#วันที่3/9

1016 คำ
ติการุณตาเบิกโต ไม่ชอบใจที่ดิมิทรีแตะต้องปราณันต์เกินจำเป็น “โอ๊ยดอม! ทีเมื่อกี้ทำเป็นกร่างจะมีเรื่องกับพวกนั้น” “แค่ขู่เท่านั้นน่า ฉันต่อยกะใครก็แพ้ทุกที เธอก็รู้” “แล้วยังอยากจะมีเรื่องนะ!” “ก็เพราะเธอนั่นแหละ ยัยเฉิ่มเอ๊ย!” ปากว่ายัยเฉิ่มแต่รีบถอดสูทคลุมร่างให้ปราณันต์อีกรอบ “เตี้ยก็เตี้ย แขนก็ใหญ่ นมก็เล็กนิดเดียวยังอยากจะโชว์อีก” เขาบ่นๆๆ จนปราณันต์ต้องก้มมองหน้าอกตัวเอง มันไม่ได้เล็กนะ แต่คงไม่ใหญ่เท่าของสาวๆ ที่เขาเคยควงกระมัง “อีตาบ้านี่! มีสิทธิ์อะไรมาวิจารณ์นมฉันฮะ!” “โอย...เอาละๆ จ่ายตังค์แล้วก็กลับเถอะ ก่อนที่พวกนั้นจะเปลี่ยนใจมาถล่มเรา” ติการุณเอ่ยอย่างติดรำคาญ เขาเองก็จะรีบกลับไปหาแฟนเหมือนกัน “ใช่ๆ กลับเถอะดอม” ปราณันต์เห็นด้วย “เอ่อ...ฉันคงไปส่งหยีไม่ได้ ฉันจะไปหาแฟน” ติการุณรีบบอก “ฉันก็คงไปส่งไม่ไหวหรอก เพราะดื่มไปเยอะ งั้นก็...ให้ยัยนี่ขับรถไปส่งฉันแล้วกัน” ว่าแล้วก็ยัดกุญแจรถใส่มือให้ปราณันต์ ราวกับว่าหล่อนคือสารถีส่วนตัวอย่างไรอย่างนั้น “ส่งนายนี่ถึงบ้านแล้วรีบชิ่งเลยนะ อย่าอยู่นาน เข้าใจนะ” ติการุณมิวายห่วงรุ่นน้องของตัวเอง “จะรีบชิ่งให้ไวเลยค่ะ พี่กันย์ขับรถดีๆ นะคะ” “โอเค งั้นเราแยกย้ายกันเถอะ พี่รีบ” แล้วสามสหายก็แยกย้ายกันกลับ ทิ้งไว้เพียงเสียงอึกทึกของดนตรีที่กำลังมันขึ้นทุกวินาที ยิ่งดึกเท่าไหร่ สถานบันเทิงผับบาร์ก็ยิ่งมีสีสัน เหมือนว่ามันเพิ่งตื่นจากนิทราอันแสนสุขนั่นเอง ย้อนกลับมาที่โรงแรมเวิลด์พาราไดซ์ ชีคอลัญสลบเหมือดอยู่บนเตียง มีปราณัฐนั่งอยู่ที่ปลายสุดของขาเขา ช่วยถอดรองเท้าออกให้ แผลที่เท้าไม่มีเลือดซึมออกมาแล้ว ผ้ากอซที่พันแผลไว้ขาวสนิท การ์ดสองนายของเขาถูกเธอไล่ออกไปก่อนหน้านี้ และใช่ ตอนนี้มีแค่เธอกับเขา...และเตียง “เอาวะ เป็นไงเป็นกัน” ปราณัฐบอกตัวเองแล้วปีนขึ้นไปนั่งข้างๆ คนที่สลบเหมือด ตบหน้าเขาสองสามทีเพื่อความมั่นใจ เมื่อเห็นว่าเขายังหลับเป็นตายก็เริ่มทำการ ‘แกะกระดุม’ “อือออ...” ชีคหนุ่มครางอืออาเมื่อไอเย็นของแอร์สัมผัสผิวเนื้อตรงหน้าอก สองตาเขายังปิดสนิทด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ ปราณัฐยกมือค้างไว้เหนือแผ่นอกหนา ภายใต้เสื้อเชิ้ตผ้าไหมเขาไม่ได้สวมเสื้อกล้ามเลย ให้ตายเถอะ อย่าตื่นขึ้นมาตอนนี้เลยนะ เธอคงทำอะไรไม่ถูก ใจคงฝ่อ คงรีบแจ้นกลับบ้านและทำแผนพังไม่เป็นท่าแน่ๆ สองมือเล็กจับคนตัวใหญ่ให้พลิกซ้ายพลิกขวา เพื่อถอดเสื้อเชิ้ตและสูท มันทุลักทุเลพอสมควรเพราะเขาตัวหนักและเธอเองก็ร้อนระอุไปทั่วร่างยามต้องมาถอดเสื้อผ้าผู้ชาย ไม่ใช่เพราะรู้สึกวาบหวิวสยิวทรวงหรอกนะ แต่มันเหนื่อยต่างหาก “โอย...เสร็จซะที!” ด้านบนนั้นเสร็จเรียบร้อย ผิวเนียนๆ ของอลัญปรากฏแก่สายตาสาวพรหมจรรย์อย่างถนัดถนี่ ปราณัฐขยับมานั่งข้างขาเขาแล้วเริ่มแกะเข็มขัดบ้าง แกะไปทั้งที่มือไม้สั่น ก็นะ ครั้งแรกที่ต้องมานั่งแกะเข็มขัดผู้ชาย แถมเป็นผู้ชายที่ไม่ได้เป็นอะไรกันอีกต่างหาก ก็แค่แอบปิ๊งแบบรักแรกพบน่ะ “โอ้...คุณพระ!” ปราณัฐตาเบิกโตเมื่อกางเกงชั้นในของเขาถูกดึงลงมาถึงครึ่งต้นขา บางสิ่งบางอย่างที่เคยอยู่ใต้กางเกงชั้นใน บัดนี้เผยตัวตนให้เธอได้ยลเต็มสองตา มันหลับอยู่...ใช่ หลับเหมือนเจ้าของของมัน แต่ว่านั่นน่ะ มันช่างใหญ่โตมโหฬาร! หญิงสาวปาดเหงื่อตัวเองแล้วหลับตาลงเพื่อดึงสติกลับคืนมา มันกระเจิดกระเจิงไปตั้งแต่แลเห็นชิ้นส่วนมวลกายที่ไร้กระดูกนั่นแล้ว “ใจเย็นๆ ปราณัฐ จะทำการใหญ่ต้องใจเย็นๆ” บอกตัวเองทั้งที่มือไม้สั่น ต้องหายใจเข้าออกลึกๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า เธอจัดการถอดกางเกงของอลัญต่อจนเสร็จ แล้วห่มผ้าให้เขาก่อนที่ตัวเองจะหัวใจวายเสียก่อน “ทีนี้ก็...” ทำท่านึกแล้วเดินออกไปด้านนอก กดโทรศัพท์เรียกรูมเซอร์วิส รอสายเพียงไม่กี่นาทีก็ได้สั่งของสมใจ เธอสั่ง สเต๊กเนื้อจานหนึ่งในตอนใกล้เที่ยงคืน ไม่ถึงยี่สิบนาทีอาหารก็ถูกส่งเข้ามา อลัญยังหลับสนิท เธอไม่ได้อยากกินสเต๊กตอนดึกหรอกนะ แต่สิ่งที่เธอต้องการก็คือ... “ขอโทษนะคะชีค แต่ฉันน่ะ...คงจะตกหลุมรักคุณจนโงหัวไม่ขึ้นแล้ว ขอโทษที่ต้องใช้วิธีนี้นะคะ” เอ่ยขอโทษกับคนที่ยังหลับแล้วถือเอาขวดซอสมะเขือเทศกับน้ำแก้วหนึ่งขึ้นไปบนเตียง กะตำแหน่งให้ตรงตามที่ต้องการแล้วบีบซอสมะเขือเทศหยดเล็กลงไปบนผิวผ้าปูที่นอน ใช้น้ำเปล่าเป็นตัวประสานให้มันเจือจาง บรรจงทาถูจนบริเวณนั้นเกิดร่องรอยสีแดงคล้ายสีแห่งโลหิต เสร็จแล้วก็ลุกลงมายืนข้างเตียง ไม่ค่อยพอใจนักกับสิ่งที่ตัวเองทำ แต่มันดูมากเกินไป หากต้องพลีกายเพื่อซื้อใจผู้ชายสักคน ใช่...เธออยากได้เขา แต่ไม่อยากเสียตัว มันดูไม่ยุติธรรมกับอลัญ เธอรู้ แต่เธอไม่มีทางเลือก เขาจะอยู่ที่เมืองไทยสักกี่วันกันเล่า และเธอคงไม่มีปัญญาตะเกียกตะกายปีนขึ้นไปหาเจ้าชายอย่างเขาหรอก เพราะฉะนั้น วิธีนี้มันจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม