บทที่2
โอมจงรัก โอมจงหลง
5ปีผ่านไป....
วันนี้เป็นวันเกิดของฉัน วันเกิดหรือวันที่ฉันได้มาอยู่ที่กองขยะนั่นแหละ อยากจะบอกว่าฉันอายุครบ15แล้วนะ และก็เป็นอีกปีที่พี่ตะวันไม่อยู่ ทำไมแค่ FaceTime คุยกันเหมือนทุกปี ถึงพี่ตะวันจะไม่อยู่แต่ฉันกับพี่ตะวันก็คุยกันตลอด
“มาทำบุญทำไมแกทำหน้าเหมือนจะตายเลยซิน” ซินเป็นยังไงก็คงเป็นแบบนั้น ทุกวันนี้พี่โซ่ต้องเป็นฝ่ายขอคุยกับนาง เพราะนางซินไม่อยากคุยแค่ได้ยินเสียงก็ทำปากขมุบขมิบแล้ว
“ร้อนค่ะ แกเนี่ยเหมาะที่จะอยู่กับแม่ฉันมากเลยจันทร์เจ้า โคตรเรียบร้อยแถมยังรักษาศีลอีก หญิงไทยใจงามต่างจากฉันราวกับฟ้ากับเหว”
ฉันส่ายหัวให้นางซินก่อนจะลุกเอาดอกไม้ไปถวายพระประธาน
“จันทร์เจ้าวันนี้พี่โซ่กับพี่ตะวันโทรมาอวยพรวันเกิดหรือยังลูก” ป้ากานดารีบถามหลังจากที่ฉันถวายดอกไม้กับพระประธานเสร็จ ฉันจึงค่อยๆ คลานไปนั่งข้างคุณพ่อกับคุณแม่
“เมื่อวานคืนพี่ตะวันบอกว่าเรียนหนักมาก หนักกว่าเพื่อนที่เรียนที่ไทยอีกค่ะ ป่านนี้คงพักผ่อนกันอยู่^^”
“แม่พระมาโปรดอย่างพี่โซ่ป่านนี้คงขั้วหญิงอยู่นั่นแหละไม่มีอะไรหรอก คืนก่อนซินเห็นลงสตอรี่นอนกับสาวฝรั่งผมทองอยู่ ทำตัวไม่เหมาะกับเป็นว่าที่คุณหมอเลย!”
“ซินเรานี่ยังไง เฮ้อเหนื่อยใจจริงๆ เลย สายธารตะวันมีแบบเจ้าโซ่บ้างไหม ฉันไปรอบนี้จะได้เอาก้านมะยมปลุกเสกไปด้วย”
“ลับหลังฉันไม่รู้หรอกพี่ดา เท่าที่รู้ถ้ามีเวลาสองพี่น้องเขาจะโทรคุยกันตลอดเลย”
“เอาหน่าคุณ ลูกเรียนหนักเรื่องแบบนี้มันก็ต้องมีผ่อนคลายกันบ้าง ไปกันเถอะเดี๋ยวพวกเราต้องไปเลี้ยงฉลองวันเกิดหนูจันทร์เจ้าอีก”
หลังจากเข้าวัดทำบุญทุกคนก็มาร้านอาหารอีสานที่หรูหราติดแอร์เย็นฉ่ำ ฉันชอบมากชอบที่สุดแต่พี่ตะวันไม่ชอบให้ฉันกินของพวกนี้ แต่วันนี้ฉันขออนุญาตแล้วค่ะ
“แกอิพี่โซ่มันเอาอีกแล้ว!”
ฉันหันไปมองหน้าจอโทรศัพท์ของนางซิน สตอรี่ไอจีของพี่โซ่เมื่อ6ชั่วโมงที่แล้ว พี่โซ่กำลังกอดคอร้องเพลงมือถือขวดเหล้ากับผู้หญิงผมทอง จนคลิปเลื่อนไปยังอีกหน้านึง งานเลี้ยงไม่ได้มีแค่พี่โซ่แต่มีพี่ตะวันนั่งจูบกับผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ที่โต๊ะด้านหลัง ฉันจำได้ จำพี่ตะวันได้
“เฮ้ย คุณแม่พี่ตะวันก็เสียคนด้วยค่ะ ดูสิอิพี่โซ่พาพี่ตะวันเสียคนไปแล้ว ตายๆ แบบนี้ต้องตัดหางปล่อยวันนะคะคุณแม่!!”
ทุกคนเห็นคลิปนั้นก็ยกมือทาบอกกันเป็นแถว แม้แต่ฉันเองก็ตกใจพูดอะไรไม่ออก กลับมาถึงบ้านฉันก็ขอตัวขึ้นไปอ่านหนังสือ แต่จิตใจกลับอยากรู้เรื่องราวจึงลองโทรหาพี่ตะวันจนสายเกือบตัดเขาจึงกดรับสายแต่ไม่ยอมเปิดกล้อง
การสนทนา
“ฮัลโหลหนูโทรมากวนพี่หรือเปล่าคะ”
(ไม่เลย วันนี้วันเกิดเรานี่หน่า พี่ขออวยพรให้น้องสาวของพี่เรียนเก่งๆ มีความสุขมากๆ ร่างกายแข็งแรงไม่เจ็บไม่จน อยู่เป็นน้องสาวที่น่ารักของพี่กับไอ้โซ่ตลอดไปนะครับ)
“ขอบคุณค่ะ ทำไมวันนี้ไม่เปิดกล้องคะ”
(พี่ปิดไฟนอนครับ แสงมันเข้าตาไว้พี่ตื่นแล้วจะโทรหานะ อึก! อ๊า...)
“พี่ตะวันเป็นอะไรคะ ไม่สบายหรือเปล่า”
(ปะ เปล่าครับ งั้นแค่นี้ก่อนนะจันทร์เจ้าเดี๋ยวพี่โทรหา ซี๊ดดดด)
จบการสนทนา
ทำไมเสียงของพี่ตะวันดูสั่นๆ สงสัยเขาจะไม่สบายฉันจึงรีบไลน์ไปหาพี่โซ่ให้ไปดูอาการของพี่ตะวันหน่อย เขาเสียงสั่นๆ เหมือนจะไม่สบาย แต่เวลานี้พี่โซ่คงยังไม่ตื่นง่ายๆ
วันต่อมา....
ฉันนั่งเรียนอยู่กับนางซิน ตอนนี้นางซินกำลังสวดคาถามหาเสน่ห์ของอาจารย์คง พร้อมพนมมือไหว้รูปจินยองอยู่ข้างๆ ไม่รู้มันเป็นบ้าอะไรอีก
“แกทำอะไรเนี่ยซิน!”
“จุ๊ๆๆ โอมจงรัก โอมจงหลง โอมจงเป็นเนื้อคู่กูแต่เพียงผู้เดียว”
ไร้สาระมาก พี่น้องคู่นี่นี่ทำเอาฉันปวดหัวจริงๆ ถึงเวลาเลิกเรียนวันนี้คุณป้ากานดาเป็นคนมารับ เพราะคุณป้าต้องไปคุยกับคุณแม่ถึงเรื่องเดินทางไปเยี่ยมพี่โซ่กับพี่ตะวันที่อเมริกา
“กรี๊ดดดด”
“แกเป็นอะไร!” ฉันรีบหันไปถามนางซินที่ส่งเสียงกรี๊ดจนคุณป้าแทบจะหัวใจวาย
“ซินเป็นอะไรลูก!!”
“คุณแม่ แกดูนี่สิฉันได้สิทธิ์เข้าถ่ายรูปตัวต่อตัวกับจินยองด้วย แกคาถาของอาจารย์คงได้ผลจริงๆ”
กลับถึงบ้านฉันก็ถูกเรียกมานั่งคุย อาทิตย์หน้าปิดเทอมฉันจะได้ไปหาพี่ตะวันกับพี่โซ่1อาทิตย์ ฉันโคตรดีใจเลยในที่สุดฉันก็จะได้เจอพี่ตะวันแล้ว
การเดินทางในครั้งนี้ผู้ใหญ่ทุกคนจะไม่บอกให้สองหนุ่มรู้ตัว เพราะแม่ๆ คงอยากจะไปเซอร์ไพรส์ลูกชายของตัวเองด้วย
“ซินขอไปเกาหลีได้ไหมคะ ซินจะไปหาจินยองค่ะ”
“ไร้สาระหน่าซิน งั้นเอาตามนี้เลยก็แล้วกัน จันทร์เจ้าไปถึงหนูอย่าลืมอ้อนพี่โซ่เยอะๆ นะลูก”
ฉันไม่ได้ตอบอะไรไปเพราะฉันไม่เข้าใจว่าคุณป้าจะให้ฉันไปอ้อนพี่โซ่ทำไมกัน
“ทำไมต้องอ้อนพี่โซ่ด้วยคะคุณแม่” ซินถามด้วยความสงสัยจนผู้ใหญ่มองหน้ากันแล้วกลบเกลื่อนไปคนละเรื่อง
“ก็พี่โซ่ของเรามันสายเปย์ไงซิน แม่แค่อยากให้หนูจันทร์เจ้าปอกลอกพี่ชายเราเยอะๆ ดีกว่าเอาเงินไปเที่ยวผู้หญิง”
“ถ้างั้นต้องอ้อนพี่ตะวันด้วยค่ะ ซินเห็นพี่โซ่ลงรูปพี่ตะวันจูบกับผู้หญิง เดินจับมือกับผู้หญิงทุกวันเลย”