“พี่คิดอย่างนี้จริงเหรอ” น้องสาวถามอย่างไม่แน่ใจ
“ก็ใช่น่ะสิ แกมั่นใจในตัวเองได้แล้วนะ ทั้งสวยทั้งอึ๋มซะขนาดนี้ ถ้าคุณเกมส์ไม่สนใจ พี่ก็ต้องคิดว่า เขาคงชอบไม้ป่าเดียวกัน” โมนิก้าให้กำลังใจน้องสาว “อีกอย่างนะ มันเป็นโอกาสเดียวที่แกจะได้ใกล้ชิดกับคุณเกมส์ ผู้ชายที่แกหลงรักมานาน แกก็ต้องรีบคว้าโอกาสนี้ไว้ ทำให้คุณเกมส์หลงรักแกให้ได้”
เอมิกามองหน้าพี่สาว การแอบรักใครสักคนมาร่วมเจ็ดแปดปีไม่ใช่เรื่องยากที่จะเก็บความรู้สึกนี้ไว้กับตัวเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้ แต่เรื่องที่ยากกว่าคือ ให้คนนั้นมีความรักตอบกลับมา ยิ่งเป็นคนที่แสดงความรังเกียจ ไม่ชอบหน้าตนยิ่งยากขึ้นหลายเท่า เอมิกาได้แต่คิดว่า คงไม่มีวันนั้น วันที่เขมนัทต์จะรักตน
“โจทย์ยากนะเนี่ย” พูดไปถอนหายใจไป
“ก็ดีกว่าไม่มีโจทย์ให้ทำไม่ใช่เหรอ เพราะนั่นหมายถึง แกไม่มีโอกาสได้เข้าใกล้คุณเกมส์ แกต้องทำให้ได้นะ แต่ถ้าพยายามแล้วและไม่สำเร็จ แกก็ต้องทำใจ ตัดใจจากคุณเกมส์ เริ่มต้นกับใครสักคนที่รักแกจริง และยอมรับเรื่องที่ผ่านมาของแกได้”
เป็นที่รู้กันว่า กฎระเบียบของคุณหญิงสร้อยระย้าคือ ต้องการทายาทที่มาจากวิธีธรรมชาติ ไม่ใช่เพราะเทคโนโลยีล้ำสมัย ผู้หญิงที่นางหามาให้บุตรชายจำกัดแค่สามเดือน หากพ้นกำหนดยังไม่มีการตั้งครรภ์ ถือว่าหมดหน้าที่ ผู้หญิงคนนั้นจะได้เงินจำนวนหนึ่งล้านบาทเป็นค่าจ้าง ตรงกันข้ามหากตั้งครรภ์จะได้เงินห้าล้านบาท และได้สิทธิ์อีกหลายอย่างตามสัญญา เอมิกาคือผู้หญิงคนที่เจ็ดที่สร้อยระย้าตั้งใจให้เป็นแม่ของหลาน แล้วเป็นคนสุดท้ายที่จะหาผู้หญิงให้เขมนัทต์
“จะว่าไป คุณป้าน่าจะเลือกพี่มากกว่าเอมนะ พี่สวยกว่า โปรไฟล์ดีกว่าเอมทุกอย่าง ทำไมเลือกเอมก็ไม่รู้”
ข้อนี้เอมิกาสงสัยไม่น้อย แต่สำหรับโมนิก้า เธอมีคำตอบทว่าบอกน้องสาวไม่ได้
“เพราะคุณป้าเลือกเอมไงล่ะ ท่านย่อมมีเหตุผลของท่านจริงไหม” โมนิก้าตอบน้องสาว “คิดในแง่ดี เรากำลังตอบแทนบุญคุณคุณป้า ที่ท่านช่วยเหลือเราให้ลืมตาอ้าปากได้ ไม่งั้นครอบครัวเราคงไม่มีวันนี้”
“ก็เพราะนึกถึงบุญคุณของคุณป้าไงคะ เอมถึงยอม”
“ไม่ใช่เพราะอยากเป็นเมียคุณเกมส์ด้วยเหรอ” โมนิก้าย้อนอยากรู้ทัน
“ชิ...รู้ดี” เอมิกาทำหน้างอนใส่พี่สาว
“ฉันรู้หมดแหละ ก็ฉันเป็นพี่แกนี่นา” โมนิก้ายื่นมือไปยีหัวน้องสาวเบาๆ “มา...ฉันช่วยเก็บกระเป๋า แกจะได้พักผ่อน พรุ่งนี้ต้องไปสนามบินแต่เช้า”
สองพี่น้องแม้ว่าจะเป็นลูกคนละพ่อ ทว่าความสนิทสนมนั้นมากกว่าพี่น้องแท้ๆ คลานตามกันมาเสียอีก ต่างฝ่ายต่างดูแลซึ่งกันและกันเป็นอย่างดี มีความห่วงหาอาทรกันเสมอ และการที่โมนิก้าสนับสนุนให้เอมิกาไปเป็นเมียบำเรอเขมนัทต์ ไม่ใช่เพราะต้องการให้น้องสาวอยู่ชิดใกล้ชายที่แอบรักมานานหลายปี แต่ยังมีอีกเหตุผลหนึ่งด้วย
“มึงกำลังจะมีเมียใหม่ ทำไมทำหน้าเซ็งกะตายแบบนี้วะ”
