เสียงตะโกนกรี๊ดกร๊าดดังอยู่ข้างล่างของเวที ผู้คนส่วนใหญ่ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เพราะเพนตี้คือสาวฮอตในรั้วมหาวิทยาลัย แต่ด้วยความที่พูดน้อยไม่ค่อยสุงสิงกับใคร จึงมีคนไม่ชอบเยอะ หลายคนจะมองว่าหยิ่งมาก แต่ความเป็นจริงแล้วเธอเป็นผู้หญิงที่ใจดีมาก แล้วก็มีแฟนคลับเยอะด้วย
"ขอเชิญนางสาวสงกรานต์จากปีที่แล้วมามอบสายสะพายให้กับนางสาวสงกรานต์คนปัจจุบันด้วยครับ"
จากนั้นก็เริ่มทำพิธีมอบสายสะพาย ถ่ายรูปกันเรียบร้อยก็พากันเดินลงจากเวที ไทเกอร์ยืนมองอยู่ข้างล่างจนหญิงสาวลงจากเวทีไปจนลับสายตา สักพักคอปเตอร์ก็เดินเข้ามาพร้อมกับช่อดอกไม้ในมือ
"ไอ้สัส คราวหลังจะให้ดอกไม้สาวมึงช่วยโทรสั่งล่วงหน้าด้วยนะ ลำบากเพื่อนจัด"
เขารีบรับช่อดอกไม้จากมือของเพื่อนมาก่อนจะตบไหล่เบา ๆ
"เอาน่าคอปเพื่อนรัก คืนนี้กูเลี้ยงเหล้าเอง"
"มึงพูดแล้วนะ"
คอปเตอร์ยิ้มมุมปากออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ ไทเกอร์พยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะรีบไล่เพื่อนให้ออกไปจากตรงนี้
"จะไปไหนก็ไปไป๊ กูจะเอาดอกไม้ไปให้ว่าที่เมียในอนาคต"
พูดจบเขาก็รีบเดินไปหลังเวทีไม่ได้สนใจบรรดาพวกเพื่อนอีก เดินอ้อมไปข้างหลังก็เจอเพนตี้ที่ตอนนี้เปลี่ยนชุดเสร็จเรียบร้อยแล้วกำลังยืนคุยกับรุ่นพี่อยู่
"เพนตี้คืนนี้เจอกันที่ซีซั่นผับนะ พวกรุ่นพี่เขาจะฉลองตำแหน่งนางสาวสงกรานต์ปีนี้ของเรา เป็นหน้าเป็นตามากไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังเลย"
หึ... ไปเที่ยวผับกันอย่างนั้นเหรอ แถมร้านนั้นเป็นร้านประจำของเขาด้วย สงสัยคืนนี้จะต้องตามไปเฝ้าว่าที่เมียในอนาคตซะแล้ว และเมื่อทั้งสองคนคุยกันเสร็จหญิงสาวก็เดินตรงมาทางเขาพอดี ไทเกอร์เห็นแบบนั้นก็รีบวิ่งเข้าไปหาก่อนจะยืนยิ้มแป้นอยู่ตรงหน้าเธอ
"ดอกไม้ครับมาแสดงความยินดี"
เธอยื่นมือไปรับช่อดอกไม้มาถือไว้ในอ้อมกอด จ้องมองไปยังใบหน้าของชายหนุ่มก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงเรียบ
"แค่นี้ใช่ไหม"
"เชอะ! งอนแล้วนะ นี่เกอร์ก็เป็นคนดีมาหลายเดือนแล้วเมื่อไหร่เพนตี้จะใจอ่อนสักที รู้ไหมว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่ใจร้ายที่สุดในโลกเลย"
เขามองหญิงสาวด้วยสายตาตัดพ้อ รู้สึกน้อยอกน้อยใจเป็นอย่างมากพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ได้หัวใจของเธอ แต่ดูเหมือนว่าจะยากเย็นเสียเหลือเกิน
"ขอบคุณสำหรับดอกไม้"
หญิงสาวเอ่ยออกไปเพียงแค่นั้นก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้นทันที ไทเกอร์มองตามไปก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างเซ็ง ๆ นี่เขาจะต้องรักคนเย็นชาแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน หรือว่าเป็นผลกรรมที่เขาเคยเจ้าชู้ใส่คนอื่น ถึงได้ต้องมาแอบรักกับคนแบบนี้
"เฮ้อ!"
