“รอนานไหม” ฉันนั่งลงในรถหรูที่จอดรออยู่ในที่จอดรถของห้างดังหลังจากที่ฉันแยกกับเพื่อนแล้วก็ตรงดิ่งมาหาคนที่รออยู่ทันที
“โคตรนาน” เสียงที่เปล่งออกมาสั้น ๆ เป็นเสียงทุ้มแต่แฝงไปด้วยความหยิ่งในน้ำเสียงของผู้ชายที่มีหน้าตาหล่อ คม ใบหน้าเพอร์เฟ็คไปทุกสัดส่วน ถึงจะดูเป็นคำพูดสั้น ๆ ห้วน ๆ แต่ฉันไม่เคยถือสาเพราะมันเป็นบุคลิกของเขาเองและที่สำคัญเพราะเขาคนนั้นคือแฟนของฉันเองค่ะ
อ้อ! จะแนะนำแฟนแต่ไม่แนะนำตัวเองซะงั้น สวัสดีค่ะฉันชื่อมิลานนะคะ มิลานเป็นชื่อจริงที่คุณแม่ตั้งให้ เพราะแม่ดันไปสปาร์คและตั้มกับคุณพ่อที่นั่นฉันเลยได้ชื่อที่เป็นเหมือนอนุสรณ์ความรักของพวกท่านมา
ฉันเป็นลูกสาวของนักธุรกิจเสี่ยเจ้าของโรงงานอาหารสำเร็จรูปชื่อดังค่ะ เป็นขวัญใจชาวบ้านชาวช่องเวลากลางเดือนถึงสิ้นเดือน ส่วนคุณแม่ก็เป็นคุณหนูลูกผู้ดีเก่าคุณแม่สวยมากคุณพ่อก็หล่อมาก ยีนส์ดีทั้งสองฝั่งเลยส่งผลให้ฉันสวยมากกว่าคุณแม่ ฮ่า ๆๆ ล้อเล่นค่ะ ไม่กล้าเทียบเท่าคุณแม่หรอกแต่พอดีสาวกว่าเลยมั่นใจว่าสวยกว่านิดหน่อย
ตอนนี้ฉันเป็นนักศึกษามหาลัยชื่อดังอยู่ปีหนึ่งกำลังจะขึ้นปีสองแล้ว อีกแค่เดือนเดียวก็จบปีหนางแล้วล่ะ นิสัยก็ปกติค่ะไม่ได้เรียบร้อยไม่ได้แสนดีแต่ก็ไม่ได้ร้ายไม่ได้ตลกไม่ได้ขี้อายบุคลิกออกจะแปลก ๆ แล้วแต่ว่าอยู่ในอารมณ์ไหนและอยู่กับใคร แต่รวม ๆ คบได้ อันนี้ไม่ได้คิดเองนะคะ เพื่อนสนิทฉันทั้งสองคนเป็นคนบอกมามันชื่อมินตรากับแมนนี่
ส่วนคนที่อยู่ข้างฉันเป็นแฟนหนุ่มสุดฮอตที่เพิ่งคบกันได้สองเดือนแต่เป็นการคบแบบที่ยังไม่ได้เปิดตัวนะ คิดไว้ว่าจบปีหนึ่งก่อนค่อยเปิดตัวแล้วกัน เขาเป็นเพื่อนที่เรียนคณะเดียวกันแต่คนละสาขา เป็นหนึ่งในสาม หนุ่มเฟรชชี่สุดฮอตและแสนร้ายของปีนี้เลยค่ะ ชื่อว่า แอลฟ่า >///<
“ก็อีแมนมันให้ช่วยเลือกของนี่นา แอลอย่าโกรธเค้าน้า” ฉันหันไปบอกเสียงอ้อนแต่แอลฟ่าแค่ปรายตามามองแล้วก็พยักหน้าให้ก่อนที่เขาจะขับรถออกมาจากลานจอด
“แอลหิวรึยัง อยากกินอะไร” ฉันถามเขาหลังจากที่เราออกมาจากห้างได้สักพักแล้ว นี่ก็เริ่มเย็นแล้วท้องฉันก็เริ่มจะหิวขึ้นมานิดหน่อย
“ไม่รู้สิ เธอทำไรให้กินหน่อยดิ” แอลฟ่าตอบฉันมา เขาชอบเป็นแบบนี้ล่ะค่ะกินอะไรก็ได้ไม่ค่อยเรื่องมาก ไม่ค่อยนึกหรือใช้ความคิดด้วยว่าจะกินอะไรเป็นพิเศษ มีอะไรให้กินก็กินได้หมด ก็ผู้ชายนี่เนอะ
“ได้งั้นแวะซุปเปอร์หน้าคอนโดให้หน่อยนะ” ฉันหันไปบอกเขาแล้วก็ยิ้มให้ นึกดีใจที่เขาชอบบอกให้ทำอาหารให้กินบ่อย ๆ ความจริงก็แทบจะทุกวันแหละ อ้อไม่ใช่ว่าเราพักอยู่ด้วยกันนะคะแอลฟ่าแค่มาส่งเท่านั้นแล้วก็ชอบมากินข้าวกันที่คอนโดฉันประจำ เราสองคนยังเป็นแค่แฟนกันค่ะยังไม่มีอะไรเกินเลย
หลังจากที่เรามาถึงคอนโดฉันแล้วแอลฟ่าก็นอนเล่นโทรศัพท์รอฉันที่โซฟา ส่วนฉันก็ทำอาหารสองสามเมนู พอทำเสร็จก็ลงมือกินข้าวกันก่อนที่จะช่วยกันล้างจานจนเรียบร้อย
“คืนนี้ไปไหนต่อรึเปล่า” ฉันถามเขาหลังจากที่ตอนนี้เรามานั่งดูหนังเล่นที่โซฟา นั่งโอบกันนิดหน่อยพอได้ใกล้ชิดบ้าง
“คงไปหาไอ้ตินไอ้วินมั้ง เดี๋ยวพวกมันคงโทรตาม” แอลฟ่าบอกฉันพร้อมกับเอามือมาม้วนผมฉันเล่น ส่วนสายตาเขาก็ยังจ้องไปที่หน้าจอทีวี
“อ้อ วันนี้วันศุกร์นี่เนอะ” ฉันพูดออกไปเพราะเป็นเรื่องปกติที่คืนวันศุกร์เขากับกลุ่มเพื่อนซึ่งก็คือเพื่อนสนิทในกลุ่มเขามีออสตินกับเควินจะออกไปแฮงค์เอ้าท์กันอยู่แล้ว
“ไม่อยากให้ไปเหรอ” แอลฟ่าหันมาถามฉหลังจากที่ฉันพูดจบพร้อมกับจ้องหน้าฉันด้วยแววตาแปลก ๆ
“เปล่า แค่วันนี้อยู่ด้วยกันแป๊บเดียวเอง แป๊บ ๆ จะดึกแล้วเนี่ย” ฉันบอกเขาแล้วมองไปที่นาฬิกาด้วยความเสียดาย ใคร ๆ ก็เป็นไหมล่ะมันเป็นเรื่องปกติที่เราจะอยากอยู่กับแฟนนาน ๆ
“ถ้างั้นก็ให้ค้างที่นี่สิ” แอลฟ่าตอบตาวาวแต่ฉันนี่หน้าแดงด้วยความอายขึ้นมาทันที พูดจ้าเพ้อเจ้ออะไรเราสองคนยังเป็นแค่เด็กปีหนึ่งกันอยู่เลยนะ ถึงบุคลิกความคิดหรือการใช้ชีวิตจะดูโตก็เถอะแต่มันก็ยังเป็นเด็กอยู่วันยังค่ำไม่ใช่รึไง อายุแค่สิบเก้าเองนะยังไม่บรรลุนิติภาวะเลยด้วยซ้ำ
“บ้า บอกแล้วไงว่าไม่พร้อม” ฉันหันไปบอกแอลฟ่าด้วยใบหน้าที่แดงจัด คือฉันเป็นพวกที่ห่วงเรื่องแบบนี้มากเลยนะคะ คุณย่าคุณยายคอยสอนคอยกรอกข้อมูลเรื่องการรักนวลสงวนตัวมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว ไม่รู้ว่ากรอกข้อมูลนี้มาตั้งแต่ตัวฉันเพิ่งมีโครโมโซม x ของคุณพ่อคุณแม่อย่างละข้างรึเปล่าฉันถึงได้ค่อนข้างที่จะหวงพรรมจรรย์ หวงมากเลยด้วย
“ก็เรื่องปกติของคนเป็นแฟนกัน” แอลฟ่าพูดออกมาด้วยน้ำเสียงนิ่งแล้วก็มองมาที่ปากของฉันจนฉันต้องเม้มปาก คือหวงตัวอก็หวงนะแต่เขาเป็นแฟนใช่ไหมล่ะก็มีหอมมีจูบบ้างนิดหน่อย แต่นิดหน่อยของเขาคือโคตรจะเยอะสำหรับฉันเลย เขาเคยจูบจนฉันต้องทุบหลังเขาเต็มแรงเพราะหายใจไม่ออกเพราะฉะนั้นวันนี้รู้ตัวแล้วก็ขอป้องกันเอาไว้ก่อน
“เดี๋ยวไปเอาขนมมาให้กินเล่นนะ” ฉันหาทางผละออกไปทันทีแต่พอขยับตัวลุกเท่านั้นเขาก็คว้าข้อมือฉันเอาไว้แล้วดึงให้หันไปหาทันที
“อื้อ!” ฉันร้องออกมาด้วยความตกใจเมื่อเขาก้มลงมาประกบปากจูบกับฉัน แค่ปากแตะปากแอลฟ่าก็มอบความร้อนแรงให้แล้ว จูบหวาน ๆ อ่อนโอนเป็นยังไงฉันไม่เคยสัมผัสเลยเพราะทุกครั้งที่ปากเราแตะกันเขาก็จะสอดลิ้นเข้ามากระหวัดเกี่ยวกับลิ้นฉันทันที
แอลฟ่าจูบเก่งมาก ที่จริงฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าจูบห่วยกับจูบเก่งเป็นยังไง เพราะเฟิร์สคิสของฉันก็เป็นเขาที่ได้ไป แต่ความรู้สึกมันบอกแบบนั้นเขาจูบแต่ละครั้งฉันแทบลงไปกองที่พื้น มือไม้อ่อนไปหมด
“หวาน” แอลฟ่าผละปากออกหลังจากที่จูบไปนานพอสมควรจนปากฉันชาไปหมด เหมือนมันจะบวมแล้วด้วย แล้วเขาก็กระซิบแผ่ว ๆ ข้างแก้มฉัน อีตาบ้านี่ พูดน้อยมากแต่คำที่พูดออกมาทำให้ฉันเขินได้ตลอดเลย
“ชอบแกล้งตลอดเลยนะแอล กลับไปเลยนะ” ฉันทุบแขนเขาไปหนึ่งทีแก้เขินแล้วก็ขยับตัวให้ห่างจากอีตาพูดน้อยจูบหนักคนนี้ อยู่ใกล้เขาเวลานี้มีหวังได้ปากเจ่อแน่นอนแต่แอลฟ่ากลับไม่ยอมให้ฉันถอยห่าง เพราะเขาคว้าตัวฉันไปกอดเอาไว้แน่น
“แกล้งยังไง จูบจริงชัด ๆ” อื้อ! ดูพูดเข้า นอกจากพูดน้อยจูบหนักยังพูดตรงมาก
“แอล! เลิกพูดเลย ต่อไปจะไม่ยอมให้จูบแล้วนะ”
“หึ ๆ งั้นก็ยอมให้ทำอย่างอื่นสิจะได้ไม่ต้องคอยจับเธอมาจูบให้เมื่อยปาก” แอลฟ่าหัวเราะออกมาเบา ๆ แล้วก็ยื่นข้อเสนอมาให้ แต่เป็นข้อเสนอที่ฉันไม่ได้อะไรเลยมีแต่เสียกับเสีย นี่เรายังเด็กอยู่เลยนะเพิ่งคบกันได้ไม่นานด้วยทำไมต้องเอาแต่พูดเรื่องแบบนี้วะ
“นายคบฉันเพราะหวังฟันฉันเหรอแอล” ฉันถามแอลฟ่าเสียงนิ่งทันที ฉันบอกรึยังว่าเพื่อน ๆ บอกว่าฉันเป็นคนแปลก ๆ บุคลิกไม่ชัดเจน แล้วแต่อารมณ์ และตอนนี้ฉันก็อารมณ์ไม่ดีแล้วด้วย
“ล้อเล่นน่า โกรธเหรอ” แอลฟ่าตอบออกมาทันทีพร้อมกับมองหน้าฉันที่มีสีหน้าเครียดใส่เขา
“เปล่า แค่สงสัยเพราะนายชอบพูดเรื่องนี้อยู่เรื่อย บอกให้รู้ไว้ตรงนี้เลยนะแอลฟ่าจะพูดแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว ฉันจะไม่ยอมมีอะไรกับนาย ฉันไม่พร้อม คนเราเป็นแฟนกันไม่จำเป็นต้องมีอะไรกันก็ได้มั้งหรือถ้านายไม่เคารพความรู้สึกของฉันนายจะเลิกกับฉันตอนนี้เลยก็ได้นะ” ฉันบอกแอลฟ่าไปทันที แอลฟ่าก็พอจะรู้แหละว่าฉันเป็นคนที่ถ้าลองได้แข็งแล้วฉันไม่ยอมใครง่าย ๆ
“บอกว่าล้อเล่นไงครับ อย่าโกรธกันสิ” แอลฟ่าพูดเพราะขึ้นมาทันที ปกติไม่มีหรอกนะคะคำว่า ครับ น่ะ มีแต่สั้น ๆ ห้วน ๆ ตามสไตล์
“อย่าพูดแบบนี้อีกนะแอล เราคบกันก่อนรอให้พร้อมจริง ๆ ไม่ได้เหรอ” ฉันลดน้ำเสียงลงเพื่อให้คุยกันได้อย่างปกติ แอลฟ่าเลยจับมือฉันมากุมไว้พร้อมกับจ้องมองที่ตาฉันแล้วยิ้มให้บาง ๆ
“อื้ม ได้สิ ฉันจะรอวันที่เธอพร้อม”