เพชรภูมิหรือเพชร เพื่อนสนิทเขมนัทต์อดถามไม่ได้ เมื่อเห็นหน้าเพื่อนรัก
“มึงใช้คำผิดแล้ว ผู้หญิงที่กูไม่ได้เลือกเอง ไม่ใช่เมียกูโว้ย” พูดจบเขมนัทต์ก็กระดกเหล้าดื่มทีเดียวหมดแก้ว
“กูว่านะ มึงก็ทำให้คุณแม่สมหวังก็สิ้นเรื่อง ท่านจะได้ไม่กวนใจมึงอีก” ตรีชาตินิกเนมว่าธาร์มเพื่อนสนิทอีกคนที่มาร่วมกินเหล้าด้วยพูดขึ้น
“ไม่อะ แม่ของลูกกูคือผู้หญิงที่กูเลือกเท่านั้น ไม่ใช่ใครก็ไม่รู้ที่กูไม่เคยรู้จักมาก่อน” เขมนัทต์ตอบเพื่อน “คุณแม่สัญญากับกูว่า ถ้าคนนี้ไม่ท้องก็จะไม่ยุ่งกับกูอีก กูก็จะทำเหมือนเดิม กูจะได้พ้นจากเรื่องนี้สักที”
เหมือนเดิม...ที่ว่านี้คือ เขมนัทต์ไม่เคยมีความสัมพันธ์ทางกายกับผู้หญิงที่คุณหญิงสร้อยระย้าหามาให้เลยสักครั้ง ทำให้เธอทั้งหลายไม่ตั้งครรภ์ ซึ่งเรื่องนี้สร้อยระย้าไม่รู้ เนื่องจากเขาให้เธอคนละหนึ่งล้านบาทเป็นการปิดปาก เมื่อครบกำหนดสามเดือน ผู้หญิงคนนั้นก็ย้ายออกไปจากบ้านเขา รับเงินจากมารดาอีกทอดหนึ่ง เท่ากับว่า ผู้หญิงที่ถูกจ้างมาได้เงินสองต่อ มีใครบ้างจะปฏิเสธ
“แล้วผู้หญิงคนนี้เป็นใครวะ” เพชรภูมิถาม
“เอมไง” เขมนัทต์ตอบ
“เอมไหนวะ”
คนกำลังมีเมียใหม่ตอบมาแบบนี้ นั่นหมายความว่า คนร่วมสนทนาด้วยต้องรู้จัก ตรีชาติจึงรีบถาม
“มึงสองคนจำน้ารินที่เคยมาอยู่บ้านกูได้ไหม ที่มีลูกสาวสองคนน่ะ คนโตชื่อโมนา คนเล็กชื่อเอม” เขมนัทต์เท้าความให้เพื่อนคิด “คนที่จะมาเป็นแม่พันธ์ให้กูคือลูกสาวคนเล็กของน้ารินไง ชื่อเอม”
“เด็กกะโปโลคนนั้นเนี่ยนะ” เพชรภูมิพูดขึ้นเมื่อนึกขึ้นได้
“เออ คนนั้นแหละ กูถึงมานั่งดื่มแก้เซ็งนี่ไง ถ้าเป็นโมนา ไม่แน่นะว่ากูอาจจะนอนกับเธอ แล้วมีลูกด้วยกันจริงๆ ไม่ได้ตบตาคุณแม่เหมือนที่ผ่านมา” หากเปลี่ยนคนได้ก็คงดี “แต่พอเป็นเอม กูจะมีอารมณ์ได้ไง แค่นึกถึงภาพตอนเด็ก อารมณ์กูก็วืด”
“ก็ไม่แน่นะโว้ย เอมตอนนี้อาจไม่ใช่เอมคนเดิม ผ่านมาตั้งหลายปีแถมไปอยู่เมืองนอกด้วย อาจสวยปิ้งจนมึงอยากกระโจนใส่ก็ได้” ตรีชาติจำได้แล้วว่า เอมคนนี้คือใคร
“กูคิดแบบไอ้ธาร์มนะ ผ่านมาตั้งหลายปี ไม่ได้เพิ่งผ่านมาแค่วันสองวัน มันก็ต้องมีอะไรเปลี่ยนบ้างแหละ อย่างน้อยๆ ก็โตเป็นสาวเต็มตัว ระวังจะกลืนน้ำลายตัวเองไม่ทันนะไอ้เกมส์”
เพชรภูมิกล่าวเสริม
“กูไม่คิดเหมือนมึงสองคนหรอก หน้าตาและผิวพรรณแบบนั้นจะดีได้ก็คือศัลยกรรม”
ภาพวันวานในความทรงจำของเขมนัทต์ ย้ำชัดว่า เอมิกาไม่มีทางเปลี่ยนไปจากเดิมแน่นอน
“บูลลี่นะมึง”
“กูไม่ได้บูลลี่ กูพูดตามที่คิด” เขมนัทต์ตอบกลับทันที
“มาพนันกันไหม” เขมนัทต์กับเพชรภูมิหันไปทางต้นเสียง
“พนันเรื่อง” เพชรภูมิสนใจ
“พนันว่า ถ้าเอมเปลี่ยนไป ไม่ใช่เอมเด็กกะโปโลคนเดิม ไอ้เกมส์ต้องโอนเงินให้มูลนิธิอะไรก็ได้หนึ่งล้านบาท แต่ถ้าเอมยังเป็นภาพเดิม กูกับไอ้เพชรก็จะเป็นฝ่ายบริจาคคนละล้าน ตกลงไหม” เงินล้านไม่ใช่ปัญหาใหญ่ของสามหนุ่ม ออกน้อยนิดด้วยซ้ำไป