เช้า
"คุณพ่อคุณขาวันนี้หนูเมย์จะไปสัมภาษณ์งานคุณพ่อคุณแม่ช่วยอวยพรให้หนูเมย์หน่อยได้ไหมคะ" เสียงหวานในยามเช้าที่ต่อสายโทรหาผู้เป็นดั่งพระในบ้าน เอ่ยอ้อนให้ท่านทั้งสองช่วยอวยพรในวันดีๆที่เธอกำลังจะไปสัมภาษณ์งาน
"คุณพ่อกับคุณแม่ขออวยพรให้หนูเมย์ประสบผลสำเร็จนะลูก ขอให้การสัมภาษณ์งานในวันนี้เป็นดั่งที่หนูหวังนะคะ"เตชินกับหนูดาวกรอกเสียงตามสายผ่านทางโทรศัพท์ คำพูดที่แสนอบอุ่นอวยพรให้ลูกสาวสุดที่รักประสบผลสำเร็จทุกอย่าง เพียงเท่านั้นใบหน้าสวยก็มีรอยยิ้มประดับขึ้นจนแก้มอิ่มแทบปริ
"ขอบคุณนะคะ…คุณพ่อคุณแม่คะถึงบริษัทแล้วเดี๋ยวหนูเมย์วางสายก่อนนะคะ"เมื่อสายถูกตัดไปอาการปวดหัวอย่างรุนแรงแล่นเข้ามาทักทายหนูดาวแม่ของเมย์ลดาทันทีด้วยความเจ็บปวด หนูดาวเบ้หน้าร้องจนเสียงหลงเตชินที่นั่งใกล้ๆถึงกับตกใจ
อ๊ะ!!ฮึก~ฮื้อ!!
"ปวดหัวอีกแล้วหรอหนูดาว"
"ค่ะพี่เตหนูดาวปวดหัว ฮึก ช่วยหนูดาวที ฮึก อย่างบอกหนูเมย์นะคะว่าหนูดาวไม่สบาย อย่าบอกลูกว่าหนูดาวเป็นอะไรอย่าให้ลูกรับรู้" ร่างบางที่นอนภายในห้องใหญ่สะอื้นไห้ด้วยความเจ็บปวด หัวทุยที่หนุนนอนบนหมอนนุ่มบิดส่ายไปมาจนหัวแทบจะระเบิด สิ่งเดียวที่จะทำให้ดาวลดาหายจากโรคบ้าๆนี้ได้คือเธอต้องได้รับการผ้าตัดกับหมอที่มีความชำนาญพิเศษ แต่ค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงกับสถานการณ์ตอนนี้เตชินยอมรับว่ายากสำหรับเค้า เพราะตอนนี้ทางบริษัทวุฒิวัฒศิริประภากำลังประสบปัญหาการขาดทุน เตชินเองก็ไม่ทราบสาเหตุว่าเพราะอะไร เค้าให้เพื่อนสนิทที่พ่วงตำแหน่งรองประธานฝากฝังให้เพื่อนดูแลทุกอย่างแทนเค้าทั้งหมดเพราะความเชื่อใจ เค้าไม่ได้เข้าบริษัทเป็นเวลาเกือบปีตั้งแต่หนูดาวไม่สบาย ทุกอย่างแย่ลงติดลบไปหมด
"ทุกอย่างมันต้องดีขึ้นพี่กำลังขายบริษัท รอหน่อยนะคนเก่งพี่จะพาหนูไปรักษาตัวที่อังกฤษ"
"อย่าขายนะคะมันเป็นสิ่งที่พี่เตรัก"ดาวลดาห้ามขึ้นทันที
"ไม่มีอะไรสำคัญเท่าหนูดาวและหนูเมย์ พักผ่อนนะครับจะได้ไม่ปวดหัว" ดาวลดาเธอปวดหัวมาสักระยะทุกอย่างเกิดจากเซลล์ในสมองผิดปกติจนกลายมาเป็นเนื้องอกที่กำลังเริ่มลุกลามและมันกำลังรังแกเธอ
@บริษัทคาร์ลอเลส
"คนโตเป็นกำลังใจให้น้องเมย์ด้วยนะคะ"ล็อกเกตจี้หัวใจที่มีรูปถ่ายของเธอและเค้าอยู่ในนั้นมันเป็นสิ่งเดียวที่พี่ชายสุดที่รักทิ้งไว้ให้ในตอนวันเกิด เมย์ลดาใส่ติดตัวตลอดเธอมักจะพูดคุยกับเจ้าล็อกเกตนี้ทุกครั้งเหมือนมันมีชีวิตจิตใจ
"สวัสดีค่ะดิฉันมาสัมภาษณ์งานตามที่คุณสมพงษ์นัดหมายไว้ค่ะ"เด็กสาวผิวขาวราวหิมะ ปากน้อยๆจมูกที่เชิดรั้น ร่างบางที่ได้สัดส่วนทำให้ทุกคนจับจ้องเธอเป็นตาเดียวกันในระหว่างที่สนทนา ความออร่าในแบบฉบับสาวไทยที่ไม่ได้เสริมแต่งใดๆทำให้เมย์ลดาเป็นที่หมายปองของบรรดาหนุ่มๆ เมย์ลดาเกิดความประหม่าในระหว่างที่สนทนาแต่แค่แป๊บเดียวเท่านั้น เมื่อมีเสียงใหญ่เรียกสติของเธอ
"เชิญคุณเมย์ลดาที่ห้องท่านประธานทางด้านซ้ายมือเลยครับ"มือใหญ่ผายเชิญให้เธอเดินไปยังห้องท่านประธาน เมย์ลดายกมือไหว้ขอบคุณด้วยความนอบน้อมอย่างมีมารยาท เธอเคาะประตูถึงสามครั้งแล้วเอ่ยขออนุญาตเพื่อเข้าไปสัมภาษณ์งานตามที่คุณสมพงษ์ได้แนะนำ
"เข้ามา"เสียงที่เอ่ยอนุญาตเหมือนตวาดขึ้นอย่างไม่พอใจ จนเมย์ลดาที่อยู่ด้านนอกต้องสะดุ้งด้วยความกลัว เธอผลักประตูเข้ามาดวงตากลมโตปะทะเข้ากับร่างหนาที่แต่งตัวสุดเหนียบนั่งอยู่กลางโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ภายในห้อง เธอยอมรับว่าเค้าหล่อดูดีมากๆแต่สิ่งที่ไม่เหมาะกับความหล่อเหลาเอาสะเลยนั่นก็คือเสียงดุๆนี่แหละ สายตาคมมองมาที่ร่างบางด้วยความตะลึงตกอยู่ในภวังค์ความสวยของคนตรงหน้า เค้าไม่คิดเลยว่าเด็กสาวตัวน้อยของเค้าเมื่อหลายปีก่อนจะเติบโตมางดงามได้ถึงเพียงนี้
"เชิญนั่งหรือจะยืนก็ตามสบาย"เมื่อสติเริ่มมาวาจาเริ่มพูดขัดหูทันที
"ขอบคุณค่ะ”เมย์ลดาเดินเข้าไปใกล้ๆ เธอเลือกที่จะนั่งมากกว่ายืน ก้นน้อยหย่อนลงนั่งกับเก้าอี้นุ่มเธอเก็บขาอย่างเรียบร้อย แฟ้มของเธอที่ถือมาด้วยถูกยื่นให้ท่านประธานได้ดูอย่างละเอียด ความเย็นภายในห้องทำให้เมย์ลดารู้สึกหนาวทั้งๆที่เธอก็ใส่เสื้อแขนยาว แต่ทำไมมันรู้สึกหนาวจนถึงขั้วหัวใจเป็นเพราะคนตรงหน้าหรือเป็นเพราะอากาศกันนะ
"ฉันให้เวลาเธอ 20 นาทีจะพูดยังไงก็ได้ให้ฉันรับเธอเข้าทำงาน"
เมย์ลดาพูดทุกอย่างอย่างฉะฉาน เมื่อคนตรงหน้าเปิดโอกาสให้เธอ เธอใช้เวลาภายใน20นาทีอย่างคุ้มค่าและดีเยี่ยม แต่สิ่งที่เธอได้รับกลับมาทั้งคำพูดและสายตามันทำให้เธอเสียกำลังใจ
"นี่หรอเด็กที่จบจากมหาลัยชื่อดังแถมพ่วงมาด้วยเกียรตินิยมอันดับ1 เกรดเฉลี่ย 4.00 ฉันถามเธอจริงๆสิ่งที่เธอได้มันมาทั้งหมดไม่ว่าแผ่นกระดาษที่มีตัวเลขที่เค้าเรียกกันว่าเกรดเฉลี่ยหรือตัวอักษรโง่ๆที่เค้าเรียกว่าเกียรตินิยม เธออ้าขาแลกมันมาทั้งสองอย่างเลยรึเปล่า" มือเล็กที่เคยประสานกันอย่างมีมารยาทกลับเปลี่ยนเป็นกำแน่นด้วยความโกรธ คำพูดที่แสนทุเรศจากคนที่เพิ่งได้เจอกันไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เค้าตัดสินเธอแบบนี้ได้ยังไงกัน เมย์ลดาเธอเป็นเด็กสาวอ่อนหวานก็จริงแต่ถ้าทุกอย่างไม่ถูกต้องเธอก็พร้อมก๋ากั่นเต็มที่
"ถ้าดิฉันต้องได้ร่วมงานกับผู้บริหารที่มีจิตใจคับแคบมีความคิดที่สกปรกจิตใจต่ำตมแบบคุณ ดิฉันขออนุญาตไม่ร่วมงานดีกว่าขอแฟ้มคืนด้วยค่ะ"เมื่อเธอเอ่ยขอแฟ้มคืนแต่กลับไม่ได้ถูกยื่นกลับมา เมย์ลดาจึงลุกขึ้นแล้วหันหน้าไปทางประตูด้วยใบหน้าที่แสดงออกถึงความไม่พอใจอย่างเก็บไม่มิด เท้าเล็กที่มีรองเท้าส้นสูงสีเรียบประดับอยู่เธอเดินได้เพียงแค่ไม่กี่ก้าว แฟ้มสีขาวที่รวบรวมเอกสารทุกอย่างทางด้านการศึกษาถูกโยนลงพื้นอย่างไม่ไยดี แฟ้มถูกเก็บขึ้นโดยเจ้าของ เมย์ลดาถือแฟ้มพร้อมเดินดิ่งเข้าไปหาคนข้างหน้า คนที่ไม่มีมารยาทที่บังอาจโยนแฟ้มใส่เธอเมื่อสักครู่ด้วยกิริยาที่น่ารังเกียจและไม่เหมาะสม
ตุ้บ!!
แฟ้มสีขาวถูกปาใส่หน้าคนใจร้ายทันทีโดยที่เธอไม่คิดไตร่ตรองถึงผลจะตามมา เธอเขวี้ยงใส่เค้าจนเต็มแรงอย่างสุดกำลังด้วยความโมโหอย่างไม่มียั้ง แน่นอนแฟ้มหนาถูกปาใส่หน้าคลาสอย่างจังโดยเค้าไม่ทันตั้งตัว ไฟในตาเริ่มลุกโชนเมื่อถูกปรามาสจากเด็กสาว
"ทุเรศไม่มีมารยาท ฉันมาสมัครไม่ใช่มาขอทานหรือมาขอข้าวคุณกิน อย่ามาใช้สันดานแย่ๆใส่ฉันเพราะฉันไม่ใช่ลูกน้องคุณ"ร่างบางเริ่มรู้สึกกลัวเมื่อเห็นไฟในดวงตาคู่คม แต่เธอไม่ถอยเพราะเธอไม่ผิดเค้าต่างหากที่ผิดที่คิดเสียมารยาทใส่เธอก่อน
คลาสลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเมื่อถูกสาวน้อยตรงหน้าเอาคืนด้วยการปาแฟ้มใส่หน้าเค้าอย่างแรง คลาสรู้สึกโกรธขุ่นเคือง เค้ายอมรับว่าไม่เคยมีใครหน้าไหนกล้าแสดงกิริยาหรือตีฝีปากล้าแบบนี้กับเค้า ขาแกร่งก้าวเข้ามาหา เมย์ลดาก็ไม่มีทีท่าว่าจะถอย กลับกันเธอกลับเชิดหน้าขึ้นใส่อย่างท้าทาย จนสุดท้ายปากบางต้องร้องออกมาเมื่อถูกมือหนาล็อกบีบที่คางเข้าให้อย่างแรงด้วยความเจ็บ
“อ๊ะ!!โอ้ย!!”
"อย่าซ่าให้มันมากถ้าเธอยังไม่รู้จักฉันดีพอ"ดวงตากลมโตเริ่มแดงเมื่อคลาสส่งแรงบีบแน่นขึ้น น้ำตาเม็ดใสไหลออกมาด้วยความเจ็บอย่างห้ามไม่อยู่ เสียงสะอื้นของคนตัวเล็กเล็ดลอดออกมาทำให้คลาสได้สติ เค้าจำแววตาคู่สวยนี้ได้เมื่อคนตัวเล็กร้องไห้หรือเสียใจจะมีมือและคำพูดของเค้าคอยปลอบประโลมให้เธอหยุดร้อง แต่เวลานี้มือคู่นี้กลับทำร้ายให้เธอสะอื้นไห้เสียเอง
ร่างบางร่วงลงพื้นอย่างอ่อนแรงจนคลาสเองตกใจอยู่ไม่น้อย ใบหน้าสวยรูปไข่ที่ถูกตาต้องใจชายหนุ่มตั้งแต่แรกพบมันแดงขึ้นจนเป็นรอยนิ้วจากแรงบีบของผู้ชายใจทมิฬ เมย์ลดารีบกำล็อกเกตจี้หัวใจที่อยู่ภายใต้ตัวเสื้อแล้วดึงมันออกมาเพื่ออยากสัมผัสมันตรงๆโดยไม่มีสิ่งใดมากางกั้น เวลาที่เธอกลัวดีใจหรือแม้กระทั่งเสียใจสิ่งนี้สิ่งเดียวเท่านั้นที่จะช่วยเยียวยาความรู้สึกภายในใจของเธอได้ ปากเล็กกดจูบที่จี้สีเงินเพื่อเรียกกำลังใจ การกระทำทุกอย่างตกอยู่ในสายตาคนใจยักษ์ เค้ายืนตัวชาด้วยหัวใจที่ปวดหนึบล็อกเกตนี้เค้าจำมันได้ดี เค้าเป็นคนสั่งทำขึ้นมาเป็นพิเศษ มีแค่สองชิ้นเท่านั้นบนโลกใบนี้ซึ่งอีกอันอยู่ที่ตัวเค้าและคลาสก็รักษามันไว้อย่างดี
ร่างบางเช็ดน้ำตาอย่างลวกๆเธอพยายามลุกขึ้นยืนอีกมือก็กุมกำล็อกเกตไว้ กระเป๋าสะพายใบเล็กสีดำถูกเขวี้ยงอัดใส่หน้าคนใจร้ายที่ยืนใกล้ๆเธออีกครั้งอย่างไม่ออมแรงเช่นกัน เมื่อเค้าทำเธอเจ็บเค้าก็สมควรเจ็บไม่แพ้กัน
"โอ๊ย!!ไอ้ตัวแสบ"ร่างหนาโอดครวญ
"สมน้ำหน้านี่แนะ"
ร่างบางที่อยู่ในชุดเรียบร้อยวิ่งเข้าไปกัดแขนแกร่งอีกครั้งจนคลาสร้องลั่น จากนั้นร่างบางก็เผ่นแน่บอย่างไม่รีรอ
"แสบนักนะฉันจะทำทุกวิถีทางให้เธอคลานเข่าเข้ามาขอร้องอ้อนวอนฉันคอยดูเมย์ลดา"