ตอนที่6 เข้าผับ

1704 คำ
ดีเจ “ลบรูปในไอจีเดี๋ยวนี้เจ้าขา” ผมพูดกับปลายสายออกไปด้วยน้ำเสียงโมโห (มันรูปฉัน ไอจีฉัน นายจะมายุ่งอะไร) เสียงไม่รู้ร้อนรู้หนาวของเจ้าขาตอบกลับมา “อยากเจ็บตัวอีกหรือไง ฉันบอกให้ลบก็ลบดิวะ” ผมพูดออกไปอย่างไม่หงุดหงิด ยัยบ้าใครสั่งใครสอนให้ใส่เศษผ้าโชว์ร่องนมแบบนั้นถ่ายรูปลงโซเชียลวะ (พูดมาก รำคาญจริงๆเลย) แล้วปลายสายก็เงียบไปทันที “เจ้าขา เจ้าขา! ยัยบ้าเอ้ย!” ผมคำรามออกมาอย่างหงุดหงิด กล้าตัดสายทิ้งหรอ ส่วนเรื่องโทรกลับไม่ต้องพูดถึง ถ้ายัยนี่ตัดสายผมทิ้งแบบนี้ต่อให้โทรกลับไปยังไง เธอไม่มีทางรับสายแน่ ดีไม่ดีรำคาญมา เธอก็ปิดเครื่องหนีเลย วันนี้อุตส่าห์วางแผนไว้ว่าจะไปหาเธอคืนนี้สักหน่อย แต่ถ้าเธอเป็นแบบนี้บอกเลย ไม่อยู่คอนโดแน่ งั้นก็มีที่เดียวที่ผมจะไประบายอารมณ์ได้ นั่นก็คือ ผับ “อย่าให้เจอตัวนะ จะไม่ให้ลงจากเตียงไปสามวันเลย) ปาลิน “วันนี้พอแค่นี้ค่ะ” เสียงอาจารย์ดังขึ้น ทำให้นักศึกษาทุกคนเร่งมือเก็บของลงกระเป๋าตัวเองด้วยความรวดเร็ว “แก คืนนี้ไปเที่ยวกันไหม” ฉันพูดชวนเพื่อนๆออกไป ตั้งแต่เข้ามหาลัยยังไม่ได้มีโอกาสได้ไปเที่ยวกันเลย “ไปเที่ยวไหน” เรนโบว์ถามออกมา “ฉันอยากไปผับอ่ะ เห็นเพื่อนในห้องคนอื่นๆไปมาบอกว่าสนุกมากเลยนะ” ฉันบอกต่อ เพราะว่าเพื่อนๆที่เคยไปมันพูดเป็นเสียงเดียวกัน ว่าผับที่คนนิยมแถวนี้มันดีมาก เพลงมัน งานดีแถมเจ้าของผับหล่อมากกกก “อ๋อ ผับที่ว่าเจ้าของเป็นนักศึกษามหาลัยเราน่ะหรอ” ยัยกุ้งนางถาม “ใช่ๆ ไปกันนะ นะๆๆๆ” ฉันอ้อนพวกมันออกไปด้วยความอยาก “แล้วจะเข้าได้หรอ” เรนโบว์ถาม “ได้สิ ยิ่งเด็กมหาลัยเรานะ พวกการ์ดอนุโลมให้เข้ากันทั้งนั้นแหละ” ฉันตอบกลับไป ฉันไปสืบมาหมดแล้ว ที่นั่นเขาเหมือนจะอนุโลมให้เด็กมหาลัยฉันนี่แหละ หรือไม่รู้ว่าการ์ดขี้เกียจตรวจหรือเปล่า เลยปล่อยผ่านหมาด “รู้ดี” เรนโบว์ว่ากลับมาอย่างไม่จริงจัง “มันก็ต้องหาข้อมูลกันบ้าง” ฉันพูดขึ้นด้วยความภูมิใจ อะไรที่เราอยากรู้อยากลอง เราก็ต้องรู้ต้องลองสิ จริงไหม “เออ ลองดูก็ดีเหมือนกัน” ยัยกุ้งนางพูดขึ้น “เออ พวกแกไปฉันก็ต้องไปสิ อยากไปเห็นเหมือนกัน ว่าจะสนุกแค่ไหน” เรนโบว์ตอบกลับอีกคน เยส! “เอาเป็นว่าตกลงตามนี้นะ แล้วคืนนี้เจอกัน” ฉันรีบนัดแนะออกไปอย่างรวดเร็วก่อนพวกมันจะเปลี่ยนใจ ด้วยความดีใจทันที ก่อนพวกเราจะแยกย้ายกันกลับห้องตัวเอง คืนนี้ฉันจะดื่ม จะเต้นให้หลุดโลกไปเลย เอาให้เรื่องในใจมันหลุดหายไปภายใจคืนนี้ให้รู้แล้วรู้รอด ไม่อยากรับรู้อะไร หรือให้อะไรกวนใจอีกเลย ดีเจ “เป็นไงมึง ได้ข่าวว่าช่วงนี้วนเวียนคณะบริหารบ่อยๆหรอ” ไอ้ปราณหุ้นส่วนใหญ่ผับนี่แหละถามไอ้สายฟ้าขึ้นด้วยรอยยิ้ม ตอนนี้พวกผมอยู่ที่ผับของพงกเรานี่แหละ มันเป็นเพื่อนสมัยมัธยมของพวกผม แต่ตอนนี้เรียนคนละคณะเลยทำให้พวกเราไม่ได้ค่อยได้เจอกันตอนอยู่ในมหาลัย(แต่เจอกันเกือบทุกคืนที่ผับนี่แหละ) “ข่าวไวจริงๆ” ไอ้สายฟ้าพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มอย่างไม่จริงจัง “หึ เรื่องปกติของพวกมึงไหมล่ะ ว่าแต่คนนี้จริงจังหรือไงถึงลงทุนเข้าหาเอง” ไอ้ปราณพูดก่อนจะถามต่อ “รอติดตามตอนต่อไป” มันตอบกลับไป “แต่กูนี่คงจะเป็นครั้งแรกที่เสืออย่างมันต้องชวดว่ะ เพราะเหยื่อคนนี้ไม่เหมือนใคร และไม่ยอมอ่อนข้อให้มันแม้แต่น้อย” ผมพูดขึ้น เรื่องนี้เดิมพันได้เลย ว่ามันจริงจัง ผมมั่นใจ “ขนาดนั้นเลย” ไอ้ปราณถามอย่างไม่อยากเชื่อ “จัดว่ามวยถูกคู่ครับ” ผมตอบกลับมันให้หายสงสัย ก่อนจะกระดกเหล้าเข้าปากไม่หยุด “แล้วมึงรอดู” ไอ้สายฟ้าพูดขึ้นอย่างไม่จริงจังเหมือนกัน ไอ้นี่ยังไม่รู้ใจตัวเองดีไง มันเลยยังไม่กล้ายอมรับ แต่ถ้าถามผู้เชี่ยวชาญอย่างผม บอกได้คำเดียว มันชอบเรนโบว์ไปแล้ว “ครับ ถึงตอนนั้นกูคงได้กินเพื่อนสาวน้อยคนนั้นก่อนมึงอ่ะ” ผมตอบกลับมันออกไป ทำให้มันมองผมอย่างจับผิดทันที “อย่าบอกว่ามึง...” ไอ้สายฟ้าถามมันออกไปอย่างรู้กัน “หึๆ” ผมไม่ตอบแต่เค่นหัวเราะใส่มันอย่างที่มันชอบทำใส่ผมเวลาผมถาม ก่อนจะยกเหล้ากินต่ออย่างมีความสุข “หัวเราะไปเถอะมึง ถ้าเจ้าขารู้เรื่องเดี๋ยวจะหัวเราะไม่ออก” ไอ้ปราณออกมาด้วยรอยยิ้มซะใจ “พวกมึงก็ จะพูดถึงทำไมวะ เสียบรรยากาศหมด” ผมว่าให้พวกมันออกไป ยิ่งอารมณ์ไม่ดีเพราะยัยนี่อยู่ เลยได้หนีมาหาที่ระบาย ยังจะมาพูดให้วกไปคิดถึงเรื่องยัยนั่นอยู่ได้ “ฮ่าๆๆ” พวกผมหัวเราะออกมาด้วยความสะใจ เดี๋ยวเถอะพวกมึง อย่าให้ถึงทีกูบ้างนะ ผมไม่สนใจจะตอบ เลือกจะกระดกเหล้าต่อไปเรื่อยๆ “ไอ้สาย” แล้วระหว่างที่พวกเรานั่งกินเหล้าคุยกันไปสักพัก ไอ้คัตเตอร์ผู้เงียบมาตลอดงานไอ้สายฟ้าข้น ทำให้มันและพวกผมเงยหน้าไปมองมัน ก่อนจะเห็นมันพยักเพยิดหน้าไปทางหนึ่ง พวกผมเลยมองตามมันไป... “เห้ย! นั่นมัน...” เป็นผมที่อุทานออกมาด้วยความตกใจ “หึ มาให้เฉียดถึงที่เลยนะ” เสียงไอ้สายฟ้าพูดขึ้นอย่างพอใจ ส่วนผมหรอ ตอนนี้ก้ได้แต่นั่งมองร่างบางที่กำลังขยับไปมาอยู่ที่ฟลอร์ บวกกับชุดที่เธอใส่นั้นแล้ว มันยิ่งทำให้ฉันทรวดทรงของเธอชัดเจนขึ้น ไม่คิดเลย ว่าตัวเล็กที่เห็นเวลาใส่ชุดนักศึกษา เวลาใส่ชุดแบบนี้แล้ว ไม่เล็กอย่างที่คิด ตอนนี้พวกผมก็ได้แต่นั่งมองเป้าหมายของตัวเองไปนิ่งๆ รอให้ถึงเวลาก่อนเถอะ เดี๋ยวพี่จะลงไปหานะที่รัก ปาลิน “สนุกกว่าที่คิดอีกอ่ะ” ฉันพูดขึ้นหลังจากกลับมาจากเต้น มันสนุกสุดเหวี่ยงไปเลยจริงๆ เพลงที่นี่มันส์มาก อีกอย่าง ไม่คิดว่านักศึกษาในมหาลัยฉันจะมีหล่อๆเยอะแบบนี้ นี่มันศูนย์รวมคนขี้เหล้าที่หน้าตาดีเลยนะเนี่ย “นั่นสิ รู้งี้มาตั้งนานแล้ว” ตามด้วยกุ้งนางที่เห็นด้วยกับฉัน “เออ ใช้ได้เลย” เรนโบว์เองก็คิดเหมือนกัน ในเมื่อความคิดตรงกันทั้งสามคนแบบนี้ มันคงไม่แปลกที่จะมีครั้งต่อไปอีก ลืมบอกเลยว่าตอนนี้ฉันกับเพื่อนอยู่กันที่ผับดังในย่านนี้นั่นเอง ที่นี่คนเยอะมาก ถึงแม้ว่าค่ามิกเซอร์จะแพงแต่คนก็ยังเข้ากันเยอะ โดยเฉพาะโซนวีไอพีชั้นบน เห็นว่าแพงมาก แต่เท่าที่ดูรูปและรีวิวก็คุ้มกับเงินที่เสียนั่นแหละ แต่วันนี้พวกฉันอยู่ชั้นล่างกัน เพราะเราจะมาดื่มและเต้นไง “หมดนี่แล้วค่อยกลับนะมึง” ฉันพูดขึ้น หรือจะพูดง่ายๆคือ ผับปิดค่อยกลับนั่นแหละ “จะเอาให้หมดเลยหรอวะ แบบนี้ไม่เมาแย่หรอ” เรนโบว์ถามออกมา “ก็กินไปเรื่อยๆไง ถ้าผับปิดก่อนหมดนั้นค่อยว่ากันอีกที” ฉันตอบกลับไป จะให้บอกว่าผับปิดแล้วกลับมันดูดึกไป อิอิ “มึงทำเหมือนจะหนีแม่มาเที่ยวได้แค่วันเดียวนะ เอาซะคุ้มเลย” เรนโบว์ว่าให้ฉันอย่างไม่จริงจัง แต่ก็ถูกของมัน ยังไงพวกฉันก็ต้องมาอีกแน่นอน พวกฉันไม่ใช่เด็กดีอะไรอยู่แล้ว อีกอย่าง ยิ่งเวลาที่ฉันเบื่อหรือเครียด ฉันจะจะพึ่งร้านเหล้ากับฟลอร์นี่แหละ เป็นที่ปลดปล่อย และมันก็ได้ผลทุกครั้ง(เข้าตั้งแต่อายุยังไม่ถึงอ่ะ) “ก็นานๆที ต้องเอาให้คุ้มสิคะ หรือว่าพวกมึงจะพากูมาบ่อยๆ ถ้างั้นกลับกันตอนนี้เลยก็ได้นะ” ฉันพูดออกไป ทั้งที่ก็รู้แล้วว่าพวกมันคงจะพามาอีกแน่นอน “เออ งั้นมึงเอาขวดนี้ให้หมดเถอะ อีห่ามาแค่คืนเดียวก็หมดไปเยอะแล้ว ถ้าให้มาบ่อยๆกูได้กินมาม่าแน่” เป็นกุ้งนางพูดขึ้น ฮ่าๆ พวกนี้ก็ขี้งกจริงๆ “ฮ่าๆ งั้นเพื่อนไปเต้นต่อแล้วนะคะ” ฉันบอกมันก่อนจะยกเหล้ากินไปหลายแก้ว แล้วออกจากโต๊ะไปเต้นต่อ “อืมมม มึงงง กูจะยืนไม่ไหวแล้วว่ะ” เสียงไอ้เรนโบว์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงยานคราง จะอะไรอีกล่ะ ตอนนี้มันเมากันแล้ว “แล้วครายให้มึงกินไปเยอะขนาดน้าน” เสียงกุ้งนางที่มันกินเหล้าอยู่กับเรนโบว์พูดขึ้นบ้าง โดยฟังจากเสียงมันแล้วแทบไม่ต่างกันเลยทั้งสองคน “เห้อ แล้วกูจะแบกพวกมึงได้ยังไงถึงสองคนวะ” ฉันบ่นออกไป เพราะฉันคงเป็นคนเดียวที่สติเหลือเยอะสุด เพราะฉันออกไปเต้นซะส่วนใหญ่ทำให้เหงื่อออกบ้าง เลยทำให้ไม่เมาเท่าพวกมัน อีกอย่าง ฉันบอกแล้วว่าฉันพึ่งแอลอฮอร์บ่อย เลยทำให้คอแข็งกว่าพวกนี้ ตอนนี้เลยแค่มึนๆ “สมน้ำหน้า ครายอยากให้มึงทิ้งพวกกูว้ายล้า” เรนโบว์พูดขึ้นด้วยรอยยิ้มสะใจ เดี๋ยวกูก็ทิ้งไว้นี่เลยได้เพื่อนบ้า “เดี๋ยวฉันไปส่งให้เอง”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม