ตอนที่1.เมื่อชีวิตเริ่มมีความหวัง

1568 คำ
ตอนที่1.เมื่อชีวิตเริ่มมีความหวัง “ยายจ๋าไปไหนมาแต่เช้าเลย?” ข้าวขวัญตะโกนถามลำดวนที่เดินกระย่องกระแย่งมาตามทางโรยกรวดเม็ดเล็กๆ บริเวณหน้าบ้าน “กลับมาแล้วเรอะ!!” ลำดวนไม่ได้ตอบ หลังวางตะกร้าที่เต็มไปด้วยผักสดลงบนแคร่หน้าบ้าน ก็รีบถามหลานสาวที่กำลังทำอะไรบางอย่างอยู่ในครัว “เพิ่งกลับมาค่ะยาย วันนี้ข่ายติดปลาเยอะมากเลย เดี๋ยวข้าวทำปลาต้มเค็มให้ยายกินนะคะ” ข้าวขวัญตอบแล้วก็ส่งยิ้มให้ ลำดวนส่ายหน้ากวักมือเรียกหลานสาว “มาหายายแปบสิข้าวเอ๋ย” “ให้ข้าวทำกับข้าวเสร็จก่อนไม่ได้เหรอคะยาย” ข้าวขวัญท้วง “จุดเตาหรือยัง ถ้ายังมาหายายก่อน ยายมีเรื่องจะบอก” ลำดวนถามต่อ ข้าวขวัญเลยวางมือเดินมาหาลำดวนก่อน ลำดวนยกมือลูปศีรษะหลานสาว เด็กน้อยที่ลำดวนฟูมฟักมาอย่างดี แม้จะอดมื้อกินมื้อข้าวขวัญก็ไม่เคยบ่น เด็กดีๆ แบบนี้หากอนาคตจบแค่คนทำงานหนัก หาเช้ากินค่ำมันก็น่าเสียดาย “ข้าว อยากเรียนต่อไหมลูก?” เป็นคำถามที่สะเทือนใจทั้งคนถามและคนที่ต้องตอบ ข้าวขวัญรู้ดี เธอหมดโอกาสที่จะเรียนต่อนานแล้ว ยายที่อายุมาก ทำงานหนักไม่ไหวแล้ว มีรายได้ทางเดียวจากบัตรสวัสดิการของรัฐเดือนละหกร้อยบาท ซึ่งไม่พอกินในแต่ละเดือนด้วยซ้ำ “ไม่หรอกยาย ข้าวอยากทำงานแล้ว” ข้าวขวัญเม้มปากหลังตอบยาย “ไม่ต้องมาโกหกยายหรอกข้าวเอ๋ย ข้าวอยากเรียนต่อยายรู้” ข้าวขวัญส่ายหน้า “ไม่จริงๆ ค่ะยาย ต่อให้ข้าวมีโอกาสได้เรียน ข้าวก็ไม่ไปเรียนหรอก” หากข้าวขวัญรับโอกาสนั่น แล้วยายละจะอยู่ยังไง ยายลำดวนที่อายุเฉียดเจ็ดสิบปี ความที่ทำงานหนักมาทั้งชีวิต บั้นปลายชีวิตของลำดวนเลยเจ็บออดๆ แอดๆ “ทำไมละลูก?” ลำดวนถามต่อ “ข้าวไม่ทิ้งยายไปไหนหรอกค่ะ จากนี้ไปข้าวจะดูแลยายเอง” ข้าวขวัญพูดพร้อมกับยิ้ม หากเป็นไปได้ ข้าวขวัญอยากให้ชีวิตต่อจากนี้ของลำดวนได้สบายบ้าง เธอจะขยันทำงาน เก็บออมเงิน สิ่งแรกคือการสร้างบ้านใหม่ให้แข็งแรงกว่าที่เป็นอยู่ ซึ่งคงต้องเก็บเงินอีกหลายปี กว่าจะมีเงินก้อนนั้น “ข้าวจำพี่นิดาได้ไหม?” ลำดวนถามทะลุกลางปล้อง หลังข่มความเศร้าในใจไว้มิดชิด ข้าวขวัญพยักหน้ารัวๆ เรื่องของนิรดากลายเป็นตำนาน เด็กสาวที่ไปเผชิญโชคที่ต่างประเทศ จนสามารถส่งตัวเองเรียนจบ และโชคดีขนาดพิชิตใจเจ้าของสวนเชอร์รี่ที่เบลเยียมได้ “ยายกับยายสร้อยเป็นเพื่อนกันนะ” ข้าวขวัญขมวดคิ้ว พลางคิดตามคำพูดของยายลำดวน เรื่องของนิรดา ข้าวขวัญได้ยินบ่อยเพราะเพชรชมพูเป็นครูประจำชั้นของเธอ และเพชรชมพูคนนี้เป็นเพื่อนสนิทกับนิรดาเสียด้วย ข้าวขวัญเลยตั้งใจเรียนภาษาเป็นพิเศษ เธอมีความสามารถ แต่ขาดทุนทรัพย์ เพชรชมพูเองก็คอยสนับสนุน แต่ข้าวขวัญบอกปัด เธอไม่อยากให้ตัวเองถ่วงนักเรียนรายอื่น เพราะต่อให้เธอสอบได้ มีคะแนนถึง แต่ก็ไม่สามารถไปเรียนได้ เพราะไม่มีรายจ่ายเนื่องจากญาติคนเดียวของเธอ อายุมากแล้ว ข้าวขวัญตัดใจทิ้งยายลำดวนไม่ลง ยายจะอยู่ยังไงคนเดียว หากเธอต้องไปเรียนไกลบ้าน “ยายบากหน้าไปขอให้ยายสร้อยช่วยมา” ลำดวนพูดแล้วก็ก้มหน้า ข้าวขวัญยกมือปาดน้ำตา เธอสวมกอดยายแล้วก็เผลอสะอื้นออกมา ความอัดอั้นที่แบกรับไว้ตั้งแต่โตรู้ความ เธอเห็นอนาคตของตัวเอง เธอไม่มีทางไปได้ไกลมากกว่านี้แล้ว “ไปหาเงินนะข้าว แค่สองสามเดือน ยายอยู่ได้” ฤดูเก็บเกี่ยวทุกปี นิรดาจะมาหาคนจากบ้านเกิดไปทำงานที่สวนเชอร์รี่ของสามี เป็นการเปิดโอกาสให้คนยากไร้ได้ทำตามความฝัน ข้าวขวัญเองก็เคยฝันไว้ แต่เธอต้องตัดใจเพราะห่วงยายลำดวน “ยายจะรักษาตัวรอให้ข้าวกลับมา ห่างกันเพื่ออนาคตของข้าวนะลูก” ลำดวนกล่อมหลานสาว ข้าวขวัญเรียบร้อยก็จริง แต่ใจแข็งเหลือเกิน “ยายสัญญากับข้าวแล้วนะคะ” ข้าวขวัญถามเสียงเครือ “ยายจะกินข้าวเยอะๆ จะเดินออกกำลังกายทุกวัน และยายจะไม่ป่วย” ลำดวนรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ เพื่อให้หลานสาวเชื่อใจ “ข้าวจะไปซื้อโทรศัพท์ สมัยนี้มีหลายแอปพลิเคชั่นที่ติดต่อกันได้โดยไม่เสียเงินค่ะยาย ข้าวจะโทรหายายทุกวันหลังเลิกงานเลย” “อย่าถึงขั้นนั้นเลยลูก แค่อาทิตย์ละครั้งพอ เวลาไม่ตรงกัน ข้าวจะเหนื่อยเปล่าๆ” ลำดวนท้วง ข้าวขวัญยิ้มกร่อยๆ แล้วก็พยักหน้ารับ “ข้าวต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้างคะยาย” “นี่ไง นังหนูเพชรจดมาให้แล้ว” ลำดวนยื่นกระดาษที่ยัดใส่กระเป๋าไว้ให้หลานสาว ข้าวขวัญรีบเช็ดคราบน้ำตา เพชรชมพูคงดีใจหากรู้ว่าข้าวขวัญเปลี่ยนใจ ปีนี้เธอตั้งใจทำงานเก็บเงิน เธอเรียนช้ากว่าเพื่อนไปสักปีก็ไม่เห็นเป็นไร ข้าวขวัญเชื่อว่าเธอสอบได้แน่ๆ เธอจะทำทุกอย่างให้ยายลำดวนมีความสุข และภูมิใจในความสำเร็จของเธอ “ข้าวไปทำกับข้าวก่อนนะยาย วันนี้เรามาฉลองกันเถอะค่ะ” หลายปีที่ในหัวใจมีแต่ความทุกข์ เวลานี้ข้าวขวัญสามารถยิ้มได้เต็มหน้า เธอทำได้ข้าวขวัญเชื่อแบบนั้น “ยายไปช่วย วันนี้ตำน้ำพริกกินกันเถอะ ข้าวชอบไม่ใช่เรอะ” ยายลำดวนมีฝีมือทำอาหาร แต่เพราะสุขภาพและการมองเห็นที่เริ่มลดลง ลำดวนเลยพยายามเคลื่อนไหวให้น้อยที่สุด ลำดวนไม่อยากให้ข้าวขวัญจับได้ “ไว้ใกล้ๆ วันเดินทาง ยายตำน้ำพริกใส่กระปุกให้ข้าวเยอะๆ หน่อยได้ไหมคะ ข้าวกลัวกินอาหารที่นั่นไม่ได้” ข้าวขวัญไม่ใช่คนกินยาก แต่หากมีอาหารฝีมือยายติดไป เธอจะได้อุ่นใจ “ได้สิ ยายจะทำเยอะๆ เลย” ลำดวนยิ้มกว้าง นางอดคิดถึงช่วงเวลาเก่าๆ ไม่ได้ ลำดวนอดเสียใจในโชคชะตา หลานสาวตัวน้อยควรมีอานคตที่ดีกว่านี้ ถ้าไม่ติดยายแก่ๆ ที่เป็นตัวถ่วง ลูกสาวของลำดวนจากไปเพราะป่วยหนัก ส่วนสามีของลูกสาวก็สร้างครอบครัวใหม่ เขาพยายามพาข้าวขวัญไปอยู่ด้วย เป็นข้าวขวัญเองที่ปฏิเสธความหวังดีของบิดา เด็กมีความคิดเกินตัวอย่างข้าวขวัญคงพอรู้ บิดาเองก็มีภาระล้นบ่า ครอบครัวใหม่ก็ออกท่าไม่ใคร่เต็มใจต้อนรับ การที่หลานสาวตัดสินใจเช่นนั้น คงเพราะตัวนางเองด้วย ลำดวนแอบผ่อนลมหายใจ พยายามเพ่งมองทุกอย่างตรงหน้าที่พร่าเลือนแทบมองไม่เห็น “รอให้ข้าวกลับมาก่อนนะยาย ข้าวจะปลูกบ้านใหม่ให้ยาย เวลาฝนตกเราจะได้ไม่ต้องนอนผวากลัวฟ้ากัน” บ้านไม้หลังเล็ก หลังคาผุๆ กันฝนกันลมแทบไม่ได้ “เก็บเอาไว้เรียนเถอะ ข้าวต้องใช้เงินอีกเยอะ” “ไม่เป็นไรค่ะยาย ขอแค่เราสองคนมีที่นอนที่ปลอดภัย เรื่องเงินก็ไม่ใช่ปัญหา พอข้าวกลับมา ข้าวก็อายุยี่สิบแล้วนะยาย ทีนี้ข้าวทำงานที่ไหนก็ได้ ไม่ติดเรื่องอายุแล้วค่ะยาย” กฎเกณฑ์บางเรื่องก็เป็นข้อจำกัด ทั้งที่ความจริงแล้วเด็กอายุไม่ถึงยี่สิบปีทำงานหาเลี้ยงตัวเองเยอะแยะ เพียงแต่ต้องอดทนกับการถูกเอาเปรียบ ช่องโหว่ทางกฎหมายนั่นมีไว้ ไม่รู้ว่าช่วยเด็ก หรือช่วยให้ผู้ประกอบการเอาเปรียบคนงานที่มีความจำเป็น แต่อายุไม่ถึงกันแน่ ตอนที่2.บนเส้นทางแห่งความฝัน ข้าวขวัญได้รายละเอียดเรื่องการเดินทางและรับความช่วยเหลือหลายอย่างจากเพชรชมพู “เรื่องค่าเดินทางจะหักจากค่าแรงสิบห้าวันแรกนะ ไม่ต้องคิดมาก ครูช่วยข้าว เพราะครูรู้ว่าข้าวเป็นเด็กดี” เพชรชมพูพูดเกริ่นเพื่อไม่ลูกศิษย์คนนี้ของเธอกังวลมากเกินไป ข้าวขวัญขมวดคิ้วแล้วก็รีบยกมือไหว้ ค่าใช้จ่ายของเธอทั้งหมดเพขรชมพูอาสาออกให้ก่อน ข้าวขวัญน้ำตาซึม หลายคนพยายามช่วยเหลือเธอ ดังนั้นข้าวขวัญเลยตั้งใจมั่น เธอจะไม่ทำให้ทุกคนที่หวังดีกับเธอ ผิดหวังเด็ดขาด!! พอถึงปลายเดือน เธอก็ต้องเตรียมตัวเดินทาง ลำดวนทำน้ำพริกใส่ขวดแก้วไว้ให้หลานสาวพกติดตัวไปกินกันตายหลายขวด เอกสารที่อำเภอมอบไว้ให้ประกอบการเรียนรู้ เมืองที่ข้าวขวัญจะต้องเดินทางไปทำงานเป็นคนงานเก็บผลเชอร์รี่ ชื่อเมืองซินต์-เตรยเดิน ”Sint-Truiden” เป็นเมืองและเทศบาลในมณฑลลิมเบิร์กของเบลเยียม และเป็นโชคดีที่ความมานะของข้าวขวัญส่งผลให้กับตนเองในวันนี้ ข้าวขวัญเรียนเอกภาษาฝรั่งเศส และนั่นคงเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอไม่กังวลกับการเดินทางครั้งนี้เลย เธออ่านออกเขียนได้ สามารถสื่อสารกับคนในท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม