ตอนที่ 2 รักษาสิทธิ์ (5)

1200 คำ
“ตานัย มัวเหม่อไปถึงไหน ไม่สนใจฟังที่แม่พูดบ้างเลย” “ครับ” ภารนัยเลิกเหม่อ ขานรับคุณภาวินี สตรีวัยห้าสิบเจ็ดปี ผู้มีเค้าโครงใบหน้าเดียวกัน เขาสัญญากับลูกสาวจะพาไปเดินห้างฯ เลือกซื้อของเล่นใหม่ให้ลูก กลับต้องผิดคำพูดเพราะมารดาโทรมาขอร้องกึ่งบังคับให้กลับมากินข้าวเย็นด้วยกัน ภารนัยเห็นว่าตนเองไม่ได้กลับบ้านนานตั้งใจจะมากินข้าวกับท่านไม่นานก็กลับไปหาลูกสาว ทว่าเมื่อมาถึง ภารนัยกลับพบคุณจิรัชพาลูกสาวซึ่งก็คือเจนจิรา มากราบมารดาเขา บอกเล่าข่าวให้ท่านทราบว่าเรียนจบตามความตั้งใจและย้ายกลับมาอยู่ที่ไทยเป็นที่เรียบร้อย ยกความหวังให้มารดาขึ้นมาอีกหนึ่งระดับ ว่าเร็วๆ นี้จะแต่งงานเข้ามาเป็นลูกสะใภ้ท่าน เขาอึดอัด แต่ไม่กล้าพูดออกมาตรงๆ กลัวจะเป็นการหักหน้าคุณจิรัช นักธุรกิจฐานะร่ำรวยเจ้าของบริษัทอินฟินิตี้ ผู้นำตลาดด้านผลิตภัณฑ์อุปโภคและบริโภครายใหญ่ คุณภควัตบิดาของภารนัย เป็นรุ่นพี่ของคุณจิรัช สองบ้านจึงสนิทสนมกัน อาหารเช้ากับอาหารกลางวันในบ้านที่อาศัยกับธารธารามีน้อยกว่านี้ แต่เขากินเยอะ เติมข้าวสวยเพิ่มถึงสองครั้ง กินอย่างเอร็ดอร่อย ตัดภาพมามื้อค่ำวันเดียวกัน อาหารมีมากกว่าสิบเมนูแต่เขากลับไม่รู้สึกหิวเลย ใจลอยคิดถึงลูกเมีย ที่ป่านนี้คงจะตั้งตารอให้เขากลับไป “ยังจะมาครับ ผู้ใหญ่คุยด้วยไม่สนใจคุยตอบ ไม่ดีเลยนะลูก” “อย่าดุนัยเขาเลยครับ คนหนุ่มไฟแรงในหัวคงจะคิดถึงแค่เรื่องงาน เป็นเสาเรือใหญ่ของบริษัทด้วยแล้วภาระคูณสองคูณสาม” “ห่วงพี่นัยทำงานหนักสุขภาพจะแย่ คุณพ่อให้น้องเจนไปช่วยงานพี่นัยดีไหมคะ ช่วงแรกน้องเจนอาจทำงานไม่คล่องเพราะไม่เคยมีประการณ์การทำงาน ถ้าได้คนเก่งๆ อย่างพี่นัยช่วยสอนก็คงดี” “อะแฮ่ม!” คุณจิรัชกระแอมกระไอเบรกลูกสาวจนรถสิบล้อขับมาด้วยความเร็วเกือบคว่ำ “บริษัทตัวเองก็มี ช่วยงานพ่อก่อนดีไหม” คุณภาวินีหัวเราะจนจะสำลักน้ำ เอ็นดู ขณะที่เจนจิราหน้างอ “คุณพ่อจะมีเวลาสอนงานน้องเจนเหรอคะ กลัวจะเดินทางไปทำงานต่างประเทศเป็นว่าเล่น ให้น้องเจนเรียนรู้งานเอง” “ลูกสาวพ่อมีคนเดียวต้องขยันสอนอยู่แล้วสิ” เขี่ยจมูกรั้นๆ แสนงอน “อีกไม่นานบริษัทของพ่อก็ต้องส่งต่อให้น้องเจน ช่วยพี่นัยบริหารต่อไปตามประสาคนมีลูกชายลูกสาวคนเดียวนะครับคุณภา” “ค่ะ ให้เด็กๆ ช่วยกันทำงาน คนแก่อย่างเราจะได้หมดห่วง” “รอเลี้ยงหลานอย่างเดียว” คุณจิรัชพูดเสริม “ใช่ค่ะ” มารดาภารนัยตอบกลับใบหน้าแสนสุขใจ “ถ้าน้องเจนกับพี่นัยต้องช่วยกันทำงาน น้องเจนหาเวลาไปเรียนรู้งานในบริษัทพี่นัยก็ดีนะคะ น้องเจนอยากเก่งเท่าพี่นัย เราสองคนจะได้เป็นคู่ที่เหมาะสมกันที่สุดในประเทศ ไม่สิ ในโลกเลยดีกว่าค่ะ” “ฟังพูดเข้า คุณภาอย่าไปฟังเยอะนะครับ จะปวดหูเอาได้” พ่อหล่อนกับแม่เขายิ้มกันหมด ยกเว้นชายหนุ่มที่นั่งฝั่งตรงข้าม “พี่นัยกินเยอะๆ นะคะ อร่อย แล้วก็มีประโยชน์ทั้งนั้น พี่นัยอยู่คอนโดฯ คนเดียว