‘วันนี้ทำไมออกมาเล่นช้าจังเลย ...เรารอเธอตั้งนาน’ เด็กชายตัวโตบอกกับเด็กสาวที่เพิ่งเดินเข้ามาในสวนสาธารณะของหมู่บ้านด้วยใบหน้าเศร้าซึม แต่เขาไม่ได้สังเกตเห็นชัดมากนักเพราะตอนนี้ที่เขาสนใจคือทำไมเธอถึงมาช้ากว่าที่นัดไว้ตั้งเกือบสองชั่วโมง
...เขามานั่งรอเธอก่อนเวลานัดเลยทำให้ดูหงุดหงิดมากเป็นพิเศษ
‘คือคุณแม่ไม่ให้ออกมา ...แล้วทำไมเธอถึงไม่ไปเล่นกับเพื่อนๆล่ะ’
คำถามนั้นของเธอทำให้เขานิ่งไป ไม่ใช่ว่าไปเล่นไม่ได้แต่ไม่อยากเล่นมากกว่า เขาเฝ้ารอที่จะเล่นกับเธอแค่คนเดียวแล้วจะให้ไปเล่นกับคนอื่นเนี่ยนะ
เหอะๆ ไม่ล่ะ
-_-
‘เราอยากเล่นกับเธอแค่คนเดียว ...ไปเล่นตรงนู้นกัน’ แล้วเขาก็จูงมือเธอแยกไปเล่นให้ห่างจากเพื่อนคนอื่นๆ
เด็กสาวได้แต่เขี่ยทรายไปมาเพราะตอนนี้เธอมีปัญหาที่หนักใจบางอย่าง
...ปัญหาที่เด็กห้าขวบไม่เข้าใจ
‘เป็นอะไร ทำไมวันนี้ไม่ยิ้มเลย? เล่นกับเราไม่สนุกเหรอ’ จะว่าสนุกมั้ย
มันก็สนุกนะแต่ตอนนี้เธอแค่ไม่รู้สึกอยากจะสนุกอะไรทั้งนั้น
‘สนุกสิ แต่เรารู้สึกเศร้าๆยังไงก็ไม่รู้
ตอนคุณแม่ให้ออกมาคุณแม่ร้องไห้แล้วก็เสียงดังใส่คุณพ่อ’
ยิ่งคิดถึงภาพนั้นเธอก็ยิ่งเศร้าใจ แต่เด็กสาวตัวน้อยเข้มแข็งพอที่จะไม่ร้องไห้ออกมา
‘เธอก็เลยรู้สึกเศร้าเพราะท่านเสียงดังใส่กันงั้นเหรอ’
เธอพยักหน้าแล้วถอนหายใจ ส่วนเขาก็ได้แต่จ้องมองใบหน้าสวยที่ไม่มีรอยยิ้มอย่างเสียดายก่อนจะนึกอะไรดีๆขึ้นได้
พรึ่บ
‘เดี๋ยว จะไปไหนน่ะ’
เขาไม่ตอบแต่จูงมือเธอไปที่บ้านหลังใหญ่ตรงกลางหมู่บ้าน
ซึ่งเป็นบ้านของเขาเองที่ให้พ่อกับแม่มาซื้อให้เพื่อที่จะได้มาเล่นกับเธอทุกๆปิดเทอม
‘หลับตาก่อนสิ มีอะไรจะให้ดู’
แม้จะสงสัยแต่เธอก็ยอมทำตามที่เขาบอก เด็กชายเดินอ้อมไปปิดตาเธอจากด้านหลังก่อนจะค่อยๆพาเธอเดินไปที่หลังบ้านของเขา
...ที่ที่เขาคิดว่าเธอจะต้องชอบแน่ๆ
‘อ่ะ ลืมตาได้’
‘กรี๊ดดด น้องกระต่าย
น้องกระต่ายเต็มไปหมดเลย’ เป็นอย่างที่เขาคาดไว้เลย
เพราะเขาสังเกตมาตลอดว่าเธอน่าจะชอบกระต่ายแน่ๆ
ทั้งเสื้อผ้า ที่คาดผม
หรือถุงเท้า ก็ล้วนแต่มีรูปกระต่ายแปะไว้เสมอ
เขาเลยขอให้คุณพ่อบ้านช่วยเอามาเลี้ยงไว้ที่หลังบ้านเผื่อว่าวันนึงจะได้พาเธอมาเล่นที่บ้านของเขา
เธอจะได้เล่นกับเขาแค่คนเดียวเท่านั้น
ภาพของเด็กน้อยสองคนที่นั่งเล่นกระต่ายตัวอ้วนกลมอยู่ในสายตาของคุณพ่อบ้านตลอดเวลา
เขามองออกว่าคุณชายของเขาคิดอะไรอยู่เพราะนี่คือครั้งแรกที่เขามีท่าทีกระตือรือร้นแบบนี้
มีอย่างที่ไหนเด็กอายุแปดขวบขอให้พ่อแม่ตัวเองซื้อบ้านราคาหลักสิบล้านเพื่อแค่ใช้มาพักผ่อนตอนช่วงปิดเทอมเท่านั้น
แถมพอคุณท่านไม่ซื้อให้ก็ประชดไม่กินข้าวจนตัวเองเข้าโรงพยาบาล
จนในที่สุดก็ได้มาอยู่ที่นี่อย่างสมใจจนได้
‘อย่าบีบที่หูน้องสิ ต้องค่อยๆลูบน้องแบบนี้’
เธอว่าเขาแบบตำหนิเพราะเด็กชายจับหูของกระต่ายดึงขึ้นตามที่เห็นในการ์ตูนที่ทำบ่อยๆ
‘แล้วดึงไม่ได้เหรอ ในการ์ตูนก็เห็นออกจะบ่อย’
เฮส่ายหน้าแล้วอธิบายให้เขาฟังว่าทำไมถึงทำไม่ได้
ก็เพราะเธอน่ะเป็นแฟนกระต่ายพันธุ์แท้เลย
‘เราเคยดูในทีวีว่าห้ามดึงน้องแบบนั้นน้องจะเจ็บที่หู
อุ้มน้องบ่อยๆน้องก็จะซึม ต้องปล่อยให้น้องวิ่งเล่นไป’
เด็กชายไม่ได้ฟงัเนื้อหาที่เธออธิบายเลยด้วยซ้ำแค่ตั้งใจฟังเพราะเสียงหวานๆของเธอเท่านั้นแหละ
‘มันดูบอบบางเหมือนเธอเลย’
‘เราไม่ได้บอบบางซะหน่อย ...ออกจะแข็งแรงขนาดนี้’ แล้วเด็กทั้งสองก็ชวนกันไปนอนดูการ์ตูนข้างในบ้านอย่างสบายใจจนเวลาล่วงเลยไปเกือบค่ำ
‘คุณหนูครับ คุณแม่มาตามแล้วครับ’
เด็กสาวสะลึมสะลือในอ้อมแขนของผู้เป็นแม่ ตลอดทางได้ยินแต่เสียงสะอื้นเท่านั้นแต่ไม่ได้ลืมตาขึ้นมาดูเพราะตัวเองก็ง่วงและตื่นไม่เต็มตา
‘ฮึก ...ฟ้าใสลูก
หนูจะไปอยู่กับแม่มั้ย’ ให้ไปกับคุณแม่เหรอ? ไปเที่ยวใช่มั้ย นานแล้วที่แม่ไม่ได้พาเธอไปเที่ยว
เธอพยักหน้าทั้งๆที่ยังหลับตาอยู่แบบนั้น
‘งั้นพรุ่งนี้เช้าเราไปพร้อมกันนะคะ ลูกแม่’ อ้อมกอดอบอุ่นของแม่ทำให้เธอหลับสบาย
เสียงอื่นและอาการสั่นของแม่ก็ปลุกเธอให้ตื่นขึ้นมาไม่ได้
‘ฟ้าใสลูก ตื่นได้แล้วเราต้องไปกันแล้วนะคะ’
เธองัวเงียมองออกไปข้างนอกก็ยังเห็นว่าฟ้ายังเป็นสีดำอยู่แต่ก็ต้องยอมตื่นเพราะวันนี้สัญญากับคุณแม่ไว้ว่าจะไปเที่ยวด้วยกัน
...แต่เธอมีสัญญาว่าจะไปเล่นกับเด็กผู้ชายคนนั้นนี่นา
‘คุณแม่ขา เดี๋ยวน้องฟ้ามานะคะ’
เธอวิ่งตรงไปที่บ้านของเด็กผู้ชายคนนั้นเพื่อยื่นกระดาษที่เขียนด้วยลายมือยึกยือตามประสาเด็ก
‘คุณลุงขา ...คุณลุง’
นั่นคือเพื่อนเล่นของคุณชายเมื่อตอนเย็นนี่นาแล้วทำไมถึงมาแต่เช้าแบบนี้
เขาเดินเข้าไปหาเธอก่อนจะเปิดประตูรั้วที่กั้นไว้ออก
‘มีอะไรหรือเปล่าครับคุณหนู’ เหงื่อเม็ดเล็กเปรอะเปื้อนตามใบหน้าหวาน
น่าจะเหนื่อยจากการวิ่งมาสินะ
‘วันนี้น้องฟ้าจะไปเที่ยวกับคุณแม่ค่ะ เลยจะฝากกระดาษให้กับเขาค่ะ’ เธอยื่นเศษกระดาษแผ่นเล็กให้กับคุณพ่อบ้านก่อนจะไหว้สวยๆทีนึงแล้ววิ่งหายไป
เขาคลี่อ่านข้อความในกระดาษแล้วก็ต้องขมวดคิ้วอย่างงงๆกับข้อความข้างใน
-น้องฟ้าไปเที่ยวกับคุณแม่นะ คุณแม่จะพาไปลอนดอน
แล้วจะซื้อขนมมาฝากตอนเย็นๆนะ
ลอนดอน? ...เธอเข้าใจคำว่าลอนดอนมากแค่ไหนกันนะเด็กน้อย
‘คุณชายครับ ตื่นเถอะครับ’
ร่างเล็กตื่นขึ้นด้วยอารมณ์หงุดหงิดเพราะเขาไม่เคยโดนปลุกให้ตื่นก่อนเวลาแบบนี้เลยสักครั้ง
‘...ผมง่วง มีอะไร อื้อ’
ดูท่าแล้วจะตื่นยาก ถ้าอย่างนั้นลองใช้แผนนี้ดีกว่า
‘เด็กสาวคนนั้นกำลังจะเดินทางไปที่อื่นแล้วนะครับ’
เท่านั้นแหละ กระเด้งตัวขึ้นจากเตียงทันทีแถมยังตื่นเต็มสองตาด้วย
‘เดินทางไปที่ไหน! ...แล้วในมือนั่นอะไรเอามาให้ผมดู’
เขารับเศษกระดาษไปอ่านแล้วรีบวิ่งออกจากบ้านไปทันที
แต่มันก็เหมือนจะสายเกินไปเพราะทันทีที่วิ่งเลี้ยวเข้าซอยบ้าน
เด็กสาวก็ขึ้นไปนั่งบนรถเรียบร้อยแล้ว
‘เดี๋ยว! อย่าเพิ่งไป!
...เดี๋ยว!!’ แม้ว่าเขาจะตะโกนจนสุดเสียงแต่ก็ไม่ไปถึงเธอซะที
แต่ยังดีที่แม่ของเด็กสาวเห็นว่ามีเด็กผู้ชายที่เล่นกับลูกสาวเธอวิ่งตามมา
‘แฮ่กๆ คุณน้าครับ
แฮ่ก ...จะพาเธอไปไหนครับ’
เธอยิ้มอ่อนก่อนจะเปิดประตูฝั่งลูกสาวให้เด็กทั้งสองได้คุยกัน
‘จะไปลอนดอนเหรอ ...แล้วจะกลับมาเมื่อไหร่
แฮ่ก ...จะกลับมาใช่มั้ย’
‘อื้อ กลับมาสิ
กลับมาแน่นอนไปแค่วันเดียวเอง เดี๋ยวจะซื้อขนมอร่อยๆมาฝากนะ’ ได้ยินแบบนี้เขาก็โล่งใจไปนิดนึงแต่คนที่ปวดใจคือแม่ของเด็กสาวเพราะเธอรู้ว่าลูกสาวต้องทำผิดสัญญาแน่นอน
...เพราะการไปครั้งนี้เธอจะไม่กลับมาที่ประเทศไทยอีกเลย
‘เราจะรอนะ! ยังไงก็จะรอ!’
เฮือกก
“ฝันเรื่องนี้อีกแล้ว ...ทำไมกันนะ
ทำไมช่วงนี้ถึงฝันเรื่องนี้ตลอดเลยแล้วเด็กผู้ชายคนนั้นเป็นใครกัน?” ช่วงนี้ฉันฝันบ่อยมากเหมือนว่าน่าจะเป็นเรื่องตอนที่ยังเป็นเด็กอยู่
พอฝันถึงตรงช่วงนี้ก็จะสะดุ้งตื่นทุกทีเลย
“น่าแปลกจัง...”