(เด็กของดินแดน)
พอขับรถออกมาจากซอย ซึ่งมีอู่ซ่อมรถและร้านขายอะไหล่รถมอเตอร์ไซค์ของลูกชายนายยก(อบต)อยู่หน้าปากซอยบ้านของพวกเธอ เอ็มมี่ก็หันไปมองหน้าร้านทันทีทั้งที่ร้านก็ยังปิดอยู่ แต่แค่ได้มองหน้าร้านก็สุขใจแล้ว ตามประสาสาวประเภทสองที่ชอบเพ้อถึงคนหล่อๆ โดยที่ยังทำหน้าที่สารถี แต่ตาไม่ได้มองทางเลย มองแต่อู่ซ่อมรถที่มักจะมีหนุ่มๆแวะเวียนกันมาใช้บริการไม่ขาดสาย แถมเด็กช่างในร้านก็หล่อเอาเรื่องทุกคน ที่สำคัญคือเจ้าของร้านหล่อล่ำมาก ทุกครั้งที่ขับรถผ่านเอ็มมี่จะแวะแอ๊วแวะแซวหนุ่มๆในร้านตลอด
"อีเอ็ม! มึงมองทางด้วย! ร้านเค้ายังไม่เปิดเลย! มึงมองหาเฮี้ยอะไร!" เฟิร์นที่นั่งหลังสุดตะโกนต่อว่าเอ็มมี่ข้ามหัวเมเบลด้วยความเอือมระอาในความบ้าผู้ชายของเพื่อน ซึ่งเฟิร์นก็มักจะด่าทอเอ็มมี่แบบนี้เป็นประจำ ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติของพวกเธอ
"กูชื่อเอ็มมี่หยะ! กรุณาเรียกให้ถูกด้วย!" เอ็มมี่ก็พูดสวนกลับข้ามหัวเมเบลที่นั่งตรงกลางไปทันที แล้วหันกลับไปมองทาง ทำหน้าที่สารถีที่ดีต่อ
ด้านเมเบลก็ได้แต่ยิ้มขำอยู่คนเดียวเพราะเธอมักจะเห็นเพื่อนด่าทอหรือพูดแรงๆใส่กันแบบนี้เป็นประจำ จนเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว จากนั้นเอ็มมี่กับเฟิร์นก็สาดคำพูดใส่กันไปมาตามปกติ จนขับรถมาถึงยังสถานที่เป้าหมาย
#ณ ตลาดเช้าวันศุกร์
"เฮ้อ~ กูกะว่าจะมาเดินตลาดซื้อโน้นซื้อนี้กลับไปกินที่บ้านให้อร่อยซะหน่อย แต่ตอนนี้กูว่ากูแดกไม่ลงแล้วล่ะ"
"ทำไมล่ะแนน หรือว่าเหม็นอะไรแถวนี้รึเปล่า"
"อือ เหม็นหมา! แถวนี้หนะ"
สองสาวคู่อริของเอ็มมี่และเฟิร์น ทำทีเป็นพูดกันสองคน แต่เหลือบมองไปทางเอ็มมี่กับเฟิร์น ตั้งใจพูดเหน็บแนบอย่างชัดเจน
ด้านเอ็มมี่กับเฟิร์นและเมเบลที่เพึ่งลงจากรถไม่ทันได้เดินเข้าไปในตลาด ก็มีคู่อริเข้ามาหาเรื่องแต่เช้า แต่เอ็มมี่กับเฟิร์นก็หันมายิ้มให้กันอย่างไม่ยี่หระไม่สนใจอะไร เพราะอีกฝ่ายไม่ได้เอ่ยชื่อ แล้วพวกเธอก็ไม่ใช่หมา ไม่จำเป็นต้องรู้สึกอะไรกับคำพูดเหน็บแนมของอีกฝ่าย จากนั้นพวกเธอทั้งสามคนก็พากันเดินเข้าไปในตลาด
ซึ่งเมเบลก็พอจะรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นคู่อริกับเพื่อนของเธอ เพราะเอ็มมี่กับเฟิร์นเคยเล่าให้ฟังอยู่บ่อยๆและยังเอารูปให้เธอดูด้วย เธอจึงจำได้ว่าสองสาวที่เค้ามาพูดจาเหน็บแนบคือคู่อริของเพื่อนเธอ
"เดี๋ยวสิ นี่หนะเหรอเพื่อนของพวกแกที่ย้ายมาจากกรุงเทพ" เด็กสาวคู่อริที่มีนามว่าแนน เดินตามมาหาเรื่องต่อ โดยพุ่งเป้าไปยังเมเบล เพราะหมั่นไส้ละคนอิจฉาในรูปร่างหน้าตาและผิวพรรณของเมเบลที่ดูดีและเด่นจนเกินหน้าเกินตาพวกเธอ
"ฉันว่าน่าจะใช่นะ เพราะดูบอบบางซะเหลือเกิน ทำเป็นแต่งตัวดูดีอย่างกับลูกคุณหนู ทั้งที่เป็นแค่หลานยายนวลคนต่างจังหวัดเหมือนกัน" เด็กสาวคู่อริอีกคนที่มีนามว่าออม พูดเหน็บแนบเมเบลขึ้นมาอีกคนด้วยความรู้สึกอิจฉาไม่ต่างกัน ซึ่งพวกเธอทั้งสองคนก็พอจะรู้เรื่องของเมเบลมาบ้างเพราะบ้านก็อยู่ในละแวกเดียวกัน แค่บ้านของพวกเธออยู่ถัดไปอีกซอย
ซึ่งเวลาใครจะไปใครจะมาหรือมีข่าวอะไรเกี่ยวกับลูกหลานบ้านไหน หรือไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม คนในชุมชนก็มักจะพูดกันปากต่อปากเป็นเรื่องปกติของชาวบ้าน จึงไม่แปลกที่เด็กสาวคู่อริทั้งสองคนจะเดาได้ไม่ยากว่าเมเบลเป็นใคร
ทั้งสามคนที่ได้ยินคู่อริพูดจาเหน็บแนมโดยพุ่งเป้ามาที่เมเบลอย่างชัดเจน จึงหันหลังมามองสองสาวคู่อริทันที
"แล้วยังไงเหรอ เราเป็นหลานยายนวลแล้วมันยังไงเหรอ" เมเบลถามออกไปทันทีด้วยใบหน้าใสซื่อตามปกติของเธอ เธอไม่ได้โกรธหรือโมโหอะไรอีกฝ่าย แค่นึกไม่ชอบใจที่อีกฝ่ายพูดลามปามถึงยายของเธอก็เท่านั้น
เอ็มมี่กับเฟิร์นที่กำลังอ้าปากเตรียมจะด่าคู่อริแทนเพื่อนก็ต้องหุบปากแล้วหันมองมาทางเมเบลพร้อมกันทันทีอย่างนึกแปลกใจ เพราะดูท่าเพื่อนของพวกเธอดูจะไม่ยอมคนเหมือนกัน ถึงภายนอกจะดูบอบบางและดูอ่อนแอก็เถอะ
"ก็ไม่ยังไงหรอก ไปเถอะยัยออม ขี้เกียจเสวนากับเด็กเมืองกรุง" พูดแขวะเมเบลจบ แนนก็เบะปากใส่ทั้งสามคนแล้วเดินออกไป ตามด้วยออมที่เบะปากใส่ทั้งสามคนเช่นเดียวกัน และเดินตามแนนเพื่อนที่เป็นหัวโจกของเธอไปติดๆ
"ชิ! นึกว่าจะแน่! เดินหนีแบบนี้กากว่ะ!" เฟิร์นตะโกนเยาะเย้ยตามหลังคู่อริไปทันที ตั้งใจให้อีกฝ่ายได้ยิน เพราะเธอพร้อมบวกตลอดเวลาอยู่แล้ว
"ก๊าก! กาก! กากจริงจริ๊ง~" ตามด้วยเอ็มมี่ที่ตะโกนด่าทอเยาะเย้ยตามหลังคู่อริเช่นเดียวกัน เอ็มมี่ก็พร้อมบวกตลอดเวลาไม่ต่างจากเฟิร์นเลย ซึ่งแน่นอนเธอดูออกว่าอีกฝ่ายคงไม่กล้ากับเธอ เพราะถึงใจเธอจะเป็นหญิงแต่ร่างกายก็ยังเป็นชาย อีกฝ่ายคงจะกลัวเพราะคงสู้ไม่ไหว
"พอเถอะ มัวแต่ทะเลาะกัน ตลาดใกล้วายแล้วเนี่ย" เมเบลที่ยืนฟังอยู่ก็เอ่ยห้ามปลามเพื่อน เพราะตอนนี้เหมือนคนในตลาดเริ่มน้อยลง ร้านค้าเล็กๆก็ทยอยเก็บของกลับกันไปบ้างแล้ว เพราะเป็นตลาดที่เปิดแค่ช่วงเช้า พอสายหน่อยตลาดก็เริ่มวายเป็นเรื่องปกติ
จากนั้นทั้งสามคนก็เดินเข้าไปในตลาด พลางพูดคุยสนทนากันถึงเรื่องที่เมเบลตอกกลับคู่อริ ซึ่งเอ็มมี่กับเฟิร์นก็สะใจมากและดีใจไม่น้อยที่ยัยคุณหนูเมเบลของพวกเธอก็ไม่ยอมคนเหมือนกัน