(ป่วนหัวใจนายบอดี้การ์ดหน้านิ่ง)
หลายวันต่อมา
เด็กสาวหรือมิราได้สอบปิดภาคเรียนที่สองและจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่หกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้อยู่ในช่วงปิดเทอมโดยระยะเวลาหลายวันที่ผ่านมา เธอได้ส่งข้อความไลน์หาบอดี้การ์ดคนของใจทุกคืน ใจจริงเธออยากส่งไลน์หาเขาแทบจะทุกเวลาที่เธอว่างด้วยซ้ำแต่กลัวว่าเขาจะรำคาญเธอเสียก่อน เลยไลน์หาเขาแค่ตอนก่อนนอนเพื่อบอกชอบบอกคิดถึงและบอกฝันดี ถึงแม้เขาจะตอบกลับบ้างไม่ตอบบ้างก็ตาม แต่กระนั้นแค่เธอได้ไลน์หาเขาทุกคืนก่อนนอนและเห็นว่าเขาอ่านไลน์ทุกข้อความที่เธอส่งไป แค่นี้เธอก็พอใจและมีความสุขมากแล้ว
บริเวณโต๊ะริมสระว่ายน้ำของคฤหาสน์หลังใหญ่
"พี่ภีมคะ พี่วายุไปไหนเหรอคะ" มิราที่เดินออกมาจากในบ้านเธอเดินมาหยุดยืนอยู่ด้านหลังของบอดี้การ์ดคนสนิท แล้วถามหาบอดี้การ์ดคนของใจไปทันทีเมื่อไม่เห็นเขา พลางกวาดสายตามองหาร่างสูงของเขาไปด้วย เพราะปกติบอดี้การ์ดส่วนตัวของเธอทั้งสองคนจะตัวติดกันตลอด
พรึ่บ!
ภีมหันมาตามเสียงพร้อมกับลุกขึ้นยืนตรงหน้าเจ้าของเสียงหวานนั้นทันที โดยยืนอยู่ในท่ากุมมือไว้ด้านหน้าหรือท่าประจำของบอดี้การ์ด
"พี่วายุไปเข้าห้องน้ำครับ คุณหนูมีอะไรรึเปล่าครับ ใช้ผมก็ได้ครับ" ภีมตอบเด็กสาวไปทันที แล้วถามกลับในประโยคหลัง พลางเสนอตัวเองแทนตามหน้าที่ ซึ่งตั้งแต่บอดี้การ์ดรุ่นพี่เข้ามาดูแลเด็กสาวคู่กับเขา เธอก็เอาแต่เรียกหารุ่นพี่ของเขาจนเขาเองก็นึกแปลกใจอยู่ไม่น้อย เพราะเด็กสาวดูจะสนิทกับรุ่นพี่ของเขาเร็วซะเหลือเกินทั้งที่พึ่งรู้จักกันได้ไม่กี่วัน
"น้องมิแค่ถามหาพี่วายุเฉยๆไม่ได้จะใช้อะไรหรอกค่ะ...แต่ว่า..พี่ภีมช่วยอะไรน้องมิซักอย่างได้มั้ยคะ" ประโยคหลังคำพูดขาดช่วงเล็กน้อยกับเรื่องที่จะขอให้บอดี้การ์ดคนสนิทช่วย ประหนึ่งถามเพื่อเป็นการหยั่งเชิง
"ได้อยู่แล้วครับ คุณหนูจะให้ผมช่วยอะไรบอกผมมาได้เลยครับ" ภีมตอบตกลงทันทีแล้วเอ่ยถามถึงความต้องการของเด็กสาวอย่างรอรับคำสั่ง พร้อมจะทำตามทุกประการ
"น้องมิชอบพี่วายุค่ะ น้องมิอยากให้พี่ภีมช่วยน้องมิจีบพี่วายุค่ะ" ด้วยความซื่อ มิราเอ่ยบอกถึงความต้องการของตัวเองออกมาตามตรง ดวงตากลมโตมองบอดี้การ์ดคนสนิทตาแป๋วอย่างรอคำตอบ โดยไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายแทบช็อคกับประโยคที่เธอพูดออกมา และในขณะที่รอคำตอบจากบอดี้การ์ดคนสนิท ดวงตากลมโตดันไปสะดุดกับร่างสูงที่กำลังเดินมาทางเธอจากด้านหลังของบอดี้การ์ดคนสนิท
พรึ่บ!
