คอนโด VV
พรึ่บ!!!
“เฮ้ออออออ”
ฉันทิ้งตัวนอนบนเตียงกว้างก่อนจะถอนหายใจแรง ๆ ออกมาเพราะเรื่องที่เกิดขึ้น ฉันร้องในห้องน้ำแล้วก็ออกทำงานปกติพยายามหลีกเลี่ยงซอลให้มากที่สุด เพราะฉันรู้ว่าเขาคอยหาช่องทางจะเข้าหาฉันตลอด
คำถามที่ทุกคนอาจจะสงสัยว่าฉันไม่รู้จริง ๆ เหรอว่าซอลเป็นใคร?
หึ มันไม่ใช่เลยที่ฉันจำเขาไม่ได้ฉันจำได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เราเจอกันแล้ว เพียงแต่สถานะของเราตอนนี้มันไม่อาจจะแสดงความรู้สึกอะไรออกไปได้เพราะงั้นฉันเลยต้องพยายามหลีกเลี่ยงเขาก่อนในตอนนี้
อาจจะดูใจร้ายแต่ฉันไม่อยากเขามีประวัติที่ไม่ดีและการเราที่จะมีความสัมพันธ์ขณะที่เป็นอาจารย์และนักศึกษามันคงดูไม่ดีเท่าไหร่นักเพราะงั้นจึงแกล้งเป็นจำเขาไม่ได้ยังไงละแม้จะรู้สึกผิดแต่ตอนนี้เป็นแบบนี้ดีที่สุดแล้ว
บอกเลยว่าตอนเห็นน้ำตาของเขาอยากกอดและปลอบมาก ๆ แต่มันไม่สามารถทำได้ฉันเองก็ต้องรู้หักห้ามใจตัวเองเช่นกันเพราะฉันเป็นอาจารย์แม้ว่าจะแค่ผู้ช่วยไม่กี่เดือนก็เถอะแต่ฉันก็ควรจะต้องวางตัวให้ดีไม่ใช่เหรอ?
และอีกเรื่องฉันดีใจมาก ๆ ที่ยังจดจำฉันได้และรักษาสัญญาเอาไว้ทั้งที่นั่นเป็นเพียงคำสัญญาเด็ก ๆ เท่านั้น เขาตั้งใจเรียนตามที่ฉันบอกเอาไว้ เขารอฉัน และจำได้ดีเสมอแต่ฉันนี่สิที่ใจร้ายและพยายามหลีกเลี่ยงเสมอ...
“ขอโทษนะซอล...” ตอนนี้ฉันทำได้เพียงเท่านี้จริง ๆ
Rrrr
เสียงโทรศัพท์ของฉันดังขึ้นฉันมองดูเป็นเบอร์แปลกตอนแรกว่าจะไม่รับแต่เขาโทรมาหลายสายจนต้องรับ
“ฮัลโหลค่ะ”
(สวัสดีครับวิวาห์พี่เองนะ...) เสียงคุ้น ๆ แต่ฉันก็ยังนึกไม่ออกเพราะฉันไม่ค่อยมีเพื่อนที่ไทยเท่าไหร่นัก
“เอ่อ..ไม่ทราบว่านั่นใครเหรอคะ?” ฉันถามเมื่อไม่แน่ใจจริง ๆ
(อะไรกันไม่เจอกันสองปีลืมแล้ว หึ ไงพี่กิตที่เป็นรุ่นพี่เรา)
“อ๋อออ พี่กิตนี่น่าขอโทษนะคะที่จำไม่ได้ แหะ ๆ” ฉันได้แต่ยิ้มแก้เขินไปเพราะว่าฉันพึ่งนึกออก เขาเป็นรุ่นพี่มหาวิทยาลัยและกลับมาไทยก่อนเลยไม่ได้เจอหรือคุยกันเท่าไหร่ เราไม่ได้สนิทกันด้วย
(ไม่เป็นไรครับ อยู่ ๆ พี่ก็โทรหาเราคงตกใจมากละสิ)
“ค่ะ ว่าแต่พี่อะไรกับฉันเหรอคะ?” ก็บอกแล้วว่าเราไม่ได้สนิทกัน
(เอ่อ อ๋อ! คือพี่ได้รู้มาว่าเรามาทำงานที่ไทยเลยอยากชวนทานข้าวด้วยกันสักมื้อน่ะ เพราะเราคงไม่ได้มีเพื่อนในไทยเท่าไหร่)
“ค่ะ ก็ได้ค่ะไม่ได้มีปัญญาอะไรอยู่แล้ว”
(งั้นเราว่างวันไหนละ?)
“น่าเสาร์อาทิตย์หรือไม่ก็ช่วงเย็นน่ะค่ะเพราะฉันทำงาน”
(งั้นเอาไว้พี่นัดอีกทีแล้วกันนะ)
“ได้ค่ะ งั้นวางนะคะ” เพราะวันนี้ฉันเหนื่อยมากแล้วไม่พร้อมจะคุยกับใครยาว ๆ หรอก
(ครับ)
เมื่อวางสายแล้วฉันลุกไปอาบน้ำเพื่อพักผ่อน...
หลายวันต่อมา
มหาวิทยาลัย M
พรึ่บ!!!
“ฟู่วววววว” ฉันหลบเข้ามุมตึกเมื่อเห็นว่าซอลเดินผ่านมา หลายวันที่ผ่านมาฉันพยายามหลบหน้าของเขาเพราะฉันไม่อยากทำร้ายเขาไปมากกว่านี้ เพราะงั้นแค่อดทนให้จบเทอมนี้ก็พบและเราก็ค่อยมาว่ากันใหม่ ตอนนั้นเขาอาจจะไม่ได้ต้องการฉันแล้วก็ได้ แต่ไม่เป็นไรเพราะฉันเองที่ทำลายมัน....
“เกือบไปแล้ว...” ฉันออกจากที่ซ่อนจะเดินกลับไปที่ห้องพัก
หลายชั่วโมงต่อมา
ตอนนี้ได้เวลากลับแล้วเพราะไม่มีวิชาที่ต้องตามอาไกรศรไปสอนฉันเองก็เลยสามารถกลับได้ทันที
“อาจารย์วิวาห์จะกลับแล้วเหรอครับ?” เสียงของอาจารย์เบนถามฉันเขาเป็นเป็นอาจารย์ในคณะที่อายุน้อยที่สุดที่ได้รับการบรรจุแล้วทั้งเก่งทั้งหล่อ แต่สำหรับก็แค่เพื่อนพร่มงานเท่านั้น
“ค่ะ อาจารย์เบนมีอะไรหรือเปล่าคะ?”
“ได้ข่าวว่าอาจารย์วิวาห์ยังไม่มีรถเลยจะไปส่งน่ะครับ เป็นผู้หญิงเดินคนเดียวมันอันตราย”
“เอ่อ ขอบคุณนะคะแต่ว่าวันนี้คงไม่ได้เพราะฉันนัดแล้วน่ะค่ะ” ฉันบอกออกไปแต่ความจริงฉันโกหกแค่ไม่อยากปฏิเสธน้ำใจ แต่ฉันก็ไม่อยากไปกับเขาอยู่ดี
“อ่องั้นไม่เป็นไรครับ”
“ค่ะ งั้นฉันขอตัวนะคะ” ฉันลาก่อนจะกระเป๋าและเดินออกมาห้องพักเพราะอยากกลับไปนอนแล้ว วันหนึ่งฉันเสียพลังงานมากไม่ใช่เรื่องการสอนแต่เป็นเรื่องซอลต่างหากฉันต้องพยายามหลบเขาและมองหาอยู่ตลอดมันเลยเหนื่อยกว่าเดิมสองเท่า
ตึก...ตึก..ตึก...
“วิวาห์!!” เสียงของพี่กิตเรียกพร้อมกับโบกมือส่งสัญญา
เขามาที่นี่ได้ยังไง โอเค! เป็นฉันเองที่เคยบอกเรื่องนี้กับเขาเอาไว้เพราะเขาชอบโทรมาคุยด้วยแต่ไม่คิดว่าเขาจะมาหาฉันถึงที่นี่เลยสักนิด
“เอ่อ สวัสดีค่ะพี่กิต^^”
“ครับ พี่มาทวงสัญญาเรื่องไปทานข้าวด้วยกันน่ะครับ” เขาบอก อ่า เขาชวนฉันอยู่แต่ฉันปฏิเสธไปหลายครั้ง ครั้งนี้เลยมารับฉันถึงที่นี่เลยเหรอ?
ถ้าทางคงไปต้องสินะ....
“อ๋อ ได้ค่ะพี่กิตอุตส่าห์มารับนี่น่า” ครั้งนี้มันปฏิเสธไม่ได้แล้วแต่คงต้องเสนอระยะห่างมากกว่านี้ซะแล้ว
“งั้นเชิญเลยครับ...” พี่กิตบอกก่อนจะเปิดประตูให้ฉัน
“ขอบคุณนะคะ”
ปึก! ฉันนั่งในรถก่อนจะมองออกไปพบว่าซอลกำลังมองทางฉัน...
ทำไมต้องมาเจอกันในสถานการณ์แบบนี้นะ...
ร้านอาหาร P
ตอนนี้เรามาที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งแล้วแต่ฉันยังไม่สามารถสะบัดภาพซอลที่กำลังยืนมองฉันออกไปได้ ฉันไม่อยากใจร้ายไปมากกว่านี้แล้วแต่มันก็ไม่ใช่ที่เหมาะสมเท่าไหร่นัก ไม่ใช่ว่าไม่รักแต่มันไม่สามารถแสดงออกไปได้ในตอนนี้...
“วิวาห์เหม่ออะไรครับ?”
“คะ...คะ?” ฉันที่จับเมนูอยู่นานแล้วแต่ยังไม่สั่งพี่กิตเลยเรียกฉัน
“สั่งอะไรดีครับ?”
“เอ่อ เอาตามที่พี่กิตสั่งแล้วกันค่ะเพราะฉันทานอะไรก็ได้^^” ฉันบอกก่อนวางเมนูลงและหยิบน้ำขึ้นมาดื่มรอ...
“ได้ครับ...”
ชั่วโมงต่อมา...
แกร๊ด!
“เอ่อ พี่กิตค่ะฉันของตัวไปเข้าห้องน้ำนะคะ” ฉันบอกเมื่อเราทานอาหารกันเรียบร้อยแล้ว
“ได้ครับ เดี๋ยวเรียกเก็บเงินเลยแล้วกันและเจอหน้าร้านโอเคไหมครับ?” พี่กิตเสนอ
“ค่ะ เรื่องค่าอาหาร...”
“มื้อนี้พี่เลี้ยงครับ โทษฐานที่พี่มัดมือชกเรามา”
“เอ่อ ก็ได้ค่ะงั้นเอาไว้รอบหน้าฉันเลี้ยงกลับแล้วกันค่ะ งั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ” ฉันบอกก่อนจะเดินออกมาจากร้านเพื่อไปห้องน้ำก่อน
ซ่าาาา~
หลังจากที่ทำธุระเรียบร้อยแล้วฉันก็ล้างมือก่อนจะออกไปเพราะป่านนี้พี่กิตคงกำลังรออยู่ก่อนแล้ว....
หมับ!!!
“ว้ายยย อุ๊บ!” ฉันร้องอย่างตกใจก่อนจะโดนปิดปากจากคนที่กระชากแขนของฉัน ฉันรู้สึกกลัวขึ้นมาทันทีเพราะเขากอดฉันเอาไว้แน่ มันลากฉันมาทางบันไดหนีไฟ
“อือออออ อ่อยนะ!!!” ฉันพยายามดิ้นและร้องบอกให้เขาปล่อยฉัน
“ชู่วววว ช่วยอยู่นิ่ง ๆ หน่อยได้ไหมครับ?” กึก! เสียงที่คุ้นเคยทำให้ฉันชะงักไปทันที
ซอล...
เสียงนี้ฉันจำได้ดีเลยละ...
“ถ้าผมปล่อยมืออย่าร้องตกลงไหม?” เขาถามฉันรีบพยักหน้าทันที
พรึ่บ!!
“ทำบ้าอะไรของนาย?!” ฉันรีบถามอย่างเคือง ๆ เพราะฉันตกใจและกลัวมาก ๆ
“เหอะ!! ทำอะไร?!! พี่นั่นแหละทำอะไรกล้ามากับผู้ชายคนอื่นได้ยังไงวะ?!!” ปึก!!! เขาผลักฉันเข้ากำแพงก่อนจะใช้แขนกักฉันเอาไว้
“พูดดี ๆ นะซอลพี่กิตเขา...”
“อย่าเรียกชื่อมัน!!” เขาพูดเสียงดังจนฉันสะดุ้งตกใจ
“ซะซอลใจเย็น ๆ นะ เขาเป็นแค่รุ่นพี่ที่มหาลัยเท่านั้นมันไม่มีอะไร...” ฉันพยายามอธิบายให้เขาเข้าใจจะได้ไม่โมโหไปมากกว่านี้
“ผมบอกแล้วไงว่าผมจะไม่ทน... พี่จะได้เห็นดีแน่ผมเตือนไปแล้ววันนั้น”
“ซอลฉันไม่ใช่..”
“ใช่!!! พี่คิดว่าซอลจำพี่ไม่ได้เหรอวะแค่เดินเห็นเงาก็จำได้แล้วเว้ย!!แล้วทำไมพี่ไม่ยอมรับละว่าจำผมได้...” ปึก! เขาทิ้งหัวที่ไหล่ของฉัน
“มะมันไม่ใช่แบบนั้น...” ฉันเองก็เริ่มทนไม่ได้แล้วฉันอยากทำให้เขาเจ็บไปมากกว่านี้แล้ว ฉันสงสารซอล
“แล้วแบบไหน...”
Rrrr
เขายังไม่ทันพูดจบเสียงโทรศัพท์ของฉันก็ดังขึ้นคงเป็นพี่กิตที่โทรตาม ฉันหยิบก่อนจะดูและกดรับสาย
“ฮัล...อุ๊บ!!!!”
และเรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อซอลจูบลงมา