กินแต่อาหารกล่องสารอาหารอาจจะได้ไม่ครบ” ใช้ช้อนกลางตักอาหารที่ตั้งใจค้นหาโภชนาการ ก่อนสั่งจากร้านอาหารโปรดของบิดานำมาที่นี่ ปรับเปลี่ยนนิสัยให้เอาแต่ใจน้อยลง ไม่ชอบกินข้าวกับอาหารไทย ก็พยายามหัดกินให้มากขึ้นเพื่อเขา “ขอบคุณครับ” ปากเขาบิดเบี้ยวชอบกล จะยิ้มก็ยิ้มไม่เต็มปาก “น้องเจนกลับมาแล้วก็ไปดูแลพี่เขาแทนป้าหน่อยสิลูก ป้าออกจากบ้านไม่สะดวก ไม่เคยไปดูแลการอยู่การกินของพี่นัยเลย” “ไม่เหมาะมั้งครับ น้องเจนเป็นผู้หญิงจะเข้านอกออกในห้องผู้ชายได้ยังไง คุณแม่พูดไปก่อน ไม่ถามคุณอาจิรัชบ้างเลย” “นัยถามอาเหรอ อาไม่ซีเรียสเลย ตามแต่ทั้งสองคนจะสะดวก หมั้นหมายกันนานจนจะหาฤกษ์แต่งงานอยู่แล้ว อาไม่หวงลูกสาวหรอก มีแต่จะยกใส่พานให้นัยเนี่ยสิ กลัวขายไม่ออก ยิ่งดื้อๆ อยู่ด้วย” “คุณพ่อ พูดอะไรคะ น้องเจนขายหน้าพี่นัยกับป้าภาแย่เลย” ทุกคนหัวเราะ ยกเว้นภารนัยเช่นเคยที่ใบหน้าไม่มีรอยยิ้ม “ถ้าคุณพ่อไม่หวง ก็ต้องอนุญาตให้น้องเจนไปเที่ยวภูเก็ตกับพี่นัยใช่ไหมคะ เมื่อวานเราคุยกัน แต่พี่นัยรอดูตารางงานก่อน พ่อของแจมทำโรงแรมที่นั่น วิวสวยมากค่ะ น้องเจนอยากไปเที่ยวทะเล” “ถามพี่เขานู้น คนที่จะพาหนูไป ไม่ต้องถามพ่อก็ได้” พ่อสมัยใหม่ ปล่อยชิลล์ ลูกสาวโตจนเรียนจบปริญญาโทจะหวงทำไม “คุณพ่อน้องเจนอนุญาตแล้วค่ะพี่นัย เดือนหน้าเราไปกันนะ” “ตานัย ตอบให้น้องดีใจหน่อยสิลูก” คุณภาวินีกดดันลูกชาย ภารนัยไม่อยากปล่อยเบลอให้เป็นแบบนี้ต่อไป แต่สถานการณ์น้ำท่วมปากทำให้เขาตอบได้แค่... “ครับ” เอาใจทุกคนบนโต๊ะอาหาร “พี่นัยน่ารักที่สุดเลย น้องเจนจะตั้งหน้าตั้งตารอนะคะ” “ฟังเสียงพูดเข้าสิ น่าเอ็นดูจังเลย มาเป็นสะใภ้ป้าเร็วๆ นะลูก” “ทางผมพร้อมเสมอครับคุณภา เด็กๆ คุยกันว่าวันไหนก็วันนั้น” “คงเร็วๆ นี้แหละค่ะคุณจิรัช ทางดิฉันอยู่บ้านทุกวัน เหงามาก อยากอุ้มหลานเต็มแก่แล้ว ใช่ไหมตานัย” คุณภาวินีขยันดึงลูกชายเข้ามาอยู่ในวงสนทนา แม้จะผิดสังเกตว่าวันนี้ลูกชายเงียบจนผิดปกติ “ครับ” เขามวลท้องจนอยากจะอาเจียน เพื่อฝืนตอบคำนั้น หลังรับประทานอาหาร คุณจิรัชปล่อยให้ลูกสาวอยู่พูดคุยกับว่าที่แม่สามี ส่วนท่านริบตัวภารนัยเลี่ยงออกไปพูดคุยเรื่องงานด้วยกันแค่สองคน วงการธุรกิจมีข่าวอัปเดตบ่อยไม่น้อยหน้าข่าวในวงการบันเทิง ด้วยวัยที่ต่างกันมากก็อยากจะแลกเปลี่ยนกับภารนัย ว่าหลบไปคุยกันไกลแล้ว เสียงแจ้วๆ ของเจนจิราไล่ตามไปถึงที่ ลูกสาวคนเดียวของท่านบอกเล่าเก้าสิบเรื่องราวในต่างประเทศให้คุณภาวินีฟังไม่หยุด เจนจิราค่อนข้างพูดมากจนคุณจิรัชเขินว่าที่ลูกเขย ผู้บริหารระดับสูงจากสองบริษัทมีสง่าราศีทัดเทียม ต่างแค่วัย ย้อนกลับเข้ามาในโถงรับแขกตกแต่งหรูหราสไตล์คฤหาสน์ยุโรป ภารนัยไปนั่งถัดจากวีลแชร์คุณภาวินี คุณจิรัชก้าวเข้าไปแตะไหล่ลูกสาว “น้องเจน ทุ่มกว่าแล้วนะลูก พ่อว่าเรากลับบ้านกันเถอะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม