“ครับพ่อเลี้ยง”
ลุงชมรีบลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ของน้ำหวานออกไปต่อหน้าต่อตาหล่อน เพราะไม่กล้าขัดคำสั่งคาร์สันผู้เป็นนาย ทุกคนในบ้านหลังนี้ต่างก็รู้ดีว่าถ้าคาร์สันโกรธขึ้นมาแล้วจะเป็นยังไง
“ได้โปรด... อย่าเอาข้าวของดิฉันไปทิ้งเลยนะคะพ่อเลี้ยง”
หญิงสาวเจ้าของกระเป๋าเดินทางทำหน้าตกใจ หล่อนวิงวอนเสียงอ่อน เพราะในนั้นมีของใช้จำเป็นหลายอย่างที่อุตส่าห์นำติดตัวมาจากบ้าน
“ไม่ได้... ”
คาร์สันส่ายหน้า
“เอ่อ... ในนั้นมีเสื้อผ้าของฉันนะคะ... ถ้าเอาไปทิ้งแล้วฉันจะใส่อะไร”
น้ำหวานจ้องหน้าเขา
“ก็ไม่ต้องใส่... อยู่ที่นี่ไม่เน้นเสื้อผ้า... แล้วถ้ายังเรื่องมากห่วงกระเป๋าเดินทางประเดี๋ยวฉันจะโยนเธอลงถังขยะไปด้วย”
คาร์สันทำหน้าสะใจ น้ำหวานเม้มริมฝีปากสนิท ค้อนขวับมองหน้าเขา นึกในใจว่าไอ้พ่อเลี้ยงบ้าคนนี้ใจร้ายสุดๆ
“นาย... ”
น้ำหวานกำมือแน่น ผู้ชายคนนี้ใจร้ายนัก
“ทำไม... ทำไมต้องกำมือ... อยากตบฉันใช่ไหม”
คาร์สันพูดเหมือนรู้ตัวว่าตัวเองน่าตบ
“เปล่าค่ะ”
น้ำหวานส่ายหน้า พยายามระงับอารณ์
“ฉันไม่ชอบท่าทางแข็งขืนแบบนี้... คราวหลังถ้าเห็นเธอกำมือแน่นแบบนี้ฉันจะลงโทษ”
เขาขู่ แต่น้ำหวานก็ยังเผลอกำมือแน่นทั้งที่ถูกห้ามเอาไว้หยกๆ
“ท้าทายใช่ไหม”
พูดจบคาร์สันก็เอื้อมมือออกมาสอดเข้าใต้ซอกคางแล้วโอบใบหน้าของหล่อนเข้ามาประกบจูมริมฝีปากเสียงดังจ๊วบ
ด้วยไม่ทันตั้งตัว ริมฝีปากน้อยๆ จึงถูกประกบจูบอย่างแรงพร้อมกับลิ้นหนาที่สอดเข้ามาในร่องปากละมุนเกี่ยวกระหวัดรัดร้อยเรียวลิ้นนุ่มๆ ของหล่อนออกมารัดเลียกันดูดดื่ม ก่อนที่หญิงสาวจะกระชากริมฝีปากหนีเมื่อสติคืนมา
“อื๊อ... ”
น้ำหวานยกหลังมือขึ้นเช็ดริมฝีปาก แสดงท่าทางให้รู้ว่าขยะแขยงการกระทำของเขา
“โห... ดุเดือดสุดๆ”
ป้าโฉมที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ยกมือขึ้นทาบอก ตกใจที่เห็นพ่อเลี้ยงทำโทษหญิงสาวด้วยวิธีที่คิดไม่ถึง
“จูบกับฉันแล้วทำไมต้องเอาหลังมือเช็ดปาก”
คนพาลยังจ้องจะหาเรื่อง
“...”
น้ำหวานนิ่ง สติสั่งให้หล่อนอดทน เหมือนรู้ว่าไม่ควรต่อความยาวสาวความยืดกับผู้ชายพาลคนนี้
“ป้าโฉม... ”
คาร์สันเรียกสตรีสูงวัยที่ยืนอยู่ไกล ป้าโฉมนึกในใจว่าทำไมต้องเรียกเสียงดังขนาดนั้น กลัวชาวบ้านจะไม่รู้หรือยังไงว่าเป็นคนขี้โวยวาย
“ขา... ”
“ช่วยหาห้องว่างสักห้องให้ผู้หญิงคนนี้อยู่”
“ห้องนอนชั้นสองว่างอยู่อีกห้องค่ะ... ที่ติดกับห้องของพ่อเลี้ยง”
ป้าโฉมนึกขึ้นได้
“ไม่ได้... ก็บอกแล้วว่าผู้หญิงคนนี้เข้ามาอยู่ในฐานะคนรับใช้... เพราะฉะนั้นให้เธอพักรวมกับสาวใช้คนอื่นๆ ในห้องที่อยู่หลังครัว... ผมจำไว้ว่ายังมีว่างอยู่อีกห้องนี่นา”
คำสั่งของคาร์สันถือเป็นเด็ดขาด
“ค่ะๆ... ตามมานังหนู”
ป้าโฉมพยักหน้า น้ำหวานก้มหน้าเดินตามป้าโฉมมาด้วยความจำใจ ในวันที่โชคชะตากำลังล้อเล่นกับชีวิตของหล่อน
“ห้องรูหนูแบบนี้เอ็งพักได้นะ”
ป้าโฉมพาน้ำหวานเข้ามาในห้องพักเล็กๆ ที่อยู่ติดกับด้านหลังครัว ใกล้กับห้องนอนของสาวใช้อีกสองคนซึ่งเป็นฝาแฝดมี ชื่อว่า ‘พิม’ กับ ‘พร’
“ได้จ้ะป๋า... หนูอยู่ได้”
น้ำหวานท่องอยู่ในใจว่าเดือนเดียวเท่านั้น
“นี่เสื้อผ้า”
ป้าโฉมยื่นเครื่องแบบคนใช้ซึ่งเป็นเสื้อแขนกุดคอจีนสีกลีบบัวให้กับน้ำหวาน
มาถึงตอนนี้หญิงสาวจึงได้เข้าใจว่าสาเหตุที่อีตาคาร์สันหน้าโหดสั่งให้คนขับรถเอากระเป๋าเดินทางของหล่อนไปโยนทิ้งอย่างไม่ใยดี ที่แท้ก็เป็นเพราะว่าเขาอยากให้หล่อนสวมเครื่องแบบคนรับใช้ คาร์สันคงอยากจะกดหล่อนให้ต่ำต้อยจมดิน
“แล้วนี่ผ้าถุง... รับไปสิ”
ป้าโฉมยื่นผ้าถุงลายดอกพิกุลตามมา
“เอ่อ... ”
น้ำหวานรู้สึกตกใจเล็กน้อย แต่ก็ยื่นมือออกมารับผ้าถุงจากมือของสตรีผู้สูงวัยกว่า
‘นี่เราจะต้องสวมเครื่องแบบคนใช้หรือนี่’
หญิงสาวทำหน้าเศร้า เพิ่งรู้สึกว่าตัวเองตกต่ำที่สุดก็คราวนี้ ตั้งแต่เกิดมาก็เพิ่งเคยนุ่งผ้าถุงเป็นครั้งแรกในชีวิต บ้าจริง... นี่คาร์สันคิดจะเล่นตลกอะไรกับหล่อน
“พ่อเลี้ยงชอบให้คนใช้สวมผ้าถุง”
ป้าโฉมรีบบอก หลังจากสังเกตเห็นหญิงสาวแสดงสีหน้าอิดออดที่จะแต่งกายด้วยเครื่องแบบสาวใช้
น้ำหวานใช้เวลาไม่นานก็เปลี่ยนเสื้อผ้ามาอยู่ในชุดเครื่องแบบคนรับใช้เหมือนกับป้าโฉม
“หูย... อุ๊ย... ว้าว”
ป้าโฉมยืนมองสาวใช้คนใหม่ด้วยสายตาตกตะลึงพรึงเพริดไปชั่วขณะ
“ตลกมาใช่ไหมป้า”
น้ำหวานมองภาพสะท้อนของตัวเองจากบานประตูกระจก
“เปล่า... อู้ฮู... อื้อฮือ”
ป้าโฉมจุ๊ปาก หล่อนนึกในใจว่า ‘เพชรยังไงก็คือเพชร’ อยู่วันยังค่ำ ไม่ว่าจะห่อพันด้วยวัสดุไร้ค่าราคาถูกเพียงไร... เพชรย่อมฉายประกายเจิดจรัสออกมาอยู่ดี เหมือนผู้หญิงคนนี้
“ป้ามองอะไรคะ”
น้ำหวานถามเขินๆ เมื่อเห็นว่าป้าโฉมมองสำรวจเรือนร่างของหล่อนตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
“ก็มองเอ็งน่ะสิ... รู้ตัวหรือเปล่าว่าเอ็งเป็นผู้หญิงคนแรกที่ใส่เครื่องแบบคนใช้แล้วสะสวยสะดุดตาจนข้าอดชมไม่ได้”
เครื่องแบบคนใช้ไม่อาจทำให้หญิงสาวคนนี้แลดูต่ำต้อยด้อยค่าลงไปได้ หากเสื้อคอจีนรัดรูปกลับช่วยคัดเน้นให้เห็นทรวดทรงอะร้าอร่ามสะดุดตา โดยเฉพาะสองเต้าอวบใหญ่ที่เบียดชิดกันแน่นอยู่ภายใต้เนื้อผ้าบางๆ จนฟิตแน่นตึงปริ
“อึดอัดมั้ยวะ”
สายตาของป้าโฉมจับอยู่ที่หน้าอกหน้าใจของสาวใช้คนใหม่ที่แลดูอวบใหญ่ชัดเจนสะดุดตา
ขนาดมหึมาอะร้าอร่ามของสองเต้าอวบใหญ่ที่เห็นอยู่นี้น่าจะเกินสามสิบหกนิ้วอย่างไม่ต้องสงสัย อีกทั้งผ้าถุงก็รัดรูปจนแนบเน้นเข้ากับสะโพกหนั่นแน่นอวดส่วนโค้งส่วนเว้ากลมกลึงน่ามอง
“อึดอัดนิดหน่อยค่ะ... แต่สักพักก็คงชินไปเอง”
น้ำหวานตอบโดยที่ไม่ได้รู้สึกชอบใจในคำชมแต่อย่างใด เพราะภายในใจของหล่อนนั้นยังคงระรึกอยู่เสมอ