“พริกไทยมีนะคะ คุณนัยจะเอาไปกินกับไข่ดาวเหรอ”
พริกไทยในท้องธารธาราต่างหากล่ะ ไม่ใช่พริกไทยในครัว คนอยากเป็นคุณพ่อลูกสองเก็บซ่อนรอยยิ้มไว้มิดชิด คลายวงแขนให้ธารธารามีโอกาสแหงนวงหน้าเล็กน่ารักขึ้นมาสบสายตาเขา ที่ยังงัวเงียมาก เมื่อคืนนอนดึกไปหน่อย แต่ต้องตื่นเช้า ได้นอนเฉลี่ยหกชั่วโมงครึ่ง
“ครับ”
ไม่ผิดที่ธารธาราจะเข้าใจอย่างนั้น เด็กเลี้ยงยังไม่รู้ความคิดละเอียดอ่อน เกี่ยวกับโครงการสร้างสวนพริกในอนาคต บรรดาหนูพริกทั้งหลายถอดแบบเค้าโครงใบหน้าจากเขาและธารธาราจะออกมาป่วนโลก สร้างความสุขให้คุณพ่อคุณแม่
“ขอเยอะๆ เลยนะ ผมจะเอามากินกับไข่ดาว”
หล่อนเหยาะพริกไทยใส่ไข่ดาวให้เขา เขาจะเหยาะหัวใจคืนกลับให้บ้าง ถือว่าแลกกัน อีกไม่กี่เดือนข้างหน้าพริกหวานจะครบสามขวบ ถึงเวลาเหมาะสมในการพาลูกสาวไปกราบคุณย่า
ถ้าโชคดี มารดาเขาเอ็นดูพริกหวานกับธารธารา เขาอาจจะปรึกษาหล่อนย้ายไปอยู่บ้านใหญ่ หาโรงเรียนละแวกนั้นให้ลูก ครอบครัวของพวกเขาจะมั่นคงมากขึ้น
แต่ก่อนอื่น ต้องจัดการปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นจากคุณอาจิรัช ไม่มีพ่อคนไหนไม่รักลูกสาว ถ้าท่านรู้ว่าเขาหักหน้าลูกสาวท่านถึงขั้นซุกลูกซุกเมีย ไม่อยากนึกถึงเหตุการณ์เลวร้ายที่สุดที่อาจจะตามมา อีกคน เจ้าสัวนพ ท่านมีศักดิ์เป็นคุณตาของเจนจิรา คนนี้น่ากลัวมากที่สุด
“ได้ค่ะ” เสียงตอบน่ารักจนภารนัยอยากนัวเนียเมียตัวเอง ควบคุมลมหายใจเข้าออกระงับอารมณ์ตามสัญชาตญาณเพศชาย
เขายกศีรษะขึ้นมองไปทางปลายเท้า ดูลูกว่าตื่นหรือยัง พริกหวานน้อยนอนดิ้น เขาตื่นใหม่ๆ ลูกนอนเกยบนอกก่อนจะหมุนตัวลงไปนอนด้านข้าง แล้วกลิ้งหมุนไปเรื่อยจนศีรษะเล็กของลูกลงไปอยู่ข้างท่อนขา
เท้าคุณพ่อไม่เหม็นหรอกลูก นอนตรงนั้นไปก่อน ขอคุณพ่อกอดคุณแม่ให้ชื่นใจอีกนิด
เขาไม่รีบลุกไปอาบน้ำแต่งตัว แค่น้ำ อาบตอนไหนก็ได้ หรือถ้าสายมากๆ เปิดผักบัว วิ่งผ่านรอบสองรอบก็จบ
“ที่ชวนไปทะเล ธารมีในใจหรือเปล่า อยากไปทะเลที่ไหน”
“คุณนัยมีเวลาว่างน้อย ธารว่าไปทะเลใกล้ๆ กรุงเทพฯ ก็ได้ค่ะ”
“ไม่ต่างกันหรอก ไปทะเลใกล้กรุงเทพฯ นั่งรถสองสามชั่วโมง ไม่ต่างจากลงใต้ นั่งเครื่องแค่ชั่วโมงนิดๆ รวมเวลารอ ก็เท่ากัน”
“ถ้าลงใต้จะหมดเงินเยอะหรือเปล่าคะ” ถามอย่างคนไม่เคยไป
“มีป๋ากระเป๋าหนักไปด้วย จะคิดมากเรื่องเงินทำไม”
“เดี๋ยวนี้คุณนัยพูดจาทรงเสี่ยเก่งจังเลยนะคะ แถมยังขี้อ้อน ถ้าบอกว่าเลี้ยงเด็กมากกว่าหนึ่งคนธารก็เชื่อ”
ธารธาราบ่นไม่ออกเสียงดัง อยากถาม แต่ถ้าเขาไม่ได้ยินก็จะเฉไฉไปว่าไม่มีอะไร ไม่ได้พูดเรื่องสำคัญ เขาทำตัวแปลกไปจากเดิม ไม่เคยอ้อนขอนอนกอดก็มาอ้อน เดิมที หลังลูกหลับเขาจะย้ายไปนอนห้องข้างๆ
“รู้ได้ยังไง”
ภารนัยหัวเราะ สารภาพว่าเลี้ยงมากกว่าหนึ่งจริง
“กี่คนเหรอคะ”
แล้วสีหน้ากับน้ำเสียงธารธาราก็เปลี่ยนไป
“สอง”
ภารนัยสบตาเด็กเลี้ยง เอ็นดูแก้มป่องของเด็กขี้งอน ไม่อยากปล่อยให้หล่อนงอนนานกว่านี้ รีบเฉลย
“คนแรกธาร คนสองนอนดิ้นลงไปอยู่ปลายเท้าผม”
พริกหวานน้อยของพ่อพ่อนั่นเอง
“แค่นี้จริงเหรอคะ”
บ้าจัง ถูกเขาหลอกให้เผยธาตุแท้ เมื่อครู่ธารธาราไม่ได้ทำหน้าตาไม่พอใจ หรือทำสายตาโกรธเคืองเขาใช่ไหม ในหัวคิดฟุ้งซ่าน ก่อนอาการเหล่านั้นจะสงบลงหลังจากถูกหอมแก้ม
เขาสูดกลิ่นไปเต็มปอด ไม่รังเกียจว่าหน้ายังไม่ได้ล้าง
“ครับ ถ้าธารยอมมีน้องพริกหวานให้ผม ก็จะเพิ่มขึ้นมาเป็นสาม”
“หยุดคิดไปเลยค่ะ ใจคอจะไม่ให้ธารไปจากคุณเลยหรือยังไง”
“อ้าว แล้วธารจะไปไหน ไม่อยากอยู่กับผมแล้วเหรอ”
“ธารบอกคุณแล้วไงคะ ว่า...” พูดในโทนสูง
“ธารจะไม่เป็นเมียน้อย” เขาต่อคำ ฟังบ่อยจนจำขึ้นสมอง
“ค่ะ” เลิกเถียงกับเขา ทำตัวน่ารัก นอนนิ่งๆ ให้พ่อของลูกกอด
“ผมไม่ได้จะขอให้ธารเป็นเมียน้อย แต่จะขอให้ธารรออีกนิด เรื่องธุรกิจระหว่างครอบครัวผมกับครอบครัวน้องเจน ต้องใช้เวลาอีกสักนิด เคลียร์ให้ลงตัว ไม่ให้มีผลกระทบ ถ้าหากพ่อน้องเจนโกรธผม”
“ธารให้เวลาได้ค่ะ แต่ต้องมีขอบเขตนะคะ ไม่ใช่ปล่อยลอย”
“ครับ ดุจังเลย อย่างนี้ผมก็หงอแย่เลยสิ”
เขาแกล้งทำหน้าจ๋อย ให้ธารธาราสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่ว่าหล่อนมีอำนาจในการตัดสินใจ ไม่อยากกดหล่อนไปทุกเรื่อง หล่อนน่ารักกับเขามาตลอด จึงไม่อยากพรากความสุข และรอยยิ้มไปจากผู้หญิงที่เขามั่นใจเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ว่ารัก และพร้อมจะสร้างครอบครัวไปด้วยกัน
“คุณนัยเหรอคะกลัวธาร ชอบพูดให้ธารทำหน้าไม่ถูกอยู่เรื่อย”
“ธารทำหน้ายังไงก็น่ารัก ผมอยากมีสวนพริกจะแย่”
“ธารฟังคุณพูดไม่เข้าใจ สายแล้ว ธารว่าเราไปอาบน้ำกันเถอะ”
“รู้ใจจังเลย” อนาคตเจ้าของสวนพริกอมยิ้มมีเลศนัย ลุกขึ้นอุ้มลูกมานอนหนุนหมอนดีๆ ห่มผ้าให้เรียบร้อยแล้ว ย่องเบาลงจากเตียง ตามไปรวบตัวแม่ของลูกโดยไม่เปิดโอกาสให้หล่อนมีโอกาสตั้งตัว
“หมายถึงแยกย้ายกันไปอาบต่างหาก ว้าย คุณนัย!”
ท้วงไม่ทัน เขาก้าวเท้าไวออกจากมาสเตอร์เบดรูมไปยังห้องนอนแขก วางหล่อนลงหน้าห้องน้ำ แตะบนเอวลากเอาชุดนอนกระโปรงออกทางศีรษะ จนธารธารายืนตัวเกือบเปลือยต่อหน้าเขา มีแค่กางเกงชั้นในเท่านั้นที่ปิดท่อนล่าง หล่อนหันหลังให้เขา โอบท่อนแขนสองข้างปิดบังทรวงอก
“คุณนัย ไม่เอาค่ะ ธารจะกลับไปอาบน้ำที่ห้องของตัวเอง”
“อาบด้วยกันเถอะนะ ผมสุภาพบุรุษมากพอ ไม่ทำอะไรธารหรอก”
คุณพ่อหนูพริกหวานมือไว ไม่ถึงสามวินาทีถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกไปจนหมด แตะที่แผ่นหลังบอบบางอ้อนให้เข้าไปด้วยกัน
“เข่าธารยังเจ็บอยู่เลยนะคะ กลัวเลือดซึมมาอีกจะมีแผลเป็น” หล่อนช้อนกรอบหน้าหวานขึ้นสบตาพ่อของลูก อ้อนให้เขายอมถอดใจ
“ผมแค่ชวนอาบน้ำ ไม่ได้จะชวนเล่นท่าหมาครับ”
เขาตอบหน้าตาย เด็กเลี้ยงมีกิริยาสุภาพ น่ารัก นิสัยดี ไม่กล้าพูดเรื่องสิบแปดบวกตรงๆ เขินจนแก้มแดง ดวงหน้าแสนงอนของธารธาราน่ารักจนเขาห้ามใจไม่ไหว ลดหน้าลงไปกดจูบบนแก้มใส
“ไปเถอะนะ อาบน้ำเสร็จผมทายาให้”
รุนหลังอีกครั้ง กว่าหล่อนจะใจอ่อนตามเข้าไปอาบด้วยกัน ห้องน้ำกว้างแคบลงถนัดตา สองคนยืนเบียดหน้ากระจก มีการต่อสู้กันเล็กน้อย ภารนัยจะช่วยถอดชั้นใน แต่มือเรียวบางยั้งไว้ไม่ให้เขาทำ
“ธารกลับห้องตัวเองดีกว่าค่ะ ในนี้ไม่มีแปรงสีฟัน”
ใช้เหตุผลนั้นมาเป็นข้ออ้างขอกลับในวินาทีสุดท้าย ชะงักตอนที่เขาเปิดลิ้นชักหยิบแปรงใหม่มาให้พร้อมบีบยาสีฟันบริการ ทำถึงขั้นนี้ คงต้องปล่อยเลยตามเลยแล้วแหละมั้ง ธารธาราใจอ่อนให้คนขี้อ้อน