“คุณท่านคะ มีแขกมาขอพบค่ะ”
“ใครเหรอจ๊ะแต๋ว” คุณหญิงอัจฉราเอ่ยถามแม่บ้านด้วยความสงสัย เนื่องจากเธอไม่ได้นัดใครเอาไว้ในเวลานี้ แต่ยังไม่ทันที่แม่บ้านจะเอ่ยบอกกับคุณหญิงอัจฉรา แขกคนสำคัญก็เดินเข้ามาที่ห้องรับแขกพร้อมกับยกมือไหว้
“สวัสดีครับ” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยทักทายแม่ภรรยาของตัวเองท่าทางนอบน้อม ด้วยใบหน้าเรียบเฉยไร้ซึ่งอารมณ์ใด ๆ ออกมา
“อ้าว ตาเธียร์ / พี่เธียร์” คุณหญิงอัจฉราอุทานชื่อลูกเขยขึ้นพร้อมกับอันดาที่เอ่ยเรียกชื่อชายหนุ่มเบา ๆ พร้อมกับเหลือบตามองเธียร์วิชทร์เหมือนกำลังเขินอายชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“ผู้หญิง เออ ชาล่ะครับ” เธียร์วิชทร์เกือบเอ่ยเรียกสรรพนามไม่สุภาพหลุดออกมาต่อหน้าครอบครัวของหญิงสาว ก่อนที่เธียร์วิชทร์จะกลับคำเอ่ยเรียกชื่อเล่นของหญิงสาวที่เคยได้ยินมา
“น้องไม่สบาย นอนอยู่บนห้อง” คุณหญิงอัจฉราเอ่ยตอบลูกเขยด้วยน้ำเสียงสุภาพ เพียงแค่เห็นหน้าลูกเขย เธอก็รู้สึกเบาใจขึ้นมาเปลาะหนึ่ง
“ห้องชาอยู่ตรงไหนครับ” เธียร์วิชทร์หันหน้าไปมองทางบันไดขึ้นชั้นสองของบ้าน หวังจะเดินไปยังห้องของภรรยาสาวให้เร็วที่สุด
“เดี๋ยวให้แต๋ว” ยังไม่ทันที่คุณหญิงอัจฉราจะเอ่ยจบ อันดาที่นั่งอยู่เงียบ ๆ เอ่ยเสนอตัวเองออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนปนน่ารัก
“คุณแม่ เดี๋ยวอันดาพาพี่เธียร์ขึ้นไปเองก็ได้ค่ะ”
“เอาแบบนั้นก็ได้ ฝากด้วยนะอันดา”
“เชิญค่ะพี่เธียร์” อันดาลุกจากเก้าอี้เดินไปหยุดตรงหน้าของเธียร์วิชทร์ ก่อนที่เธอจะผายมือไปทางบันไดของบ้าน และเดินนำออกจากห้องทานอาหารทันที
“ว้าย!!” อันดาเดินนำเธียร์วิชทร์ไปยังบันได เพื่อเดินไปยังห้องของชามา แต่กระนั้นหญิงสาวไม่ทันระวัง อันดาเหยียบบันไดพลาดขั้น แต่ยังดีที่มีเธียร์วิชทร์เดินตามหลังมารับร่างเล็กของหญิงสาวเอาไว้ได้เสียก่อน
ทำให้ใบหน้าเล็กของอันดากระแทกเข้าแผ่นอกแกร่งของเธียร์วิชทร์อย่างจัง ปากที่เคลือบด้วยลิปสติกสีชมพูดอมแดงเปื้อนเสื้อเชิ้ตสีขาวของเธียร์วิชทร์เด่นจนเห็นได้ชัด
“ห้องชามาอยู่ไหน”
“ขอบคุณนะคะที่ช่วยรับอันดาเอาไว้ ไม่อย่างนั้นมีหวังได้ล้มจนเจ็บตัวแน่เลย” ใบหน้าขัดเขินของอันดาเอ่ยขอบคุณเธียร์วิชทร์ท่าทางน่ารัก พร้อมกับสายตาใสซื่อทอดมองร่างสูงที่ยืนมองการกระทำของเธออยู่
“ห้องชามา”
“อ๋อ ค่ะ ทางนี้ค่ะ” รอยยิ้มหวานก่อนหน้านี้กลับเจื่อนลงจนเห็นได้ชัด ก่อนที่อันดาจะเดินนำเธียร์วิชทร์ไปยังห้องนอนของชามาด้วยความเอื่อยเฉื่อย
“ห้องนี้ค่ะ” อันดาเดินไปหยุดอยู่ที่หน้าประตูห้องของชามา เพียงแค่รู้ว่าคือห้องของชามา เธียร์วิชทร์รีบเปิดประตูเข้าไปโดยไม่ได้เคาะประตู ก่อนที่เจ้าของห้องจะอนุญาต
ภายในห้องที่เงียบสงัดไร้ซึ่งแสงไฟรวมไปถึงเครื่องปรับอากาศที่หยุดทำงานเหมือนไม่มีใครอยู่ด้านในห้อง ทำให้เธียร์วิชทร์รีบควานหาสวิตช์ไฟที่อยู่ด้านข้างของห้องเพื่อดูความเคลื่อนไหวของสิ่งที่ชีวิตที่อยู่ด้านใน
เพียงแค่ไฟในห้องสว่างจ้า ตาคมกลับโฟกัสไปที่เตียงนอนของชามาที่มีร่างเพรียวของหญิงสาวนอนคลุมโปงอยู่บนเตียง
“ชามา ลุกขึ้น!!” เธียร์วิชทร์เดินมาหยุดอยู่ข้างเตียงของหญิงสาว ชายหนุ่มเอ่ยเรียกภรรยาสาวเสียงเข้ม ไร้ซึ่งคำตอบของหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงจนอันดาที่ยืนอยู่หน้าประตูเดินเข้าไปช่วยเธียร์วิชทร์ปลุกพี่สาวต่างสายเลือดอีกแรง
“พี่ชามาคะ พี่เธียร์มาตามแล้ว”
“ฉันไม่มีเวลามากหรอกนะ อย่าเล่นตัว” น้ำเสียงเย็นยะเยือกของเธียร์วิชทร์เอ่ยบอกกับหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงอีกครั้ งแต่ครั้งนี้ดูเหมือนว่าชายหนุ่มจะได้การตอบรับจากหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียง
“พี่เธียร์มีอะไรคะ” เปลือกตาหนักอึ้งค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นมาโฟกัสสิ่งที่อยู่ตรงหน้าพร้อมกับเสียงแหบแห้งแทบฟังไม่เป็นศัพท์เอ่ยถามสามีของตัวเอง
“ลุก!!” ประโยคคำสั่งของเธียร์วิชทร์ดังขึ้นอีกครั้ง ตาคมยังคงจ้องมองภรรยาของตัวเองตาเขม็ง
“พี่เธียร์มีอะไรรึเปล่า ชาจะนอน” พิษไข้ที่กำลังเข้าเล่นงานหญิงสาว ทำให้ชามาไม่อยากจะลุกจากที่นอนไปไหน? อีกอย่างหญิงสาวเองก็ไม่เข้าใจชายหนุ่มเลยสักนิดว่า เขานั้นต้องการอะไรจากเธอกันแน่
“นอกจากเธอจะเห็นแก่เงินแล้ว ยังขี้เกียจสินะ!!” น้ำเสียงเกรี้ยวกราดปนดูถูกของเธียร์วิชทร์สาดใส่ชามาที่ยังคงงุนงงกับการกระทำของชายหนุ่ม
“ชาไม่” ร่างบางเป็นอันต้องชะงัก เมื่อเห็นรอยลิปสติกที่เปื้อนเสื้อของสามีตัวเอง
“ลุกขึ้น!!” ประโยคคำสั่งของเธียร์วิชทร์ ทำให้ชามารีบยันตัวลงจากเตียงด้วยความอ่อนเพลีย ร่างกายที่เหมือนไร้เรี่ยวแรงแสดงออกมาชัดเจน แต่ไร้ซึ่งความไยดีจากสามีตัวเอง
“ผมขอตัวพาชามากลับคอนโดครับ” เธียร์วิชทร์เดินนำชามาออกจากห้องนอนของหญิงสาว เดินไปบอกกับแม่ยายของตัวเอง ก่อนจะเดินขึ้นไปนั่งรอบนรถยนต์
“ชาอย่าลืมกินยานะลูก” คุณหญิงอัจฉราเดินไปดักหน้าลูกสาวของตัวเองด้วยความเป็นห่วง เธอเริ่มไม่พอใจลูกเขยของตัวเองที่แสดงพฤติกรรมไร้ซึ่งความห่วงใยลูกสาวของตัวเองแบบนี้
“แม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ” ชามาเดินขึ้นไปนั่งบนรถยนต์ของชายหนุ่ม พร้อมกับหลับตาลงด้วยความเหนื่อยล้าโดยไร้ประโยคสนทนาใด ๆ ออกมา
“เธอจะนอนอีกนานมั้ย” เสียงทุ้มต่ำของเธียร์วิชทร์เอ่ยถามชามาที่หลับสนิทตั้งแต่ออกจากบ้านของเธอ ก่อนที่ชายหนุ่มจะเดินลงจากรถยนต์โดยไม่รอหญิงสาวที่กำลังโฟกัสคอนโดหรูที่อยู่ตรงหน้า
“ถึงแล้วเหรอคะ?” ดวงตากลมโตแดงก่ำ เมื่อถูกพิษไข้เล่นงาน สายตาเริ่มพร่ามัว ขาเรียวเริ่มไร้เรี่ยวแรงเดินลงจากรถยนต์
ชามาค่อย ๆ เพ่งมองทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าของเธอที่เหมือนภาพกำลังซูมเข้าซูมออก พร้อมกับสมองที่ปวดหนึบแทบจะระเบิด ก่อนที่ทุกอย่างจะวูบดับไป
“เล่นละครอะไรอีก” เสียงทุ้มต่ำของเธียร์วิชทร์พึมพำกับตัวเอง หลังจากที่ชายหนุ่มเห็นหญิงสาวล้มลงตรงหน้า ทุกการกระทำของหญิงสาวในความคิดของชายหนุ่มเหมือนการแสดงไปเสียหมด
“ชามา!”
เพียงแค่มือหนาสัมผัสร่างกายอันร้อนผ่าวของชามา ชายหนุ่มจึงรีบอุ้มหญิงสาวขึ้นแนบอกในท่าเจ้าสาว พร้อมกับเอ่ยบอกคนขับรถเสียงดังด้วยความร้อนรน
“สาโรจน์ออกรถ!!”
“ไปไหนครับ”
“ไปโรงพยาบาล” ร่างสูงออกคำสั่งกับคนขับรถ เธียร์วิชทร์ประคองตัวชามาให้นอนราบบนเบาะโดยที่ศีรษะของหญิงสาววางอยู่บนหน้าตักของเขา
ตาคมก้มมองใบหน้าซีดเผือดของหญิงสาวที่หมดสติอยู่ มือหนาลูบหน้าผากของหญิงสาวที่มีไรผมปกคลุมหน้าผากมนที่มีเลือดสีแดงสดซึมออกมา
“เฮ้อ!!” เธียร์วิชทร์ถอนหายใจด้วยความรู้สึกอึดอัดในใจ ใจที่รู้สึกสับสนจนยากจะอธิบายเป็นคำพูด ได้แต่จ้องมองใบหน้าสวยของชามาจนถึงโรงพยาบาล