เห็นแบบนั้นด้วยความตกใจ เธอจึงคว้าหมับแขนแกร่งของบอดี้การ์ดคนสนิทเข้าหาตัวทันที ทำให้อีกฝ่ายที่กำลังช๊อคไม่หายยิ่งตกใจหนักกว่าเดิมกับการกระทำของเธอ
"พี่ภีมอย่าบอกเรื่องนี้กับพี่วายุนะคะ น้องมิกลัวโดนพี่วายุดุ" มิราเอ่ยกระซิบกระซาบประหนึ่งขอร้องบอดี้การ์ดคนสนิทไปทันที เสมือนทำผิดและกลัวความผิดยังไงยังงั้น ทั้งๆที่ตัวเองก็ไม่ได้ทำอะไรผิด
"เอ่อ คะ ครับ" ภีมตอบตกลงอย่างเลี่ยงไม่ได้ น้ำเสียงตะกุกตะกักด้วยความที่ยังไม่หายตกใจกับเรื่องที่เขาพึ่งจะได้รับรู้ ไหนจะคุณหนูตัวน้อยที่เกาะแขนเขาไม่ยอมปล่อยจนเขารู้สึกกระอักกระอ่วนทำตัวไม่ถูกเอาเสียเลย
พรึ่บ!
"ทำอะไรกัน!"
เมื่อมาถึงวายุก็กระชากแขนอีกข้างของรุ่นน้องออกจากตัวเด็กสาวอย่างแรง แล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแข็งทันที คิ้วหนาขมวดเข้าหากันยุ่งแสดงออกชัดเจนว่าเขาไม่พอใจที่เห็นเด็กสาวถึงเนื้อถึงตัวกับผู้ชายคนอื่นแบบนี้ ถึงจะรู้ดีอยู่แก่ใจว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์หึงหวงอะไรเธอเลยด้วยซ้ำ แต่กระนั้นถ้าจะให้เขานิ่งดูดายเขาทำไม่ได้
"เปล่านะพี่ ผมไม่ได้ทำอะไรคุณหนูเลย" ภีมรีบเอ่ยปฏิเสธออกไปทันทีด้วยน้ำเสียงและใบหน้าจริงจัง มาถึงตอนนี้เขาเข้าใจทุกอย่างแจ่มแจ้งดีแล้วว่ารุ่นพี่ของเขาก็มีใจให้กับคุณหนูตัวน้อยเหมือนกัน ถ้าให้เขาเดาหรือจับสังเกตจากวันที่ผ่านๆมา คนทั้งคู่ก็หน้าจะมีใจให้กันตั้งแต่วันแรกๆหรือตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอหน้ากันแล้วด้วยซ้ำ
"ใช่ค่ะ พี่ภีมไม่ได้ทำอะไรน้องเลยนะคะ นี่ไงเสื้อพี่ภีมเลอะน้องก็เลยช่วยเช็ดให้...แฮๆ" มิรารีบเอ่ยสมทบทันทีละคนร้อนตัว แล้วแสร้งพูดในประโยคหลังพลางมือบางข้างหนึ่งปัดแขนเสื้อบอดี้การ์ดคนสนิทไปด้วยเพื่อให้ดูสมจริง แต่พอเจอสายตาดุๆของบอดี้การ์ดคนของใจเธอก็ลดมือบางลงแล้วยิ้มแห้งๆให้เขา เธอทำตัวไม่ถูกกับสายตาคู่คมดุๆของเขาที่มองมา โดยเธอเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาไปหงุดหงิดอะไรมา ทำไมใบหน้าหล่อๆถึงได้มีสีหน้าบอกบุญไม่รับอย่างนี้
"งั้นน้องมิขอตัวเข้าบ้านก่อนนะคะ" เธอพูดต่อประหนึ่งหนีสถานการณ์ตรงหน้า และเมื่อพูดจบเธอก็เหลือบมองไปยังบอดี้การ์ดคนสนิทเล็กน้อยเพื่อเป็นการบอกย้ำทางสายตาเรื่องที่ตกลงกันไว้ แล้วหันหลังเดินหายเข้าไปในประตูบานใหญ่ โดยมีสายตาสองคู่ของบอดี้การส่วนตัวมองตามหลังของเธอจนเห็นว่าเธอเดินหายเข้าไปในบ้าน พวกเขาทั้งสองคนจึงหันกลับมาเผชิญหน้ากันต่อ โดยหารู้ไม่ว่าเด็กสาวได้เดินย้อนกลับมาแล้วแอบอยู่ตรงขอบประตูด้วยความที่อยากรู้ว่าพวกเขาสองคนจะคุยอะไรกัน