และในช่วงค่ำเพนตี้ก็มาถึงในเวลาที่รุ่นพี่นัดเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งตอนนี้เป็นเวลาประมาณ 20:00 น เธอมากับหม้อแกง สาวแว่นแห่งคณะมนุษยศาสตร์สาขาวิชาภาษาญี่ปุ่น ซึ่งหม้อแกงเป็นคนมารับเธอเอง และรุ่นพี่นัดไว้ที่โซน VIP ชั้น 2
"แกว่าฉันแต่งตัวแปลก ๆ ไหมอ่ะ"
เพนตี้เหลือบสายตามองหม้อแกงก่อนจะหัวเราะออกมาขำ ๆ เอาจริงยายแว่นคนนี้สวยมากเลยนะหุ่นดีผิวขาวผ่อง แต่ติดตรงที่ชอบแต่งตัวเฉิ่มไปหน่อย ทั้งที่พื้นฐานเป็นคนสวยมากคนหนึ่งเลยแหละ
"สวยออก ชุดนี้แหละ"
เธอกุมมือเพื่อนสนิทจากนั้นก็เดินขึ้นไปยังชั้นบน หลายคนชอบบอกว่าตัวเธอไม่ค่อยพูดแล้วก็มีนิสัยที่หยิ่ง ซึ่งแค่ไม่สนิทเพียงเท่านั้น แต่เวลาอยู่กับหม้อแกงเธอจะเป็นคนที่พูดไม่หยุด ไม่เชื่อก็ถามเพื่อนรักดูได้เลย
"ทำไมต้องนัดมาในสถานที่แบบนี้ด้วยนะ"
หม้อแกงทำน่าเบื่อโลกรู้สึกเอือมระอาอย่างถึงที่สุด เพนตี้ก็ทำได้เพียงแค่หัวเราะในลำคอเท่านั้น แต่ทำยังไงได้ล่ะก็รุ่นพี่สั่งนี่นา
"น้องหม้อแกง น้องเพนตี้ มานั่งตรงนี้ค่ะลูกสาว"
พี่มิกกี้สาวประเภทสองสุดสวยแห่งคณะมนุษยศาสตร์ รุ่นพี่ที่ใจดี รุ่นน้องรักและเคารพที่สุด
"มากันนานหรือยังคะเนี่ย"
เพนตี้หรือถามออกไปพร้อมกับส่งรอยยิ้มไปให้ พวกรุ่นพี่ยักไหล่ทำหน้าชิว ๆ ก่อนรุ่นพี่อีกคนจะตอบกลับมา
"มาถึงก่อนหน้าเราสักแป๊บแหละ ว่าแต่มากันสองคนเหรอ"
หญิงสาวพยักหน้าเล็กน้อยไม่ได้ตอบอะไรอีก ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเธอในตอนนี้คือพี่แชมป์ เขาตามจีบเธอมาสักพักใหญ่ นิสัยดูไม่ค่อยน่าไว้วางใจ พี่ก็ชอบมาอยู่ใกล้จนเกินไป อาจจะเพราะว่าเธอไม่ได้ชอบเขาละมั้ง เจอหน้ากันทีไรทำท่าทางเหมือนอยากจะกลืนกินเธอรู้สึกขนลุกไปหมด
"แก ๆ ปอร์เช่มาด้วยอะ กรี๊ด"
หม้อแกงทำหน้าดี้ด้าใช้ข้อศอกสะกิดเพื่อนรักด้วยความตื่นเต้น เพนตี้หันไปมองตามสายตาก่อนจะบังเอิญสบตาเข้ากับไทเกอร์ ผู้ชายอีกคนที่ตามจีบเธอเหมือนกัน แต่รายนี้ค่อนข้างมีประวัติเสียไม่น้อยเลย เจ้าชู้มากมั่วผู้หญิงไม่เลือก ถ้าเธอคบกับผู้ชายคนนี้น่าจะถูกบรรดาแฟนเก่าตามตบแน่ บอกตามตรงว่าไม่อยากเอาตัวเองไปยุ่งด้วยเลย แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้เขาก็ไม่ได้ยอมแพ้นะ ยังยืนยันว่าจะจีบแต่เธอก็ให้ข้อแม้ไปว่าถ้าเลิกเจ้าชู้ไม่ยุ่งกับผู้หญิงคนอื่นในระหว่างที่จีบ อาจจะพิจารณาและดูเหมือนว่าเขาจะทำได้ด้วยนะ ถือว่ามีความพยายามไม่น้อยเลย
"อือ ตามมองมันต้อย ๆ ตั้งแต่เรียนปีหนึ่ง ไม่เหนื่อยบ้างหรือไง"
"แฮะ!"
หม้อแกงยิ้มแห้งออกมาก่อนจะรีบยกแก้วน้ำโค้กขึ้นดื่มแก้เขิน ก็คนมันรักจะให้ทำยังไงได้ล่ะ เพนตี้เห็นแบบนั้นก็ส่ายหน้าออกมาเล็กน้อย ก่อนจะกินน้ำส้มขึ้นมาดื่ม เธอกับเพื่อนไม่ชอบดื่มแอลกอฮอล์สักเท่าไหร่ แล้วก็ไม่ชอบเที่ยวสถานบันเทิงด้วย
"หม้อแกงเดี๋ยวฉันมานะไปห้องน้ำแป๊บหนึ่ง"
"ให้ฉันไปด้วยไหม"
หม้อแกงเตรียมตัวจะลุกเดินตามเพื่อนเพื่อไปส่ง แต่ทว่าหญิงสาวกับโบกมือส่ายไปมาเป็นเชิงว่าไม่เป็นอะไร เพนตี้ลุกขึ้นเดินออกมายังห้องน้ำ จัดการธุระส่วนตัวให้เรียบร้อยกำลังเดินออกมาจากข้างใน บังเอิญเจอกับพี่แชมป์ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ไม่ไกลจากห้องน้ำมากนัก
"น้องเพนตี้สวยจังเลยครับวันนี้"
"ขอบคุณค่ะที่ชม เอ่อ เราไปที่โต๊ะกันดีกว่าไหมคะ"
เธอยิ้มให้ออกมาก่อนจะพยายามชวนเขากลับไปที่โต๊ะ เพราะสถานที่ตรงนี้ค่อนข้างหลบมุม เธอกลัวว่าผู้ชายตรงหน้าจะคิดไม่ดีเดี๋ยวจะแย่เอา
"ดื่มกับพี่หน่อยสิ นี่ครับน้ำส้มที่น้องชอบ"
เธอเหลือบสายตามองแก้วน้ำส้มด้วยความหวาดระแวง แอบใส่ยาเข้าไปหรือเปล่ามันก็ไม่รู้ น่ากลัวชะมัดเลย
"กลัวพี่ใส่ยาเข้าไปหรือไง"
และเมื่อเขาพูดแบบนั้นเธอก็รีบปฏิเสธเสียงแข็ง
"ปะ...เปล่าค่ะ เพนไม่ได้คิดแบบนั้นเลย แต่ว่าเมื่อกี้ดื่มมาเยอะแล้วน่ะค่ะ แฮะ!"
พยายามปฏิเสธการดื่มน้ำของเขาด้วยความนุ่มนวล แต่เขาว่าใบหน้าของพี่แชมป์ดูเหมือนเศร้าจนเธอเริ่มทำสีหน้าไม่ถูก
"พี่คงไม่น่าไว้วางใจสำหรับเพนสินะ ก็ช่างมันเถอะพี่ขอโทษนะที่รบกวนเรา"
พูดออกมาแบบนั้นเล่นเอาเธอรู้สึกผิดทันที พี่แชมป์เป็นรุ่นพี่ในสาขาด้วย ถ้าเธอปฏิเสธแบบนี้มันจะดูเป็นการเสียมารยาทละมั้ง
"ก็ได้ค่ะดื่มก็ได้ แต่ว่าขอดื่มแก้วของพี่นะคะ เอ่อ อยากลองชิมดูน่ะค่ะ"
เขายื่นแก้วของตัวเองมาให้เธอตรงหน้าก่อนจะยิ้มออกมาด้วยความดีใจ
"คอกเทลเหรอ เอาสิ"
ฉันพยักหน้าเล็กน้อยกว่าจะยกขึ้นมาดื่มรวดเดียวจนหมด ทว่ากลิ่นแอลกอฮอล์มันคละคลุ้ง เล่นเอาเธอสำลักออกมาทันที
"แคก ๆ"
"คออ่อนจริง ๆ เลยนะเราแล้วยังคิดจะดื่มอีก"
เขายิ้มออกมาขำ ๆ ก่อนจะจ้องมองไปยังใบหน้าของ เพนตี้ที่ตอนนี้กำลังสะบัดหน้าไล่ความมึนออกไป ทำไมรสชาติแอลกอฮอล์มันแรงแบบนี้ก็ไม่รู้
"งั้นเพนขอตัวก่อนนะคะเพื่อนรออยู่"
เธอส่งยิ้มไปให้ก่อนจะรีบเดินออกไปจากตรงนั้นทันที คงไม่ได้รู้สึกไปเองใช่ไหมว่าตอนนี้ผู้ชายที่อยู่ข้างหลังจ้องมองมาทางเธออยากแปลกประหลาด แถมยังหัวร้อนในลำคอเหมือนมีแผนการร้าย แต่ว่าคงไม่มีอะไรหรอกมั้ง เธอค่อย ๆ เดินไปตามทางก่อนจะรู้สึกว่าร่างกายมันร้อนรุ่มอย่างประหลาด
"อ้าส์~ ทำไมรู้สึกร้อนจัง ถอดเสื้อกันหนาวดีกว่า"