10

1300 คำ
พนายิ้มกริ่ม “ฉันอยากบอกเอง บังเอิญพ่อฉัน เขาเป็นพวกขนดก ตรงไหนที่ขนขึ้นได้ดกหนาทุกที่เลย มีปัญหาอะไรหรือเปล่า” เขาหรี่ตามองเขมขิมอย่างหาเรื่องจนเธอหน้าแดงไม่รู้ว่าโกรธหรืออาย หญิงสาวพยายามรวบรวมสติเอาน้ำเย็นเข้าลูบ เถียงกับคนบ้า ไม่มีวันชนะ ใครจะมีปัญหากับคนบ้า อีกอย่างตอนนี้เธอต้องรีบไปรายงานตัวที่สำนักงานแล้ว เธอเสียเวลากับหมีบ้ามานานเกินไปแล้ว “เอาละ ฉันขอโทษที่เผลอไปวิจารณ์ใบหน้าของคุณ ขนบนตัวคุณ แต่ตอนนี้ ฉันอยากไปถึงไร่พนาไพรก่อนค่ำ ช่วยรีบๆ กระดกยอดข้าวในมือคุณให้หมดแก้วซะ แล้วไปส่งฉัน นี่ไม่ใช่ประโยคขอร้อง แต่เป็นประโยคคำสั่ง” “สั่งใคร” เขาถามกลับเสียงห้วน เขมขิมข่มความโมโหไว้เต็มเปี่ยม ถ้าไม่ติดว่าต้องพึ่งพา เธอด่ากลับไปแล้ว“คุณไง คนขับรถ” ปากแบบนี้อาจได้ผัวเป็นคนขับรถคืนนี้ก็ได้ พนาไม่ได้พูด แต่แววตาอันคมกริบพันธนาการเธอไว้อย่างเหนียวแน่น เขมขิมไม่ใช่คนไร้เดียงสา เห็นแววตามองโลมเลียของคนตรงหน้าก็รู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งตัว สัญชาติญาณระวังภัยเริ่มทำงาน “มองหน้าฉันแบบนี้ มีอะไร” “กำลังคิดว่าเธอคงมีแฟนแล้วก็ถูกแฟนทิ้งมาแน่” เขมขิมอ้าปากค้าง ตกใจที่เขาเดาถูกแต่เธอไม่ยอมรับให้เสียหน้าหรอก ผู้ชายที่เห็นแก่ตัวอย่างอัตมันไม่มีค่าให้เธอเสียใจ “ตกใจเลยเหรอ รู้ไหมทำไมฉันเดาถูก เพราะเธอนี่ท่าทางจะเป็นพวกชอบสั่งนะ แต่อย่ามาสั่งคนอย่างฉัน เข้าใจไหม” น้ำเสียงกร้าวขึ้นอย่างชัดเจน เขาไม่ชอบให้ใครมาสั่ง มาบงการ โดยเฉพาะผู้หญิง “คุณเดาผิดต่างหากล่ะ ผู้ชายส่วนมากนี่ชอบมโนคิดว่าตัวเองเป็นคนสำคัญเนอะ แต่นั่นมันเรื่องส่วนตัวของฉัน ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาอธิบายให้คนอย่างคุณเข้าใจ เพราะสิ่งที่สำคัญคือทำไมฉันจะสั่งคุณไม่ได้ คุณถูกสั่งให้มาบริการฉัน แต่สิ่งที่คุณทำมันทำให้ฉันลำบากใจ ฉันขอสั่งอีกครั้ง กระดกที่เหลือให้หมด แล้วรีบไปขับรถ” คำพูดยาวเหยียดจากริมฝีปากได้รูปนั้นทำให้พ่อเลี้ยงพนายิ่งนึกสนุก เธอมีแฟนมาแล้วไม่ผิดแน่ แต่คงเพิ่งเลิกกันมาด้วยสาเหตุอะไรบางอย่าง ซึ่งเขาไม่สนใจหรอก แต่ว่าตอนนี้คนอย่างเขาถูกพนักงานใหม่ในตำแหน่งจัดซื้อออกคำสั่ง เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ร่างสูงกำยำยืนขึ้นจนเต็มความสูงแล้วกระดกเหล้าทีเดียวหมดแก้ว มืออีกข้างวางลงบนไหล่ลาดจนร่างเล็กสะดุ้ง แต่ถูกพลังแห่งบุรุษเพศอันกล้าแข็งของเขากักไว้ในอ้อมแขนไม่ให้หนีไปไหนได้ “คนอย่างนายพนามีผู้หญิงสองคนที่จะบงการ และออกคำสั่งได้ คนแรกแม่บังเกิดเกล้า คนที่สองเมียบนเตียง เธอเป็นผู้หญิงสองประเภทนี้ของฉันหรือเปล่า” “ว้าย! คนบ้า ฉันไม่คิดจะเป็นเมียคนที่สี่ของคนขับรถอย่างคุณหรอกนะ อย่ามายั่วทำให้ฉันโกรธมากกว่านี้ ไม่งั้นไปถึงไร่ นายดวงซวยแน่ ฉันจะฟ้อง ฟ้อง...” แม่คนขี้ฟ้อง เดี๋ยวจะร้องไม่ออก เขาจ้องเธอเขม็ง ยิ่งไออุ่นจากลมหายใจของเขาปะทะผิวแก้มแล้วก็ยิ่งทำให้ร่างเล็กร้อนผ่าวไปทั้งตัว กับอัตมันก็ยังไม่เคยใกล้ชิดกันขนาดนี้ “ฟ้องว่าถูกทำแบบนี้ด้วยใช่ไหม” คนตรงหน้าไม่ได้ทำท่าทางชวนถอดเสื้อผ้าแล้วฟัดให้ฟ้าเหลือง แต่เขาไม่ชอบให้ผู้หญิงมาบงการ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยหนวดเครารกครึ้มแนบแก้มหอมละเอียดอ่อนราวกับผิวเด็ก สูดหายใจเข้าปอดฟอดใหญ่ เขมขิมเบิกตาโพลง ส่งเสียงร้องลั่นด้วยความโกรธ ร่างเล็กเดือดดาลแทบคลั่ง “คุณทำแบบนี้ได้ไง หอมแก้มฉันทำไม” พนาอมยิ้ม เลิกคิ้วสูงท่าทางไม่รู้สำนึกสักนิด “นี่แค่ตักเตือน ถ้าเธอไม่เงียบปาก และนั่งดื่มเป็นเพื่อนฉัน ฉันจะทำให้เธอรู้ว่าเมื่อตะกี้มันแค่เรื่องขี้ผง” แววตาคมกริบสาดประกายดูเหี้ยมๆ ทำให้เขมขิมรู้สึกใจสั่น ทำไมสาวน้อยผู้โชคร้ายอย่างเธอซวยซับซ้อนขนาดนี้ แฟนทิ้ง ถังแตก แล้วยังเจอคนขับรถบ้ากาม ถ้าเธอวิ่งหนีออกไปโบกแท็กซี่ได้เหมือนในกรุงเทพฯ เธอวิ่งไปแล้ว แต่เส้นทางที่ผ่านมาเมื่อครู่มีแต่ภูเขาสลับกับหุบเหว รถที่ผ่านก็มีแต่รถส่วนตัว แบตเตอรี่มือถือก็ดันหมดเสียอีก “ชีวิตเฮงซวย” ร่างเล็กกระแทกก้นงอนงามลงบนเก้าอี้สูงหน้าบาร์ แล้วมองไปทางอื่น “ขอบคุณที่นั่งดื่มเป็นเพื่อน อีกแก้วเดียว เดี๋ยวไปส่ง” พ่อเลี้ยงพนาลอบมองรูปร่างน่ากินของหญิงสาวที่หันหน้ามองไปทางอื่น