เรื่องไม่คาดคิด 1.1

1707 คำ
นกเหมยเหมยยังคงออกหาข่าวให้องค์รัชทายาททุกวัน แต่ก็ไม่ได้ความคืบหน้าอะไรมาก ดูเหมือนว่าพวกนั้นจะนิ่งสงบสยบความเคลื่อนไหว ราวกับว่าพวกเขาต้องการให้งานที่วางแผนไว้สำเร็จเป็นเรื่องๆ ถึงจะเริ่มงานโกงกินบ้านเมืองชิ้นใหม่ ส่วนการลอบปลงพระชนม์ลูกในครรภ์พระชายารองฮุ้ยเตียว หลังจากพระชายาเสี้ยวหลานรู้ข่าวว่า นกอินทรีย์ขององค์ฮ่องเต้บินเข้ามาในห้องยา และชนเข้ากับถังไม้ที่หลิวเอ๋อซ่อนซองยาไว้ นางเกิดความกังวล สั่งให้มู่ฮัวนำความไปบอกหลี่ลี่จิงให้หายาพิษชนิดนี้มาอีก แต่คงไม่ลงมือช่วงนี้ ในความคิดนกเหมยเหมย เสี้ยวหลานกำลังประเมินสถานการณ์ หาจังหวะและโอกาสลงมืออีกครั้ง ซึ่งยังคงวางใจไม่ได้ เมื่อวางใจไม่ได้ นกเหมยเหมยให้นกในสมาคมคอยจับตามองคนหลายคน โดยกระจายกันหาข่าวและดูความเคลื่อนไหว นกหลินติดตามอำมาตย์ซ้าย นกอินทรีย์ดูความเคลื่อนไหวตำหนักพระชายาเสี้ยวหลาน นกแก้วเฝ้ามองพระชายารองฮุ้ยเตียว พระชายาอีกพระองค์หนึ่งก็ละทิ้งไม่ได้ หน้าที่สอดแนมตำหนักพระชายาสามเห้อเหนียวเป็นของนกพิราบแสนรู้ถัง ที่ขาดไม่ได้คือ ต้องมีนกติดตามดูหลิวเอ๋อ เหมยเหมยคิดว่านกที่รับหน้าที่นี้ต้องตัวใหญ่ เผื่อนางยกถ้วยยาไปให้พระชายารองเสวยหรือทำอะไรที่เกินกำลังนกตัวเล็กอย่างนกหงส์หยก นกตัวนั้นจะได้ทำให้ถ้วยยาตกลงบนพื้น เหมยเหมยจึงยกหน้าที่นี้ให้เป่ยหลาน นกกระเรียน นกมงคลของคนจีนที่แน่นอนว่า ไม่มีใครกล้าไล่หรือทำร้าย หากนกตัวใดมีความเคลื่อนไหวก็จะมารายงานให้เหมยเหมยทราบในวันรุ่งขึ้น แต่ถ้าหากเป็นเรื่องสำคัญก็จะบินมาหาเหมยเหมยเพื่อส่งข่าวในวันนั้นเลย ในขณะที่นกเหมยเหมยบินอยู่เหนือพื้นดินด้วยความสูงเท่ากับตึกสี่ชั้น เมืองหลวงแคว้นนี้กว้างใหญ่มาก นกน้อยมาอยู่ที่นี่ได้ครึ่งเดือนแล้วยังบินไม่ทั่ว หรืออาจเป็นเพราะไม่มีเวลาได้บินไปไหนมาไหนตามชอบ นอกจากไปส่องหนุ่มๆ ที่แม่น้ำ ดูเสร็จก็บินไปทำภารกิจสายลับนกทันที วันนี้นกน้อยเกิดเบื่อๆ ที่จะไปส่งทหารกล้าอาบน้ำ นกน้อยจึงบินเที่ยวในเมืองหลวงแทน นกเหมยเหมยบินมาเกาะกิ่งไม้บนต้นไม้ข้างร้านขายยาที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวง ย่านนี้ถือว่าเป็นย่านร้านค้า ที่มีสินค้ามากมายให้เลือกจับจ่ายใช้สอย บนถนนสองข้างทางก็มีพ่อค้าแม่ค้าตั้งของวางขายเรียงรายเป็นแถว มีร้านขายซาลาเปาพร้อมชาร้อนๆ ร้านบะหมี่ ร้านขนมพื้นเมืองของที่นี่ และอีกหลายร้านที่เป็นอาหารพร้อมรับประทาน ภาพนี้ทำให้เหมยเหมยนึกถึงบ้านเกิด วิถีชีวิตเหมือนในตลาดหลายแห่งที่ธิดาดอยคุ้นตา ร้านซาลาเปาที่ขายอยู่หน้าร้านขายเครื่องประดับเรียกความสนใจให้เหมยเหมย นกน้อยมองสองแม่ลูกที่นั่งในร้านขายซาลาเปา คนเป็นแม่สั่งน้ำชากับซาลาเปาสองลูก หยดน้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของนกน้อย ภาพที่เห็นทำให้นกเหมยเหมยนึกถึงมารดา การที่เธอทะลุมิติข้ามกาลเวลามาอยู่ที่นี่ นับเวลาได้ก็ร่วมหนึ่งเดือน ระยะเวลาที่เธอหายหน้าโดยไม่มีใครคิดแน่ว่า ตนอยู่ที่นี่ ไม่รู้ว่าจะทำให้ครอบครัวเธอเป็นห่วงมากแค่ไหน ป่านนี้มารดาอาจนั่งร้องไห้ บิดานั่งกลุ้มด้วยความทุกข์ใจ พี่ชายและพี่สาวของเธอก็คงตกอยู่ในอารมณ์หม่นเศร้า ไม่ต่างกับนกน้อยเหมยเหมยตอนนี้ “ป๊าจ๋า ม้าจ๋า เหมยคิดถึงป๊ากับม้า เฮียกับเจ้ด้วย” ธิดาดอยในร่างนกรำพันในใจด้วยความโศกเศร้า คิดถึงครอบครัวจับจิตจับใจ แล้วไม่รู้ว่า โชคชะตาจะเล่นตลกกับตนนานแค่ไหน ถึงปล่อยให้ตนกลับไปใช้ชีวิตตามปกติในโลกปัจจุบัน เดี๋ยวก่อน... ถ้ากลับไปในยุคที่ตนจากมา ธิดาดอยก็ต้องไม่ได้ทำอะไรหลายอย่าง เธอคงไม่ได้พบหน้าองค์รัชทายาท ไม่ได้อยู่ใกล้ชิดเขา ไม่ได้ออกตามหาข่าวให้เขา อดไปดูหนุ่มๆ อาบน้ำและอีกหลายอย่างที่ตนทำในยุคปัจจุบันไม่ได้ และที่สำคัญธิดาดอยคงคิดถึงองค์รัชทายาผู้หล่อเหลาและร้อนแรงมาก ภาพความสุขของครอบครัวฉายเต็มสมอง เธอจดจำทุกเรื่องราว ทุกความสุขที่อยู่กับบิดา มารดา พี่ชายและพี่สาวได้ดีไม่มีลืม แม้ว่าบางครั้งเธอจะจิกกัด ทะเลาะ ทุ่มเถียงกับพี่ชายและพี่สาวบ้าง แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องไปในทางลบ กลับยิ่งเพิ่มความผูกพันมากขึ้น พอนึกถึงเธอก็อยากกลับไปหาไออุ่นนั้น ในขณะเดียวกันการที่อยู่ที่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายเสียทีเดียว ทำให้เธอเปิดโลกทัศน์มากขึ้น ได้รู้ในเรื่องที่ไม่คิดว่า ชาตินี้จะได้รู้และได้เห็นด้วยตาตัวเอง ที่ผ่านมาเธอได้ดูวิถีชีวิตของคนจีนโบราณผ่านภาพถ่าย ซีรี่ย์และในภาพยนตร์ การเรียนรู้กับเรื่องแปลกใหม่ก็เริ่มขึ้น เป็นความตื่นเต้นที่ธิดาดอยไม่มีทางลืม และการย้อนอดีตมายุคจีนโบราณครั้งนี้ทำให้เธอได้พบกับหมิงหยางเต๋อ องค์รัชทายาทรูปงาม นามเพราะ แม้ว่าเขาจะมีความเหี้ยมโหด เด็ดขาดอยู่ในตัว แต่อีกมุมหนึ่งของเขา ความอ่อนหวาน ออดอ้อน อ่อนโยนส่งผลตรงต่อหัวใจธิดาดอย ที่แทรกซึมเข้ามาทีละน้อย จนตอนนี้ธิดาดอยยอมรับว่า ความรักเต็มหัวใจ ธิดาดอยคิดถึงครอบครัวที่จากมา แต่ก็ไม่อยากจากเขา เพราะหัวใจและความรู้สึกเริ่มผูกพันกับหมิงหยางเต๋อทีละนิดโดยไม่รู้ตัว ความสับสนเกิดขึ้นในจิตใจนกน้อย ไม่ว่าจะเลือกทางใดทางหนึ่ง เธอก็หนีไม่พ้นความเจ็บปวดร้าวรานใจ          ณ ท้องพระโรง          อำมาตย์ซ้าย อำมาตย์ขวา รวมทั้งขุนนางยศน้อยใหญ่ต่างมารวมตัวกันในท้องพระโรงดังเช่นทุกครั้งที่มีการประชุม วันนี้อำมาตย์ซ้ายมีหลายเรื่องรายงานองค์รัชทายาทที่เวลานี้ว่าราชการแทนบิดาที่กำลังจะยกราชสมบัติให้หมิงหยางเต๋ออย่างเป็นทางการในอีกสองเดือนข้างหน้า และเรื่องที่อำมาตย์ซ้ายรายงานล้วนเป็นเรื่องที่มีผลประโยชน์เกี่ยวข้องกับตนทั้งสิ้น แล้วยังมีอีกหนึ่งชีวิตที่เข้ามาร่วมประชุมโดยไม่ได้รับเชิญ หนึ่งชีวิตนั้นคือนกหลินที่บินมาเกาะอยู่บนขื่อไม้ ก้มมองดูมนุษย์พูดคุยกัน          “กระหม่อมมีเรื่องความคืบหน้าการสร้างพระตำหนักใหม่ที่เมืองเจียงยางจะกราบทูลพ่ะย่ะค่ะ” อำมาตย์ซ้ายเกริ่นนำ          “ว่ามาสิ”          “การสร้างตำหนักนี้ต้องใช้พื้นที่มาก ที่ดินที่มีอยู่ไม่เพียงพอ จำต้องขอซื้อคืนจากชาวบ้านที่ถือครองที่ดินรอบๆ ที่ดินของหลวงพ่ะย่ะค่ะ” พูดจบ อำมาตย์ซ้ายได้หยิบสมุดเล่มหนึ่งขึ้นมา ก่อนเดินไปหาหลิวกงกงเพื่อนำสมุดเล่มนี้ไปให้องค์รัชทายาท “ในสมุดเล่มนี้คือรายชื่อของเจ้าของที่ดินที่ทางการขอเวนคืนพ่ะย่ะค่ะ และจำนวนเงินที่ทางการต้องจ่าย รวมถึงงบประมาณในการก่อสร้างพระตำหนักพ่ะย่ะค่ะ”          องค์รัชทายาทเปิดสมุดออกดู แล้วดูแบบผ่านๆ ไม่ได้อ่านจริงจังทุกตัวอักษร