นับตั้งแต่เจอกันครั้งนั้นสองหนุ่มสาวก็ไม่ได้เจอกันอีกเลยจนเวลาผ่านไปประมาณเดือนกว่า เพราะต่างคนต่างยุ่งกับงานของตัวเอง
วันนี้แผ่นฟ้าขับรถผ่านบ้านเพื่อนสนิทพอดีจึงแวะเข้าทักทายหลานๆ หลังจากเล่นกับหลานเสร็จก็มาคุยกับพ่อของหลาน ที่ยังหล่อเหมือนเดิมแม้จะมีทายาทแล้วถึงสองคน สมกับเป็นอดีตพระเอกดัง
“มึงว่าไงนะ น้องมึงไปดูตัว” แผ่นฟ้าหันขวับคอแทบเคล็ดเมื่อรู้ว่าครองขวัญตัดสินใจไปเจอกับผู้ชายที่พ่อแม่แนะนำ ใจเริ่มอยู่ไม่เป็นสุขอย่างไม่รู้ตัว
“อืม คุณพ่อกับคุณแม่เห็นว่าลูกคนรู้จักเลยลองแนะนำดู” พวกท่านชอบผู้ชายคนนี้แต่ไม่ได้คิดจะจับคู่ให้ลูกสาวหรอก แค่ลองให้เด็กๆ ได้รู้จักกันเผื่อชอบพอจะได้สานสัมพันธ์กันต่ออาจจะยาวไปจนถึงสร้างครอบครัว
“ใครวะ กูรู้จักไหม ลูกหลานบ้านไหน” แผ่นฟ้ากำหมัดแน่นอยากรู้ใจจะขาดครองขวัญไปดูตัวกับผู้ชายคนไหน
“รู้จักสิ พี่พันรักไง ลูกของคุณป้าพรรณีเจ้าของธุรกิจอัญมณี” ครองภพพยักหน้าเพราะเขากับแผ่นฟ้ารู้จัก พันรัก คือไฮโซนักเรียนนอกหน้าตาดีบ้านรวยแถมยังนิสัยดีมาก ไม่มีชื่อเสียงด้านลบมีแต่ด้านดี พ่อแม่ของเขาถึงได้ชอบ
“อ้อจำได้ แล้วยัยขวัญว่ายังไง ชอบไหม” แผ่นฟ้าถามด้วยน้ำเสียงร้อนรนจนผิดสังเกตทำให้ครองภพเริ่มสงสัยจึงมองเพื่อนรักอย่างไม่ไว้ใจ
“ไม่รู้เหมือนกัน เพิ่งไปวันนี้เอง แล้วมึงเป็นอะไรทำไมดูสนใจเรื่องน้องกูจัง”
“...”
“ว่าไงไอ้ฟ้า”
“น้องมึงก็น้องกูไหมล่ะ ก็ต้องสนใจสิ”
“จริงเหรอ มีอะไรที่กูไม่รู้ไหม”
“ไม่มี มึงขี้ระแวงไปนะ จะมีอะไรล่ะ”
แผ่นฟ้าโกหกตาใส ไม่เข้าใจเหมือนกันทำไมถึงอยากรู้เรื่องครองขวัญนัก ยัยขวัญผวาจะไปดูตัวกับผู้ชายคนไหนมันก็เป็นเรื่องของเธอ ส่วนเขาไม่เกี่ยว
หลังจากคุยกับครองภพสักพักชายหนุ่มก็ขอตัวกลับเหมือนจังหวะนรก รถของแผ่นฟ้าขับออกไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมง รถของครองขวัญก็ขับเข้ามาจอด
หญิงสาวเดินลงจากรถด้วยสีหน้าซีดเซียว ในมือกำยาดมเอาไว้แน่น ก่อนจะวิ่งไปอาเจียนตรงโคนต้นไม้ วันสองวันมานี้เธอมีอาการวิงเวียน มึนหัวไม่หายได้กลิ่นอะไรก็เหม็นไปหมด
เบญญาพรเดินมาจากหลังบ้านเห็นน้องของสามีกำลังก้มหน้าก้มตาอาเจียนจึงรีบเข้าไปลูบหลังด้วยความเป็นห่วง เธอไม่เคยเห็นครองขวัญป่วยเลย
“น้องขวัญเป็นอะไรคะ” พี่สะใภ้เอ่ยถามอย่างห่วงใย ช่วงนี้เธอรู้มาว่าครองขวัญกำลังซุ่มทำโพรเจกต์สำคัญอาจจะพักผ่อนไม่เพียงพอจนส่งผลต่อสุขภาพ
“ไม่รู้เหมือนกันค่ะพี่ฝัน ขวัญเวียนหัวคลื่นไส้มาหลายวันแล้ว” หญิงสาวสะบัดหน้าเบาๆ ก่อนจะล้วงเข้าไปในกระเป๋าเพื่อหยิบน้ำขึ้นมาดื่ม
“นอนน้อยรึเปล่า ช่วงนี้ทำงานหนักใช่ไหมคะ” เบญญาพรค่อยๆ ประคองน้องของสามีไปนั่งบนเก้าอี้ สีหน้าครองขวัญไม่ค่อยดีเท่าไรนัก
“ใช่ค่ะ นอนน้อย เครียดด้วย ปะปนไปหมด ที่บ้านมีของเปรี้ยวๆ ไหมคะ ขวัญอยากกินจัง”
เพราะงานที่กำลังทำสำคัญมากทำให้ครองขวัญนอนไม่กี่ชั่วโมงต่อวัน เธอคิดว่าอาการที่เป็นอยู่เกิดจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ
“ไม่มีเลยเดี๋ยวพี่ให้เด็กไปซื้อ ถ้าน้องขวัญแต่งงานแล้วพี่คิดว่าท้องนะคะเนี่ย”
“ท้องเหรอคะ ตอนพี่ฝันท้องอาการแบบนี้ไหม”
“ก็ประมาณนี้ค่ะ ทั้งเวียนหัว อาเจียน อารมณ์แปรปรวน เยอะแยะไปหมด”
ครองขวัญหน้าซีดเป็นไก่ต้ม ขนแขนลุกพรึบภาวนาขอให้อาการที่กำลังเผชิญไม่ได้เกิดจากการตั้งครรภ์ เธอคงไม่ซวยขนาดนั้นหรอกใช่ไหม เพราะเขาบอกแล้วว่าป้องกันทุกครั้ง ทว่าใจกลับตกไปอยู่บนพื้นเมื่อนึกขึ้นได้ว่าประจำเดือนมาช้าไปหลายวันแล้ว
ระหว่างทางกลับคอนโด เธอตัดสินใจแวะร้านขายยาเพื่อซื้อที่ตรวจครรภ์ แต่กว่าจะยอมลงไปซื้อ เธอนั่งทำใจอยู่นาน ดวงตาคู่งามมองซ้ายมองขวากลัวจะเจอคนรู้จักในร้าน หลังจากได้ของตามต้องการเธอก็รีบขึ้นรถแล้วขับกลับคอนโดอย่างรวดเร็ว
“มะ...ไม่จริงใช่ไหม” เข่าแทบทรุดเพราะผลการตรวจออกมาเป็นขีดจางๆ สองขีดทำให้ใจหญิงสาวตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม คิดว่าตรวจใหม่พรุ่งนี้เช้าอีกครั้งจะได้แม่นยำ
ตลอดคืนเธอนอนกระสับกระส่ายหลับๆ ตื่นๆ ด้วยความกังวลใจ ถ้าท้องขึ้นมาจะทำอย่างไร จวบจนเวลาเช้ามาถึงคนอยากรู้ว่าตัวเองท้องไหมรีบตื่นมาตรวจอีกครั้ง คราวนี้ชัดแจ๋วเลยแท่งตรวจครรภ์ทั้งหมดแสดงผลเหมือนกัน
สองขีดที่แปลว่าท้อง! ไม่ใช่ติดโควิด เธอท้องกับเขา ผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นคู่กัด
“ไม่จริง ท้องได้ยังไง ฉันท้องเหรอ” ครองขวัญเอามือขึ้นมาลูบตรงหน้าท้องแบนราบอย่างไม่อยากเชื่อ เธอทำอะไรไม่ถูก ในหัวว่างเปล่าไปหมด
“ตั้งสติก่อนยัยขวัญ ผลตรวจอาจจะผิดพลาดก็ได้” เธอชี้หน้าบอกตัวเองในกระจก พยายามมีสติให้มากที่สุดจากนั้นก็ตัดสินใจไปตรวจที่โรงพยาบาล เอาให้มั่นใจแบบล้านเปอร์เซ็นต์ไปเลย ท้องก็คือท้อง
หญิงสาวแต่งตัวเรียบร้อยกำลังจะไปโรงพยาบาลแต่มีสายโทรเข้ามาจึงรีบกดรับก่อนจะร้องกรี๊ดด้วยความดีใจ
เธอส่งผลงานเข้าประกวดเกี่ยวกับการแข่งขันออกแบบชุดประจำชาติของ Miss Universe ผ่านเข้ารอบสิบคนสุดท้ายแต่ก็ต้องแข่งขันกันอีกหลายรอบเพื่อคัดเลือกชุดที่ดีที่สุด
“ในที่สุดก็ผ่าน เห็นไหมยัยขวัญ เธอทำได้”
ครองขวัญยิ้มหน้าบานกับข่าวดี หวังว่าตัวเองจะชนะการประกวด ชุดที่เธอออกแบบจะได้ไปอยู่บนเวทีใหญ่ จากนั้นก็จะมีคนถามหาชุดของแบรนด์ ‘ของขวัญ’ มากขึ้น
Rrr Rrr Rrr โทรศัพท์สั่นอีกครั้งระหว่างอยู่ที่โรงพยาบาล ครองขวัญมองโทรศัพท์ที่กำลังสั่นด้วยความรู้สึกสับสน ตอนนี้เธอไม่อยากคุยกับคนที่โทรมาแม้แต่น้อยเพราะไม่รู้จะบอกเขาอย่างไร ทว่าแผ่นฟ้ายังโทรไม่ยอมหยุดจึงตัดสินใจรับสาย
“สวัสดีค่ะ พี่ฟ้ามืดโทรมาทำไมไม่ทราบ” เธอพยายามบังคับเสียงให้เป็นปกติที่สุดถึงแม้อยากจะร้องไห้ก็ตาม มีลูกตอนไม่พร้อมมันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลย
“เปล่าแค่โทรมาถามได้ข่าวว่าไปดูตัวมา เป็นไงอยากให้พี่ช่วยอะไรไหม” แผ่นฟ้าทนไม่ไหวถึงกับต้องโทรมาถามครองขวัญเอง
เขาอยากรู้เธอชอบผู้ชายที่ไปดูตัวหรือเปล่า หญิงสาวนิ่งไปชั่วครู่ก่อนให้คำตอบ
“ไม่ต้องค่ะ ไม่รบกวน แค่นี้นะคะติดธุระอยู่” คนท้องได้คิวรับยาพอดีจึงตัดบท ตอนนี้เธอไม่พร้อมคุยกับเขาจริงๆ อยากจะกลับไปคิดก่อนว่าจะเอาอย่างไรดี
“เดี๋ยวสิ พี่ได้ยินแว่วๆ ใครรับยา ขวัญอยู่โรงพยาบาลเหรอ” ชายหนุ่มไม่ยอมให้วางสายหลังจากได้ยินเสียงแทรก
“ค่ะ ไม่ค่อยสบายก็เลยมาหาหมอ”
“เป็นอะไร ร้ายแรงไหม”
“...”
“ขวัญตอบพี่มา”
“...”
“ขวัญ”
“เป็นคนท้องค่ะ ขวัญท้อง”
“อะไรนะขวัญท้อง!”
“ค่ะ ท้องกับพี่ฟ้านั่นแหละ เรามีเรื่องต้องคุยกัน”
หญิงสาววางสายทันทีเมื่อห้องยาเรียกคิวเธออีกครั้ง แผ่นฟ้าทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ทำงานด้วยความตกใจ
เมื่อสักครู่เขาไม่ได้หูฝาดใช่ไหม ยัยขวัญผวาบอกว่าท้อง หมายความว่าเขากำลังจะมีลูกอย่างนั้นเหรอ เป็นไปได้อย่างไรในเมื่อคืนนั้นเขาป้องกันทุกครั้ง