อกเป็นอก เอวเป็นเอว แถมใบหน้ายังสวยจัดแม้จะวางท่ารังเกียจเขาสุดฤทธิ์ เห็นแล้วคึกเป็นบ้า สะดีดสะดิ้ง ไปเถอะ เขมขิมไม่รู้ตัวว่าถูกลอบมองอยู่ เธอนั่งอย่างไม่สงบ ร้อนรนอยู่พักใหญ่ เริ่มกังวลไปต่างๆ นานา ก่อนมาจากกรุงเทพฯ เพื่อนสนิทของเธอชวนไปดูดวง เขาบอกว่าหลังจากเดือนนี้ไปชีวิตเธอจะมีแต่รุ่ง พุ่งไม่หยุด ฉุดไม่อยู่ หลังจากเจอเรื่องหนักๆ มาหลายปี รุ่งอะไรกัน แค่จะเริ่มต้นไปทำงานใหม่ก็ดันมาเจอคนบ้าเสียก่อนแล้วอนาคตที่เหลือจะเป็นอย่างไร เขมขิมถอนใจ แม้ว่าจะไม่หันไปมองเขา แต่การที่นั่งอยู่ไม่ห่างกันทำให้เห็นว่าคนร่างสูงข้างๆ มีเค้าความเป็นต่างชาติอยู่ในโครงหน้า ผิวคล้ำน่าจะมาจากการถูกแดดมากกว่า หากโกนหนวด โกนเครา ก็น่าจะหล่อไม่เบา หรือบางทีเธอคงเข้าใจผิดไปแล้ว เขาอาจไม่ใช่คนขับรถอย่างที่เข้าใจ “จะนั่งนิ่งเป็นหุ่นอีกนานไหม กินสิ” แก้วเหล้าถูกเลื่อนมาวางตรงหน้าแต่ถูกเขมขิมเบือนหน้าหนีอย่างรังเกียจ “กินเถอะ ฉันเลี้ยงเธอเอง” สีหน้าอึดอัดคับแค้นของคนตัวเล็กจ้องหน้าคนพูดว่าจะเลี้ยงเขม็ง “ด้วยเงินของฉันนี่นะ” “เออ เดี๋ยวคืนให้ ทวงอยู่ได้” เขาครางฮึมอย่างรำคาญ “ฉันจะไปไร่ส้มนี่ก็ค่ำแล้ว ไม่ใช่มานั่งกินเหล้ากับไอ้ขี้เมาที่ไหนก็ไม่รู้ ไม่รู้ป่านนี้ผู้จัดการแผนกจัดซื้อเขาจะคิดว่าฉันไปเถลไถลที่ไหนหรือเปล่า” “ก่อนที่จะเป็นห่วงเรื่องอื่น ฉันว่านะ ฝ่ายจัดซื้อคงรับพนักงานไม่ได้มาตรฐานมา ย้ำคิด ย้ำทำ พูดตั้งหลายครั้งก็ย้ำอยู่นั่น รู้แล้วว่าอยากไปไร่ แต่เราจะไม่ไปไหนทั้งนั้น จนกว่าฉันจะมีอารมณ์ขับรถ” เขมขิมอยากจะกรีดร้อง ตะเบ็งถามเขากลับไป “ขับรถต้องมีอารมณ์ด้วยเหรอ” เขาตอบสั้นๆ “อือ” มือสากจับหมับที่ข้าศอกเรียวแล้วออกคำสั่ง “ไม่กินเหล้า ไม่ง้อก็ได้ งั้นนั่งเฝ้าพี่ยันเช้าละกันน้องสาว” น้ำเสียงเขามีความร้ายกาจปนความยียวนอยู่ในตัว เขมขิมอยากจะตะกุยหน้าหมีให้พังแต่ก็ยับยั้งไว้ได้ เธอถอนใจอย่างสุดทน เวรกรรมที่แท้ทรู “เอ้า ชนแก้ว” หมีขี้เมาชวนอย่างอารมณ์ดี
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม