นานวันเข้านลินญาก็เฝ้าฝันว่าสักวันเธอต้องได้ลงเอยกับพี่ชายคนนี้แน่ แต่ว่านานวันเข้าเธอก็เพิ่งจะสังเกตว่าพาริชเริ่มกลับบ้านดึก ๆ ดื่น ๆ และเมากลับมาในทุกวันนลินญาคอยแง้มประตูดูอยู่บ่อยครั้งบางทีก็เห็นว่าเขากลับเข้ามาเพียงคนเดียว บ้างก็เห็นว่าเขาเข้ามากับเพื่อนของเขาแต่สิ่งที่ทำให้เธอสะเทือนใจคือเขามักจะมากับผู้หญิงแปลกหน้า และไม่เคยซ้ำหน้าเลยสักครั้ง นลินญารู้สึกได้ว่าสิ่งที่เธอเคยเฝ้าฝันก่อนหน้านี้น่าจะสูญเปล่าไปแล้ว เพราะว่าเขาคนนี้ไม่ได้ชอบเธอเหมือนอย่างที่เธอชอบเขา จากนั้นมานลินญาพยายามจะตีตัวออกหากแต่ทุกครั้งที่เธอเริ่มตีตัวออกหาก พาริชก็มักจะทำดีกับเธอ ไม่ใช่สิเธอต้องพูดว่าเขามักจะทำดีกับเธอแบบนี้อยู่เสมอ จนสุดท้ายเธอก็ต้องวนกลับมารู้สึกดี ๆ กับเขาเหมือนเดิมจนได้
“พี่พ้อยต์ขา วันนี้น้องเอ๋ยอยากไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะจังเลยค่ะ” พาริชไปรับนลินญาที่บ้านของเธอเพื่อกลับมาที่คอนโด เพราะนลินญาอาศัยอยู่คอนโดเดียวกันกับเขาซึ่งแน่นอนว่าเธอจะกลับบ้านทุกสัปดาห์อยู่แล้วและเพราะด้วยความที่เข็มทิศพ่อของเธอยังไม่อนุมัติให้ลูกสาวของตนขับรถได้นลินญาจึงกลายเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของ พาริชไปโดยปริยาย ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องที่เขาลำบากอะไรเพราะเขาเองก็เต็มใจที่จะดูแลน้องสาวคนนี้
ในตอนที่ยังเป็นเด็กเขาเคยเห็นว่าน้องสาวคนนี้ของเขาตัวเล็ก น่ารักเจอ กันทีไรเขาจึงมักจะซื้อขนมติดไม้ติดมือไปให้เธอด้วยเสมอ เด็กน้อยน่ารักคนนี้จะมีอาการดีอกดีใจแล้วรีบวิ่งมาหาเขาทันทีพร้อมกับแย่งขนมในมือทำให้เขารู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่ได้ซื้อขนมมาให้เด็กน้อยคนนี้กิน
“เอางั้นก็ได้ค่ะแต่ว่าพี่ขอไปเคลียร์งานที่บริษัทสักครู่ได้ไหมคะ”
ไม่ว่าพาริชจะไปที่ไหนก็แล้วแต่ เขาไม่เคยทอดทิ้งเธอกลางทางเลยแม้แต่ครั้งเดียว หากเป็นธุระด่วน หรือไม่ด่วนเขาก็มักจะพาเธอติดตัวไปด้วยเสมอหากช่วงเวลานั้นเธอกับเขาอยู่ด้วยกัน นลินญารู้ว่าในสายตาของพาริชที่มองมาที่เธอเขาย่อมมองว่าเธอเป็นเพียงแค่น้องสาวของเขาอย่างแน่นอนเพราะว่าพาริชไม่มีท่าทีอื่นใดนอกจากความเอ็นดูที่มีให้เธอ และความเป็นห่วงเหมือนอย่างที่พี่ชายมอบให้สาวคนหนึ่งในเรื่องนี้นลินญารู้ดี
“พี่พ้อยต์จะเข้าออฟฟิศเหรอคะ”
“ใช่ค่ะ ไม่นานน้องเอ๋ยรอได้ใช่ไหมคะ” พาริชเอี้ยวตัวมาแล้วระบายยิ้มบาง ก่อนจะใช้มือของเขาหยิกไปที่แก้มนุ่มของน้องสาวด้วยความมันเขี้ยว เขาอดใจไม่ไหวจริง ๆ น้องสาวของเขาคนนี้น่ารักน่าหยิกมาก ๆ
“โอ๊ย! เอ๋ยเจ็บนะคะ” เธอยู่หน้าก่อนจะยกมือขึ้นถูแก้มป่องของตัวเอง
“แล้วจะให้เอ๋ยรอที่ไหนเหรอคะ”
“รอในห้องทำงานพี่ไงคะ”
นลินญานั่งอยู่หน้ารถของพาริช เธอมองออกไปด้านนอกตรงท้องถนนด้วยหัวใจดวงน้อยที่เต้นแรงจนกลัวว่าเขาจะได้ยินว่าตอนนี้เธอใจเต้นแรงมากแค่ไหน เธอรู้สึกชื่นชอบเวลาที่ พาริชขับรถ และชอบมากที่สุดเวลาที่เขาขับรถมือเดียว เธอรู้สึกดีเวลาที่เขาพูดจาดี ๆ ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนกับเธอ เพราะเธอรู้สึกเหมือนกับว่าเธอเป็นคนที่พิเศษที่สุดสำหรับเขา แน่นอนว่าเธอเคยได้ยินเขาพูดกับคนอื่น ๆ อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งน้ำเสียงอ่อนโยนอย่างนี้พาริชมีให้เธอแค่คนเดียว จริง ๆ มันคงจะไม่แปลกใช่ไหมหากเธอรู้สึกว่าที่เขาเป็นแบบนี้เป็นเพราะเขาเองก็รู้สึกดี ๆ กับเธอเหมือนกัน
“น้องเอ๋ยรอได้ไหมคะ เดี๋ยวพี่ให้เลขาชงช็อกโกแลตร้อนมาให้”
นลินญาพยักหน้ายอมรับก่อนจะนั่งเงียบ ๆ แล้วแอบยิ้มไปด้วย เธอรู้สึกมีความสุขมากที่ไม่ว่ายังไงเขาก็ยังคงใส่ใจเธออยู่เสมอ เมื่อมาถึงที่บริษัทของเขา ในตอนนั้นเธอเดินลงมาจากรถหรู เธอยังคงจำความรู้สึกได้ความรู้สึกที่เธอเดินเคียงข้างเข้าไปในบริษัทกับเขาโดยที่เหล่าพนักงานต่างก็จ้องมองมาทางเธอ และเขาโดยไม่วางตา ให้ความรู้สึกราวกับว่าเขากำลังประกาศให้คนรู้ว่าเธอคือคนที่พิเศษ และสำคัญที่สุดสำหรับเขา
“รอพี่แป๊บนึงนะคะ พี่ไปประชุมไม่เกินครึ่งชั่วโมง”
เมื่อเข้ามาในห้องทำงานเขาก็จับข้อมือของเธอพาเธอไปนั่งที่เก้าอี้ของเขาซึ่งเธอเข้าใจว่าที่ตรงนี้ย่อมไม่เคยมีใครนั่งมาก่อน นอกจากตัวเขา และตัวเธอเอง ที่ทำงานของพาริชเป็นมหาวิทยาลัยซึ่งเขารับช่วงต่อจากคุณพ่อไทก้าส่วนคุณพ่อกับคุณแม่ของเขานั้น ตอนนี้เกษียณอายุตัวเองมานั่งกินนอนกินอยู่ที่บ้าน บ้างก็พากันไปท่องเที่ยวทิ้งให้ลูกชายอย่างเขาทำงานอยู่คนเดียว โดยลูกชายของเขานั้นยังคงต้องให้เงินเดือนคุณพ่อกับคุณแม่อีกด้วย
“ได้ค่ะ น้องเอ๋ยจะไม่ดื้อไม่ซน” ระบายยิ้มหวานออกไป ดวงตาของเธอเป็นสระอิจนทำให้คนมองอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ ก็น้องสาวของเขาน่ารักเสียขนาดนี้
“น่ารักมากค่ะ” มือใหญ่วางลงที่ศีรษะของเธอก่อนจะมีสีหน้าเข้มขึ้นแล้วโฟนเรียกเลขาให้เข้ามา
“ผมขอช็อกโกแลตร้อนให้น้องเอ๋ยแก้วนึงครับ”
“ได้ค่ะผอ.” ผอ.งั้นหรือพี่พ้อยต์ของเธอเท่ที่สุดในสายตาเธอ ด้วยการแต่งตัวของเขาที่ค่อนข้างดูสะอาดตาราวกับคนอาบน้ำอยู่ตลอดเวลา และกลิ่นหอมของเขาก็มักจะโชยมาแตะจมูกเธออยู่บ่อยครั้งทำให้นลินญาอดไม่ได้ที่จะมองเสี้ยวหน้าของพี่ชายที่เป็นลูกชายของเพื่อนพ่อ โดยที่พาริชไม่รู้เลยว่าเขาสามารถทำให้น้องสาวต่างสายเลือดมองเขาโดยไม่อาจละสายตาได้ เธอรู้ตัวอีกทีก็ตอนที่เขาหันมาแล้วบอกกับเธอว่าเขาต้องไปประชุมแล้ว
“พี่ไปก่อนนะคะ เดี๋ยวรีบกลับมา”
“ตั้งใจทำงานนะคะ” เธอพูดออกไปด้วยน้ำเสียงประหม่าปนเขินอายเล็กน้อยเพราะเธอกลัวว่าเขาจะรู้ถึงความรู้สึกของเธอแต่เธอแค่อยากลองพูดดูสักครั้งเผื่อว่าสถานการณ์ตอนนี้เธอจะสามารถจินตนาการไปได้ว่าเธอกำลังส่งแฟนของเธอไปทำงานโดยที่เธอรอเขาอยู่ที่ห้องทำงานซึ่งมันให้ความรู้สึกชื่นใจอย่างมาก
“ช็อกโกแลตร้อนค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ พี่เลขา” นลินญายิ้มให้อย่างเป็นมิตร ส่วนเลขาเองก็รู้สึกชอบ และถูกชะตากับเธอเหมือนกัน
“ยินดีค่ะ คุณนลินญา” พี่เลขาคนนี้นลินญาเจออยู่บ่อยครั้ง เธอเป็นคนที่น่ารักมาก แถมไม่เคยมีท่าทีใด ๆ ต่อพี่พ้อยต์ของเธอเลยนอกจากความเป็นเจ้านายกับลูกน้องเท่านั้น อีกทั้งยังใจดีต่อเธอมากด้วย นอกจากจะทำช็อกโกแลตร้อนมาให้เธอแล้วพี่เลขาคนนี้ยังมีขนมติดไม้ติดมือให้เธอเสมอ
“เดี๋ยวดิฉันขอตัวทำงานก่อนนะคะ แล้วก็... ขนมกินได้นะคะเวลารอ ผอ. จะได้ไม่เบื่อค่ะ”
“ขอบคุณมากเลยนะคะ” ทุกคนออกไปหมดแล้วนลินญายกแก้วช็อกโกแลตร้อนขึ้นมาเป่าเพื่อให้ความร้อนนั้นหายไปเธอค่อย ๆ ดื่มรับรู้ได้ถึงความรู้สึกอุ่น ๆ ที่ผ่านลำคอไหลลงสู่กระเพาะ จากนั้นเธอวางแก้วช็อกโกแลตร้อนไว้ที่โต๊ะทำงานของพาริชแล้วมองไปทั่วห้อง สายตาของเธอก็สะดุดเข้ากับตัวเธอในตอนเด็กที่พาริชยืนถ่ายรูปคู่กับเธออยู่ เธอจำเหตุการณ์วันนั้นได้เป็นอย่างดีเธอกำลังร้องไห้เพราะหกล้ม และพาริชก็เข้ามาจับเธอยกขึ้น ยื่นอมยิ้มให้เธอหนึ่งอันแล้วพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนอย่างที่สุด
“ไม่เป็นไรเนอะ พี่อยู่ตรงนี้ไม่ต้องกลัว” คิดแล้วก็ขำหลังจากที่ป่าปี๊กดชัตเตอร์ถ่ายรูปเอาไว้เพราะบอกว่าพี่พ้อยต์คือวีรบุรุษช่วยป่าปี๊ในการทำให้เธอหยุดร้องไห้ได้สักที
“ที่แท้พี่พ้อยต์ก็มีใจให้เราเหมือนกัน”
เธอวางกรอบรูปนั้นไว้ที่โต๊ะทำงานในตำแหน่งเดิม ก่อนจะลงจากเก้าอี้แล้วเดินไปรอบห้องทำงานของพาริชซึ่งเต็มไปด้วยเอกสารมากมาย ภายในห้องมีโซฟาสีดำอยู่ตัวหนึ่ง ห้องนี้เป็นห้องเดิมของไทก้าคุณพ่อของพาริชแต่ว่าหลังจากที่ท่านเกษียณอายุแล้ว พาริชก็รับช่วงต่อ และทุกอย่างก็ปรับปรุงตามรสนิยมของตนเองซึ่งรสนิยมของพาริชค่อนข้างดีเลยทีเดียว ทำให้เธอรู้สึกว่ายิ่งเธอได้รู้จักเขามากขึ้นเท่าไหร่เธอก็ยิ่งหลงรักเขามากขึ้นเท่านั้น
นลินญาเอี้ยวตัวกลับมามองไปที่โต๊ะทำงาน นอกจากจะมีชั้นหนังสือที่วางหนังสือเอาไว้มากมายก็ยังคงมีรูปอดีตผู้อำนวยการจากรุ่นสู่รุ่น แน่นอนว่าแม้จะเป็นกรอบเล็ก ๆ ก็ตามที่ติดอยู่ที่ผนังแต่ว่าหนึ่งในรูปบนสุดก็คือผู้อำนวยการคนปัจจุบัน พาริช พิรานนท์ พี่ชายสุดเท่ของเธอเอง
เธอจินตนาการไปว่าเขาต้องเป็นคนเก่งขนาดไหนถึงขึ้นเป็นผู้อำนวยการได้ตั้งแต่อายุยังน้อย แถมยังบริหารทุกอย่างได้เป็นอย่างดี ที่เธอคิดอย่างนั้นเพราะเธอยังไม่เคยเห็นว่าพาริชจะเครียด หรือโมโหอะไรเลยแม้แต่อย่างเดียว เธอเชื่อมั่นว่าทุกอย่างต้องผ่านพ้นไปเป็นอย่างดีแน่นอน นลินญาเดินเข้าไปใกล้รูปภาพนั้นอีกครั้ง มองชายหนุ่มที่เธอหลงรัก ใบหน้าของเขาหล่อเหลาเอาการจริง ๆ อีกทั้งรูปร่างของเขาก็ยัง สมบูรณ์แบบจนเธอรู้สึกว่า เธอไม่รู้จะหาผู้ชายที่เธอสมบูรณ์แบบอย่างเขาได้จากที่ไหนอีก
ในตอนนี้เธอเพิ่งจะอายุเพียงแค่ 17 ปีเท่านั้นเอง ซึ่งห่างกันกับเขาตั้งเก้าปีไม่รู้ว่าเขาจะมีความรู้สึกดี ๆ ให้เธอมากกว่าความเป็นพี่น้องบ้างหรือเปล่า เมื่อคิดได้อย่างนั้นเธอก็รู้สึกห่อเหี่ยวในใจก่อนจะตัดสินใจเดินไปนั่งที่โซฟาเธอนั่งอยู่ไม่นานความเย็นฉ่ำของเครื่องปรับอากาศก็ทำให้เธอรู้สึกง่วงนอนจึงผล็อยหลับไปโดยที่ไม่รู้เลยว่าทุกการกระทำ ทุกท่าทางเพอร์เฟกต์ของเธออยู่ในสายตาของคนคนหนึ่งมาโดยตลอด