนสิ” “ฉิบหายแล้ว! ยาเสพติดชนิดใหม่กำลังระบาด” “ว่าไงนะ ยาเสพติดอะไร?” “แม่... ปรางไปบ้านผู้ใหญ่ผินก่อนนะ แม่รอปรางอยู่ที่นี่นะอย่าออกไปไหน แล้วก็อย่าแตะต้องกล่องยาตัวนี้ด้วย” มะปรางไม่ได้อธิบายอะไรให้คนเป็นแม่ฟัง นอกจากลุกลี้ลุกลนรีบร้อนจะไปบ้านผู้ใหญ่ผินให้ได้ โดยที่คนเป็นแม่ก็ได้แต่ชะเง้อมองตามลูกสาวยังไม่เข้าใจนัก “เกิดเรื่องอีกแล้วครับผู้กอง” หมวดอีกคนวิ่งมารายงานเตชิน หลังจากที่วางสายโทรศัพท์ไปเมื่อสักครู่ “เรื่องอะไรหมวด!” “มีไอ้หนุ่มคลั่งยา คว้ามีดดาบไล่ฟันชาวบ้าน” “เตรียมคนของเราให้พร้อม หมวดแว่นดูแลเคสของป้าคนนี้ ส่วนหมวดไปกับผม” “ครับ” ผัวะ! อั่ก! หมับ! เสียงกระทบกระทั่ง​ของผู้คนดังสนั่นและวุ่นวายตามทางเดินรถ ทำให้เตชินกับผู้หมวดที่ล่วงหน้ามาเพื่อดูลาดเลาก่อนถึงกับต้องชะลอรถอย่างเลี่ยงไม่ได้ “ดูเหมือนจะไม่ได้มีแค่ไอ้หนุ่มคลั่งยาแล้วนะครับ แต่มีการทะเลาะวิวาทครั้งใหญ่เลยคราวนี้” คนเป็นหมวดพูดขณะที่ชะลอรถเข้ามาตามถนนที่คับแคบและแออัด คนในหมู่บ้านหลากหลายวัยหันมาตีกันเองอย่างไร้สติและบ้าคลั่ง ภาพเหตุการณ์ตรงหน้ามันทั้งรุนแรงและสยดสยองเกินที่จะควบคุมได้ “หมวดเรียกกำลังเสริมด่วน” หมวดที่มากับเตชินพยักหน้ารับ แล้ววอส่งสัญญาณเรียกกำลังเสริมในทันที “02 ว.15 ว.25 ถนนทางเข้าหมู่บ้านไข่น้ำ เหตุ 200 เปลี่ยน” คนในชุมชนที่เหลือต่างปิดบ้านปิดช่อง เพราะกลัวว่าจะโดนลูกหลงและได้รับอันตรายไปด้วย เด็กเล็กเด็กน้อยที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ก็ร้องไห้เพราะว่าหวาดกลัวกับสิ่งที่เกิดขึ้น “มันกะจะเอาให้ตายกันทั้งหมู่บ้านเลยหรือไงวะ” เตชินพูดออกมาอย่างหัวเสีย เขายังคิดไม่ตกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คนทำต้องการอะไรกันแน่ “หมวดส่งรายงานเรียกกำลังเสริมจาก สภ. ใกล้เคียงด้วย ที่เราที่เดียวคงเอาไม่อยู่” “ครับผู้กอง” ‘เทสเสียง... ประกาศด่วน ตอนนี้มีคนในหมู่บ้านบางส่วนเกิดการทะเลาะวิวาทกันอย่างรุนแรง ห้ามทุกคนยุ่งเกี่ยวกับข้าวของเครื่องใช้ โดยเฉพาะยาสามัญประจำบ้านที่ได้มาจากการรับบริจาคเด็ดขาด ย้ำอีกครั้ง ห้ามทุกคนยุ่งเกี่ยวกับข้าวของเครื่องใช้ โดยเฉพาะยาสามัญประจำบ้านที่ได้มาจากการรับบริจาคเด็ดขาด ปิดประตูล็อกบ้านให้เรียบร้อยเพื่อความปลอดภัยของท่านเอง ขอบคุณค่ะ’ มะปรางประกาศเสียงตามสาย ห้ามไม่ให้คนในชุมชนยุ่งเกี่ยวกับข้าวของเครื่องใช้และยาสามัญประจำบ้านที่ได้มาจากการรับบริจาคของบ่ายวันนี้ แม้หลายคนจะไม่เข้าใจในสิ่งที่มะปรางพูด แต่ก็ยอมปฏิบัติตามแต่โดยดี เพราะเหตุการณ์รุนแรงและป่าเถื่อนในวันนี้ทำให้พวกเขาหวาดกลัว และคงจดจำไปอีกนาน เหตุการณ์วุ่นวายของคนในหมู่บ้าน ทำให้ใครบางคนระเบิดเสียง​หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง เขาใช้คนในชุมชนเป็นหนูทดลองยาตัวใหม่ อีกทั้งยังเป็นการล้างแค้นที่คนในชุมชนเคยรุมประชาทัณฑ์เขาเมื่อครั้งอดีต เขากลับมาเพื่อทำให้ที่นี่ล่มจม ทุกคนที่อยู่เบื้องหลังในการจับกุมและมีส่วนทำให้เขาต้องโทษจำคุกเมื่อห้าปีก่อนจะต้องมีจุดจบคือความตาย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม