ฉันทำหน้าตกใจและแสดงความเป็นห่วงในทันทีเพราะพี่สาวมีโรคที่แก้ไม่หายคือปวดหัวข้างเดียวและฉันกับแม่จะรู้ดี เวลาพี่อันดาปวดหัวมาก ๆ จะต้องนอนพักผ่อนเป็นวัน ฉันจับแขนพี่สาวและพูดว่า
“เจ้จะกลับไปพักผ่อนก่อนไหม...อืม...หรือว่าจะให้ฉันอยู่เป็นเพื่อนเจ้ที่บ้าน วันนี้ไม่มีเทสต์หรือส่งรายงาน”
“มะ...ไม่ต้อง” พี่อันดารีบโบกไม้โบกมือ “ไม่ต้องหรอกเอม ไปมหาลัยก่อนเถอะ พี่ว่าจะกลับไปกินยาแล้วนอนพักสักชั่วโมงค่อยไปมหาลัย วันนี้ไม่มีส่งรายงานหรือพรีเซ้นอะไรเหมือนกัน เนี่ย...เริ่มปวดหัวตุบ ๆ แต่กินยาแล้วเดี๋ยวก็หาย”
“เอางั้นเหรอ” ฉันทำหน้าลังเลแต่ก็เอ่ยว่า “ถ้างั้นพี่เอมรีบกลับไปกินยาเถอะนะ ว้า...ถึงไม่มีเทสต์ย่อยแต่เอมอาจจะกลับเย็นอ่ะ ถ้ายังไงไปมหาลัยไม่ไหวก็โทรบอกนะ”
“อืม...จ้ะ...ขอบใจมาก รีบไปเถอะ”
พี่อันดาพูดจบก็หันหลังเดินกลับบ้าน ฉันมองตามด้วยความเป็นห่วงแต่ก็ตัดใจรีบขึ้นรถเมล์ไปมหาวิทยาลัยเพราะกลัวจะสาย แต่เมื่อไปถึงแล้วฉันก็นึกเป็นห่วงพี่สาวขึ้นมาซะอีก เลยกดโทรศัพท์โทรกลับไปหาพี่อันดาหลังจากเข้าเรียนได้เพียงหนึ่งชั่วโมงในตอนเช้า
ตื๊ดๆๆๆ....ตื๊ดๆๆๆๆ
ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก
หืมม์?...ฉันนึกแปลกใจที่โทรหาพี่สาวเท่าไหร่ก็โทรไม่ติด เอ...หรือว่าพี่อันดาจะปวดหัวมากจนไม่ได้มามหาวิทยาลัย หรือว่าจะกินยาแล้วหลับไปและไม่ได้ยินเสียงของสายเรียกเข้า มันทำให้ฉันเริ่มไม่สบายใจเพราะเวลาพี่เอมปวดหัวแม่จะคอยหายาให้ แต่วันนี้ที่บ้านไม่มีใคร มีก็แต่พ่อเลี้ยงแต่พ่อรักษ์คงไม่รู้หรอกว่าพี่อันดาไม่สบายเพราะตั้งแต่เขาเข้ามาอยู่ในบ้านอาการของพี่สาวก็ยังไม่กำเริบจนกระทั่งวันนี้ พี่อันดาคงปวดหัวมากกระมัง ฉันคิดอยู่พักใหญ่หลังจากเวลาผ่านไปยังไม่ทันสิบโมงก็นึกได้ว่า
ฉันน่าจะกลับบ้านไปดูอาการของพี่สาวสักนิด....พอคิดได้อย่างนั้นฉันก็ไม่รอช้ารีบออกมาโบกแท็กซี่หน้ามหาวิทยาลัยจะได้กลับถึงบ้านไว ๆ แต่เมื่อใกล้ถึงบ้านพี่แท็กซี่ขอจอดส่งที่ปากซอยเพราะต้องรีบไปรับอีกคน ฉันก็ไม่มากเรื่องหรอก พอจ่ายค่าโดยสารแล้วฉันก็รีบลงจากรถเดินกลับไปที่บ้าน ก็เห็นว่ายังเงียบเชียบ นึกในใจว่าอย่าทำเสียงดังจะดีกว่าเพราะไม่แน่ใจว่าพี่อันดาจะนอนหลับเพราะปวดหัวหรือไม่ ฉันเองไม่ค่อยสบายใจเพราะกลัวว่าถ้าพี่สาวไม่สบายมาก ๆ ก็คงต้องอยู่คอยดูแล โดยไม่รู้เลยว่าความหวังดีในวันนี้จะทำให้ฉันได้พบกับสิ่งที่ทั้งน่าตื่นเต้นและทำให้ความคิดของฉันเปลี่ยนไปจากที่เคยเป็น
เมื่อเข้าไปในบ้านฉันก็ตรงไปยังห้องนอนของพี่สาว แต่เมื่อเปิดประตูเข้าไปกลับไม่พบเงาของใคร ก็นึกไปว่า... เอ...หรือว่าพี่อันดาจะหายปวดหัวและไปเรียนตามปกติได้แล้ว เพราะอะไรนะเหรอ ก็พอเข้าไปในห้องฉันสังเกตเห็นผ้าปูที่นอนไม่มีรอยยับยู่ยี่ อาจเป็นไปได้ว่าพี่สาวของฉันคงกินยาแล้วยังชั่วก็คงไปเรียนตามปกติ ฉันตัดสินใจกดโทรศัพท์ไปหาพี่สาวอีกครั้งแต่ก็เหมือนเดิม ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก เงียบเชียบจนฉันคิดว่าพี่สาวคงไปมหาลัยแล้วล่ะ ฉันเลยกลับลงไปชั้นล่าง แต่นึกหิวขนมขึ้นมาเลยเดินเข้าไปในครัว ทำท่าจะเปิดตู้เย็นก็ได้ยินเสียงเหมือนคนกำลังพูดคุยกันอยู่หลังบ้าน
ฉันพยายามเงี่ยหูฟังก็ได้ยินไม่ถนัด แต่แน่ใจว่ามันเป็นเสียงของใครสักคนแน่นอน ตอนฉันเข้ามาไม่เห็นพ่อเลี้ยงทำให้นึกไปอีก หรือว่าจะมีใครมาหาพ่อเลี้ยงที่บ้าน เสียงนั้นดังมาจากด้านหลังทำให้ฉันตัดสินใจเดินออกไปและลัดไปทางข้างบ้าน เพราะด้านหลังบ้านของฉันเป็นสวนดอกไม้เล็ก ๆ แต่ยังไม่ทันก้าวขาพ้นออกไปก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงนั้นชัดยิ่งกว่าชัด
“อ่าส์...อืม...อูยยย...อูยยย...ซี๊ดดดด....โอยยยย”
มันเป็นเสียงที่ฉันได้ยินข้างห้องแทบทุกคืน เหมือนกันมาก เป็นเสียงที่ทำให้ฉันมือเริ่มเย็นแต่หัวใจตัวเองรุ่มร้อนหนักขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่ค่อย ๆ ก้าวขาอย่างช้า ๆ และเงียบ ๆ เพราะยิ่งเข้าไปใกล้เสียงนั้นก็ดังชัดอย่างน่าตกใจ
“อูยยยย...ดูดแรง ๆ เลยแม่คุณ...ซี๊ดดด...อาส์...ดูดเบา ๆ ไม่สะใจพ่อ...ขอแรงหน่อย...ใส่เข้าไปลึกๆ แล้วอมไว้อย่างนั้น...อาส์...เก่งมาก...เก่งมากลูกอัน...ซี๊ดดดด”
ฉันหยุดที่ตรงหัวมุมผนังห้องครัวแล้วค่อย ๆ เยี่ยมหน้าออกไป แทบหยุดหายใจเมื่อเห็นภาพตรงหน้า
“เจ้!...พ่อรักษ์...วั๊ย!”
บทที่ 4
ฉันร้องตกใจเบา ๆ แค่เบา ๆ เท่านั้นแล้วรีบเอามือปิดปากตัวเองแทบไม่ทันเมื่อได้เห็นภาพที่ทั้งน่าตกใจและน่าตื่นตา ก็เพราะมันเป็นภาพของพี่อันดาที่ยังอยู่ในชุดนักศึกษากำลังนั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าพ่อรักษ์ที่นั่งถ่างขาบนเก้าอี้สนาม พี่อันดากำลังอ้าปากจิ้มลิ้มสีชมพูหวานของหล่อนครอบดูดลำจ้อนอวบใหญ่ของพ่อเลี้ยงที่มันกำลังแข็งเต็มที่เข้าไปเต็มปากเต็มคำ พ่อรักษ์ยังสวมเสื้อยืดและกางเกงทหารตัวเก่งที่สวมใส่ประจำ นั่งเด้งส่ายสะโพกไปมา มือข้างหนึ่งลูบบนหัวของพี่สาวฉันและปากก็ร้องออกมาซู๊ดซ๊าดเสียงดัง ทำตาพริ้มส่งเสียงครางกระเส่าแหบขณะที่พี่อันดาดูดปลายจ้อนยักษ์ของพ่อเลี้ยงซึ่งฉันก็พึ่งเห็นชัด ๆ วันนี้เองว่ามันใหญ่อย่างที่ฉันจินตนาการไว้จริงๆ