ทั้งสองคนมาถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแล้วพาริชอาสาเป็นคนเข็นรถส่วนนลินญาก็เป็นฝ่ายเดินหยิบนั่นหยิบนี่มาใส่รถพร้อมทั้งอธิบายให้ฟังด้วยว่าสิ่งที่เธอหยิบมาเธอจะเอาไปทำอะไรบ้างน้ำเสียงไพเราะน่าฟังของน้องสาวทำให้พาริชฟังอย่างรู้สึกเบื่อเลยสักครั้ง พลางคิดไปถึงว่าตั้งแต่กลับมาดีกันกับน้องสาวในครั้งนี้เขาก็เริ่มรู้สึกว่านลินญาเริ่มเปิดใจให้กับเขามากขึ้นให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าเขาได้กลับไปใกล้ชิดกับเธออีกครั้งหลังจากที่ห่างหายกันไปพักหนึ่ง
“ส่วนกระเทียมกับพริกไทย อันนี้เอาไปเผื่อค่ะ เพราะว่าเผื่อรอบแรกไม่อร่อยจะได้เอาอันนี้มาปรุงเพิ่ม เพราะว่าเป็นรสชาติที่พี่พ้อยต์ชอบใช่ไหมคะ”
ทุกสิ่งทุกอย่างที่นลินญาพูดมาล้วนแต่เป็นคำว่าที่เขาชอบทั้งนั้นพาริชรู้สึกว่านลินญาใส่ใจเขามาก ๆ เขายิ่งรู้สึกว่าตัวเองชื่นชอบการถูกเอาใจใส่แบบนี้ และหากเขามีคนรักสักคน เขาก็คงจะต้องหาคนที่เอาใจใส่เขาให้ได้อย่างน้องสาว หรือหากไม่ได้อย่างน้องสาวก็ขอให้ได้สักครึ่งหนึ่งของเธอก็ยังดี
ร่างบางเดินตรงไปยังโซนเนื้อวัวในวันนี้เธอมัดผมเกล้าขึ้นสูงเป็นทรงหางม้าในชุดนักเรียนมัธยมปลายทำให้พาริชที่มองน้องสาวจากทางด้านหลังเขาเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าต่อให้นลินญาจะดูโตเป็นสาวมากแค่ไหนแต่ก็ยังเป็นเพียงแค่เด็กมัธยมปลายอยู่ดี เขายิ้มบางออกมาราวกับว่ากำลังขำตัวเองเพราะเหมือนกับว่าชั่วแวบหนึ่งเขาเผลอคิดไปว่าการที่นลินญาใส่ใจเขาแบบนี้มันทำให้เขาคิดไปถึงว่าเธออาจจะชอบเขาขึ้นมาก็ได้
ซึ่งเมื่อมองไปที่เธออีกครั้งก็ทำให้พาริชได้รู้ว่าเขาคิดฟุ้งซ่านไปเอง จริง ๆ แล้วน้องสาวของเขาคนนี้ก็เป็นคนอย่างนี้มาตั้งแต่เล็กแต่น้อยแล้ว ยามที่สดใสอารมณ์ดีก็มักจะพูดเก่ง เอาใจเก่ง อ้อนเก่ง แต่พอมีอะไรที่ไม่พอใจเธอจะเลือกเงียบ และตีตัวออกหากจากสิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจทันทีซึ่งพอพาริชย้อนกลับไปคิดดูก็ทำให้เขาได้รู้ว่าเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่เขาพาหญิงสาวมานอนด้วยอาจเป็นจุดที่ทำให้เธอไม่พอใจ และตีตัวออกหากจากเขาก็เป็นได้ เพราะไม่อย่างนั้นเธอจะตีตัวออกหากจากเขาไปทำไมเล่าในเมื่อเธอออกจะติดเขาเสียขนาดนี้
“พี่พ้อยต์คะ เอาเป็นเนื้อหมู หรือว่าเป็นเนื้อวัวดีคะ หรือว่าจะเอาเป็นเนื้อไก่ แต่เอ๋ยคิดว่าเป็นเนื้อวัวน่าจะดีกว่านะคะหมักนมนิดหน่อยก็คงจะนุ่มแล้ว”
“พี่ตามใจน้องเอ๋ยเลยค่ะ น้องเอ๋ยอยากทำให้พี่กินยังไงน้องเอ๋ยก็จัดการได้เลย พี่กินได้หมดแหละยอมเป็นหนูทดลองให้”
ภาพของชายหนุ่มหญิงสาวทำให้คนที่อยู่บริเวณนั้นต่างก็อมยิ้มกันใหญ่ด้วยความเอ็นดูในการเอาใจใส่ของน้องสาวกับพี่ชายขณะเดียวกันนลินญากลับรู้สึกเขินอายที่มีใครหลายคนมองตรงเข้ามากระทั่งมีใครคนหนึ่งเดินเข้ามาใกล้เธอเรื่อย ๆ กลิ่นน้ำหอมที่คุ้นเคยทำให้นลินญารีบหันกลับในทันทีเมื่อเห็นหน้าคนที่เดินเข้ามาใกล้ใบหน้าสวยหวานก็ระบายยิ้มออกมาด้วยความดีใจแม้จะเพิ่งห่างกันมาไม่ถึงสองชั่วโมงเธอก็ดีใจมากแล้ว
“ปิง!”
“ฉันว่าแล้วว่าเสียงนกแก้วนกขุนทองอย่างนี้ต้องเป็นแกแน่ ๆ ยัยเอ๋ย” ตะลิงปิงเพื่อนรักเพียงคนเดียวของนลินญา เธอเองก็มาเดินที่นี่ด้วยเหมือนกันเมื่อสองสาวได้เจอกันอีกครั้งทั้งสองคนก็กระโดดกอดกันราวกับคิดถึงกันมากมายจนพาริชที่ยืนอยู่ข้าง ๆ รู้สึกว่าวันนี้นลินญาโดดเรียนหรือเปล่าทำไมถึงได้มีอาการดีใจราวกับไม่ได้เจอกับเพื่อนมานานแรมปีอย่างนี้
“เอ่อ... พี่สุดหล่อนี่ใครอ่ะ แฟนแกเหรอ” ใบหน้าของนลินญาค่อย ๆ เปลี่ยนสีพวงแก้มใสสองพวงที่น่ารักเปลี่ยนเป็นสีชมพูระเรื่อก่อนจะเริ่มเข้มขึ้น และกลายเป็นสีแดงลามไปจนถึงใบหู และลำคอเธอรีบปฏิเสธตะลิงปิงด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก
“มะ ไม่ใช่ ๆ นี่พี่พ้อยต์พี่ชายเรา”
“อ้อ... พี่ชาย? สวัสดีค่ะ” ตะลิงปิงหันไปทักทายพาริชที่กำลังยืนอยู่อย่างเก้ ๆ กัง ๆ เพราะว่าตรงนี้สองสาวเริ่มเสียงดังทำให้เขารู้สึกเขินอายอยู่บ้างแต่ก็ไม่เท่าไหร่เพราะเขาก็พอจะเข้าใจได้ใช่ว่าเขาจะไม่เคยผ่านช่วงวัยมัธยมปลายมาเสียเมื่อไหร่
“พี่แกหล่อนะ มีแฟนยังคะ” ตะลิงปิงแกล้งเพื่อนรัก พลางหันไปขยิบตาให้กับพี่ชายเพื่อนที่ดูจากอาการของเพื่อนแล้วน่าจะเป็นพี่ชายคนสำคัญเลยทีเดียว
เพียะ!
“ยัยปิง!”
“ฉันก็แค่แซวป่ะ แกก็หวงพี่เกิ๊น” คำพูดของตะลิงปิงทำให้พาริชอดยิ้มออกมาไม่ได้ นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกดีกับการที่มีผู้หญิงมาหวงเขา อาจจะเป็นเพราะผู้หญิงคนนั้นเป็นน้องสาวของเขาคนนี้อย่างไรล่ะ
“พอเลย ๆ แกมาทำอะไรเนี่ย”
“มารอพ่อน่ะ แล้วแกล่ะ” ตะลิงปิงชะเง้อคอมองไปที่รถเข็นของนลินญาที่มีวัตถุดิบการทำอาหารเต็มไปหมด
“ฉันมาซื้อของกับพี่พ๊อยต์กำลังจะกลับไปทำสเต๊กกิน แกอยากกินด้วยปะ เดี๋ยวพรุ่งนี้เอาของเหลือไปให้”
“เลวทราม! แกมันเลวทรามจริง ๆ นะยัยเอ๋ย” สองเพื่อนสาวต่างก็หัวเราะคิกคักโดยที่ไม่สนใจเลยว่าบรรยากาศรอบข้างในตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง แน่นอนว่าทุกอย่างที่เป็นทั้งสองคนเมื่อรวบรวมกันแล้วก็กลับกลายเป็นความสดใส และใครหลายคนก็ไม่ได้สนใจภาพเหตุการณ์ตรงหน้าสักเท่าไหร่ทุกคนต่างก็ทำธุระของตัวเองไป
“พ่อฉันส่งข้อความมาแล้ว ฉันไปก่อนนะ พรุ่งนี้เจอกัน”
“โอเค พรุ่งนี้เจอกันมาเช้า ๆ ด้วยนะ”
“รู้น่า แล้วก็อย่าลืมเอาสเต๊กเหลือ ๆ มาให้ฉันกินนะ” ตะลิงปิงย่อมรู้แน่นอนว่าฝีมือของนลินญานั้นอร่อยยิ่งกว่าเชฟที่เธอเคยไปกินเสียอีก
หลังจากซื้อของกันเรียบร้อยแล้วนลินญากับพาริชต่างก็ช่วยกันยกของขึ้นมาบนห้องครั้งนี้มาทำอาหารที่ห้องของนลินญาเหมือนเดิมเพราะนลินญารู้สึกถนัดมากกว่า แต่ในขณะเดียวกันทั้งสองคนต่างก็ช่วยกันทำนั่นทำนี่ไปด้วยพาริชกลายเป็นลูกมือของเธอโดยสมบูรณ์ในตอนที่กำลังช่วยกันจัดแจงข้างของร่างกายของทั้งสองก็ใกล้ชิดกันโดยไม่ได้ตั้งใจ คนหนึ่งไม่ได้รู้สึกอะไร แต่อีกคนกลับรู้สึกใจเต้นทุกครั้งที่ได้กลิ่นอายของความใกล้ชิดคืบคลานเข้ามา
นลินญาเขย่งปลายเท้าเลื่อนขึ้นตั้งใจจะหยิบเครื่องปั่นที่เธอเอาวางไว้ในตู้เก็บของที่อยู่ด้านบนแต่ว่าในตอนนี้เก้าอี้ที่ใช้สำหรับหยิบของจากที่สูงมันไม่ว่างเพราะว่าพาริชเอาไปใช้วางของเสียได้เธอจึงพยายามหยิบอย่างสุดความสามารถแต่ด้วยความสูงที่เธอมีเพียงแค่ 156 เท่านั้นทำให้พาริชที่สูงเกือบ 180 ต้องเดินมาหยิบให้มือหนึ่งจับไหล่เล็กของเธออีกมือหนึ่งเปิดตู้ด้านบนแล้วหยิบเอาเครื่องปั่นลงมาให้
“อันนี้เหรอคะ”
“ค่ะ” หัวใจดวงน้อยเริ่มสั่นไหวให้เขาอีกครั้งมือใหญ่ของเขายังคงจับอยู่ที่บ่าเล็กของเธอ และแน่นอนว่าเขาทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงจนแทบจะกระเด็นออกมาอยู่แล้ว หรือว่าเขาเองก็มีความรู้สึกดี ๆ ให้เธอเหมือนกัน หรือว่าเธอจะมีหวังในเรื่องนี้หรือเปล่า
“พี่พ้อยต์คะ เอ๋ยอยากถามนานแล้วค่ะ คือพักนี้เอ๋ยไม่ค่อยเห็นพี่สูบบุหรี่เหมือนพี่ ๆ คนอื่นเลยค่ะ” เมื่อก่อนเธอเห็นอยู่บ้างว่าเขาสูบบุหรี่อยู่บ่อย ๆ
“พี่เลิกแล้วค่ะ” ใบหน้าสวยขมวดคิ้วยุ่งเงยขึ้นมองพี่ชายของเธอที่ก้มหน้าลงมามองเธออยู่พอดีส่งผลให้สายตาทั้งสองคนประสบกันอย่างลึกซึ้ง แทนที่จะได้คำตอบแต่กลับได้เป็นความเงียบ และเสียงหัวใจที่ดังขึ้นมาแทน
“เอ่อ... เลิกทำไมเหรอคะ แต่เลิกก็ดีแล้วล่ะค่ะเพราะว่าสูบมาก ๆ มันไม่ดีต่อสุขภาพ” นลินญาที่ได้สติก่อนพาริช เธอรู้สึกว่าเหตุการณ์แบบนี้มันทำให้เธอวาบหวิวอย่างไรแปลก ๆ เธอจึงได้พูดแย้งขึ้นมาเพื่อให้คนทั้งคู่หมายถึงทั้งเธอ และเขาต่างก็ได้สติ
“ก็น้องเอ๋ยไม่ชอบนี่คะ”
พาริชไม่ได้พูดเกินจริง และไม่ได้พูดเอาใจน้องสาวแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะว่ามีครั้งหนึ่งที่เพื่อนของเขามาหาเขาถึงที่ห้อง เขาจึงรบกวนให้นลินญาช่วยทำอาหารไปเสิร์ฟให้หน่อยซึ่งเธอก็ยินยอม ขณะที่เธอเอาอาหารไปเสิร์ฟให้นั้นเพื่อนของเขารวมถึงตัวเขาด้วยต่างก็กำลังสูบบุหรี่ด้วยความเพลิดเพลินใจตามสไตล์ของผู้ชายแต่ว่าเขากลับหันไปเห็นว่านลินญากำลังแอบไออยู่เงียบ ๆ เขาจึงได้ส่งสัญญาณบอกเพื่อนว่าให้ดับบุหรี่ทิ้งจากนั้นเป็นต้นมาเขาจึงพยายามเลิกบุหรี่แล้วเปลี่ยนมาเป็นการเคี้ยวหมากฝรั่งแทนในตอนที่เขารู้สึกอยากสูบบุหรี่ขึ้นมาอีกทั้งยังสั่งเพื่อนอีกว่าหากจะมาหาเขาที่ห้องต้องไปสูบบุหรี่ที่ระเบียงนอกห้องเท่านั้น
“พี่พ้อยต์รู้ด้วยเหรอคะ” คำตอบของเขายิ่งทำให้เธอรู้สึกประทับใจในตัวเขามากขึ้นกว่าเดิมไปอีก
“รู้สิคะ น้องสาวของพี่ทั้งคน พี่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษอยู่แล้ว” พูดจบแล้วยิ้มบางส่งให้เธอก่อนจะจับคนตัวเล็กหมุนตัวไปอีกทางเพื่อเริ่มทำอาหารได้แล้วเขาเริ่มหิวแล้ว
“พี่เริ่มหิวแล้วค่ะ น้องเอ๋ยลงมือทำได้แล้วค่ะ”
“รับทราบค่ะ” น้ำเสียงสดใสของหญิงสาวเปล่งออกมานั่นทำให้พาริชยิ้มออกมาด้วยความสุขใจก่อนจะหันไปช่วยน้องสาวทำนั่นทำนี่โดยที่ไม่รู้เลยว่าความใกล้ชิดแบบนี้ทำให้ใครอีกคนกำลังถลำลึกลงไปรวมถึงตัวเขาเองด้วยโดยไม่รู้ตัว