ทว่าแค่เพียงดูผ่านตา เขายังมองเห็นจำนวนเงินที่ระบุไว้ แต่ละราคาที่ดินที่ต้องจ่าย สูงไม่ใช่เล่น ทั้งที่ไม่น่าจะแพงขนาดนี้ อำมาตย์ซ้ายกับพวกคิดจะโกงกินจนพุงแตก เงินทองใช้ไปถึงชั่วลูกชั่วหลาน องค์รัชทายาทปิดสมุด เงยหน้ามองอำมาตย์ซ้ายและเหล่าขุนนางทั้งหลาย          “ข้ายกเลิกการสร้างตำหนักที่เมืองเจียงยาง เพราะเห็นว่ามีพระตำหนักของฮ่องเต้อยู่แล้ว ข้าขึ้นเป็นฮ่องเต้หากอยากไปเมืองเจียงยางก็ไปอยู่ที่นั่นก็ได้ จะได้ไม่ต้องเสียงบสร้างใหม่ สู้เอางบไปทำอย่างอื่นที่มีประโยชน์มากกว่าดีกว่า” องค์รัชทายาทตรัสเสียงเรียบ วิธีแก้เกมอำมาตย์ซ้ายเป็นความคิดของธิดาดอย นางบอกองค์รัชทายาทว่า ให้ทำทีเป็นคล้อยตามอำมาตย์ซ้าย รอให้อีกฝ่ายจัดการทุกอย่างเรียบร้อยค่อยตลบหลัง ปฏิเสธไม่สร้างพระตำหนักใหม่ ซึ่งก็ตรงกับความคิดองค์รัชทายาทที่คิดว่า การสร้างตำหนักหลังนั้นเป็นการสิ้นเปลือง เนื่องจากเขาไม่ได้แปรพระราชฐานบ่อยนัก นานปีจะไปสักครั้งหรือไม่ก็หลายปี สร้างไปก็ปล่อยทิ้งร้างไว้เสียเปล่า หากเขาไปเมืองเจียงยางไปพักพระตำหนักของบิดาก็ได้ ที่นั่นใหญ่สมพระเกียรติมิใช่น้อย อำมาตย์ซ้ายและเหล่าขุนนางพรรคพวกเดียวกันต่างทำหน้าตกใจ มองหน้ากันเลิกลั่ก ไม่คิดว่าอยู่ๆ องค์รัชทายาทจะยกเลิกการสร้างพระตำหนักแห่งใหม่ การที่องค์รัชทายาททำเช่นนี้เท่ากับว่า ที่ดินที่พวกเขากว้านซื้อไว้สูญเปล่า เหมือนเอาเงินไปทิ้ง เพราะหากไม่ทำพระตำหนัก ที่ดินเหล่านั้นก็ไร้ประโยชน์ “แต่ทางเราเตรียมการไปเยอะแล้วนะพ่ะย่ะค่ะ พูดคุยกับชาวบ้านเจ้าของที่แล้วด้วย” อำมาตย์ซ้ายแย้ง ทว่าเหตุผลไม่ค่อยมีน้ำหนักเท่าไหร่นัก “ก็แค่เตรียมการ ยังไม่ได้ลงมือสร้างไม่ใช่หรือ ไปบอกเจ้าของที่ว่า ไม่มีการเวนคืนที่ดิน ไม่มีการสร้างตำหนักแค่นี้ก็สิ้นเรื่อง ข้าเชื่อว่าพวกเขาต้องเข้าใจ” องค์รัชทายาทพูดไปดูสีหน้าอำมาตย์ซ้ายและพรรคพวกไปด้วยความสะใจ ที่เห็นพวกเขาหน้าถอดสี “เอาตามที่ข้าบอก จะไม่มีการสร้างตำหนักใหม่ที่ใดทั้งนั้น ข้าจะเอางบตรงนี้ไปสร้างโรงหมอให้ใหญ่ขึ้น ดีขึ้นเพื่อประชาชนของข้า” 
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม