ตอนที่ 1

1058 คำ
1 เมื่อฟ้าบันดาลให้เธอเป็นคู่ของพี่ “แค่กล้วยน้ำว้าดิบหนึ่งหวี พ่อถึงกับยอมยกหนูให้เขาเหรอคะ” “หัวปลีอีกหนึ่งหัวด้วยนะลูก” พ่อลำมูลพูดเสริมเสียงอ่อย เมื่อลูกสาวเอ่ยถึงของหมั้นไม่ครบ “หนูมีค่าเท่ากับกล้วยหนึ่งหวี กับหัวปลีหนึ่งหัว!” มัทนาถามเสียงสูงปรี๊ด เธอยอมรับว่าควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ เธอฟิวส์ขาดตั้งแต่ได้ยินพ่อบอกว่าเธอจะต้องแต่งงานเดือนหน้าแล้ว เธอเพิ่งเรียนจบปริญญาโท อายุแค่ยี่สิบสี่ปี หลังจากเรียนจบมาก็ยังไม่ทันได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย จู่ๆ พ่อก็จะจับเธอคลุมถุงชนกับคนที่หมั้นเธอไว้ตั้งแต่เธออายุหกเดือน แล้วกะอีแค่กล้วยน้ำว้ากับหัวปลี เธอถึงกับต้องพลีพรหมจรรย์แต่งงานกับเขาด้วยเหรอ พ่อลำมูลนั่งขัดสมาธิบนเสื่อที่ปูอยู่เฉลียงรู้สึกใจหวิวๆ ท่านเอาผ้าขาวม้าซับเหงื่อทั่วใบหน้า ทั้งก้มหลบสายตาดุของลูกสาวคนโตเป็นพัลวัน แม้รู้อยู่แก่ใจว่าเรื่องที่เพิ่งบอกลูกไปนั้น จะทำให้ลูกโกรธ แต่ศักดิ์ศรีลูกผู้ชายมันค้ำคอ จะให้ท่านปฏิเสธฝ่ายนั้นได้อย่างไร ท่านอุตส่าห์ปลุกใจให้ฮึกเหิมอยู่ตั้งหลายวัน กว่าจะกล้าบอกให้ลูกรู้ นี่ก็อุตส่าห์เลือกบอกวันก่อนงานบุญพรุ่งนี้ เพราะฝ่ายนั้นจะมาหาที่บ้าน มาเที่ยวงานบุญ ท่านเลยคิดว่าบอกให้ลูกรู้ตัวก่อน ลูกจะได้มีเวลาสงบจิตสงบใจก่อนเจอหน้าคู่หมั้นหนึ่งคืน แต่ดูแล้วสิ่งที่ท่านคิดไว้ ไม่น่าจะได้ผลสักเท่าไร แม่จำปาเมียรักที่นั่งอยู่บนเสื่อผืนเดียวกันยิ้มบางกับสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานที่ผัวกำลังเผชิญอยู่ ท่านทำหูทวนลม ไม่พูดไม่จา เป็นการส่งสัญญาณสื่อสารว่า เรื่องนี้แม่จำปาจะไม่ยุ่ง แม่จำปานั่งห่อขนมเทียนเงียบๆ ซึ่งต้องห่อค่อนข้างเยอะเพราะจะเอาไปทำบุญที่วัด และแจกจ่ายญาติพี่น้องในงานบุญมหาชาติประจำปีของหมู่บ้านวันพรุ่งนี้ มัทนาห่อขนมเทียนช่วยมารดาด้วยความหงุดหงิด มือที่พับใบตองจึงหนักจนทำให้ใบตองแตก แม่จำปามองแล้วได้แต่ส่ายหน้า แต่ก็เข้าใจอารมณ์ลูกสาวอยู่ แต่ไหนแต่ไรมา ท่านกับพ่อลำมูลไม่เคยบังคับลูก ท่านทั้งสองค่อนข้างตามใจลูก แต่จะคอยบอกสอนให้รู้ถูกผิดดีชั่ว ยิ่งถ้าเป็นเรื่องอนาคตของลูก ท่านจะปล่อยให้ลูกเป็นคนตัดสินใจเลือกเอง แต่คราวนี้เพราะศักดิ์ศรีและคำสัญญาลูกผู้ชายของพ่อลำมูล จึงทำให้ท่านต้องขอร้องกึ่งบังคับลูกให้แต่งงานกับคู่หมั้นวัยเยาว์ “นะ...หนูมัทเป็นคนรับหมั้นเองนะลูก” พอเห็นลูกนั่งเงียบ พ่อลำมูลก็รีบพูดต่อ “ตอนนั้นหนูเพิ่งหกเดือนเองนะคะ หนูจะรับหมั้นเขาได้ยังไงกัน” มัทนาทำขนมเทียนในมือเละไปอีกห่อ พ่อลำมูลเห็นถึงกับสะดุ้ง ท่านยื่นผ้าขาวม้าให้ลูกสาวอย่างกล้าๆ กลัวๆ “ชะ...เช็ดมือหน่อยไหมลูก” มัทนาทำปากยื่นใส่บิดา หญิงสาวเมินหน้าหนีท่าน ไม่ยอมรับผ้าขาวม้ามาเช็ดมือ แม้รู้อยู่แก่ใจว่าทำกิริยาไม่เหมาะสมกับบุพการี แต่ครั้งนี้เธอโกรธจริงๆ ด้วย นี่มันชีวิตของเธอทั้งชีวิตเลยนะ “ก็ตอนไอ้คุณเข้มเอากล้วยกับหัวปลีมาให้ หนูยื่นมือไปรับเองนะลูก” พ่อลำมูลชี้แจงแถลงไขเพิ่ม หวังจะให้ลูกคลายขุ่นข้องหมองใจ ก็ลูกรับไว้เอง พ่อก็แค่คนถือให้ “ตอนนั้นหนูเพิ่งหกเดือนเองนะพ่อ หนูจะถือกล้วยกับหัวปลีได้ยังไง” “ตอนนั้นพ่ออุ้มหนูอยู่ แล้วหนูก็ยื่นมือออกไปทำท่าจะเอาให้ได้ พ่อเลยต้องรับมาถือไว้ให้” มัทนาสูดลมหายใจลึก แล้วระบายออกยาว เธอพยายามข่มอารมณ์ร้อนๆ ที่ระอุอยู่เต็มอกไว้ พ่อช่างกล้าโยนความรับผิดชอบเรื่องนี้มาให้เธอ ทั้งที่ตอนนั้นเธอไม่รู้เรื่องอะไรเลย เธอเพิ่งหกเดือน! “ไม่รู้ละ พ่อเป็นคนรับของหมั้นไว้เอง งั้นพ่อก็แต่งกับเขาเองแล้วกัน” “เฮ้ย! มันจะเป็นแบบนั้นได้ยังไงกันเล่า!” พ่อลำมูลสะดุ้งโหยง เมื่อโดนลูกสาวยอกย้อน แม่จำปาเห็นท่าทางสองพ่อลูกแล้วก็ถอนหายใจ ท่านวางขนมเทียนชิ้นสุดท้ายที่เพิ่งห่อเสร็จลงในซึ้งแล้วปิดฝา ก่อนหันไปบอกลูกสาวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “หนูมัทเอาซึ้งไปตั้งเตาก่อนนะลูก” มัทนาหันไปสบตามารดา เห็นท่านยิ้มอ่อนโยนและพยักหน้าให้ เธอจึงถอนหายใจบางเบา หญิงสาวเอื้อมไปจับหูซึ้งสองข้างแล้วลุกขึ้นยืน เดินถือซึ้งเข้าไปในห้องครัวซึ่งอยู่อีกฝั่งของตัวบ้าน เธอต้องเข้าไปสงบจิตใจในครัวก่อน ไม่อย่างนั้น ไม่เธอก็พ่อนี่แหละจะต้องธาตุไฟเข้าแทรกเพราะทุ่มเถียงไม่หยุดแบบไม่มีใครยอมใคร แม่จำปามองตามหลังลูกสาวไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหันกลับมามองหน้าผัวที่นั่งอยู่ใกล้กัน พ่อลำมูลเห็นสายตาเมียรักแล้วก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆ รอฟังว่าเมียจะพูดว่าอย่างไร “ฉันบอกพี่แล้วว่าเรื่องนี้ไม่หมู หนูมัทไม่ใช่คนที่ยอมอะไรง่ายๆ” “แม่จำปาก็ช่วยพูดกับลูกให้พี่หน่อยสิ” “พี่เป็นคนเรียนผูกเอง พี่ก็ต้องเรียนแก้เองสิจ๊ะ” “โธ่! แม่จำปา แม่ก็รู้ว่าพี่แค่รับปากส่งๆ ไปอย่างนั้นแหละ ใครจะรู้ว่าไอ้คุณเหมมันจะคิดจริงจัง ไหนจะคุณขวัญเมียมันอีก อยู่ๆ ก็ยกโขยงกันมาทวงคำสัญญาตั้งแต่สมัยยี่สิบกว่าปีที่แล้ว ไม่รู้คิดอะไรกันอยู่” พ่อลำมูลว่าแล้วถอนหายใจ โบกผ้าขาวม้าพัดวีให้ตัวเอง ราวกับอากาศร้อนรุ่มนักหนา ทั้งที่อากาศยามโพล้เพล้ลมพัดโชยมาจากชายทุ่งเย็นสบาย “คุณเข้มอายุเท่าไรแล้วนะพี่” แม่จำปาถามด้วยความเอะใจ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม