#9

1549 คำ
พร้อมรักและทิวาเป็นจุดสนใจของผู้คนในตลาดอย่างมาก แม้ตลาดจะวายคนเดินเบาบางไปไม่น้อย แต่อากาศเมืองไทยขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองร้อน ทิวาถอดสูทตัวนอกไว้ในรถ ก่อนที่จะเดินเข้าไปเขาเป็นห่วงพร้อมรักที่ไม่คุ้นกับสถานที่แบบนี้ “คุณรอในรถดีมั้ย”  พร้อมรักแม้จะมั่นใจในตัวเอง และไม่คิดจะเอาเด็กฝึกงานมาตีตนเสมอตัว แต่ตั้งแต่ที่รู้จักทิวามา เธอไม่เคยเห็นว่าทิวาจะมีท่าทางการปฎิบัติตนกับผู้หญิงคนไหนเหมือนกับเด็กฝึกงานคนนี้ หรือเพราะก่อนหน้านี้เธอเองต่างหากที่ไม่ได้ใส่ใจทิวามากนัก พร้อมรักคิดชั่งน้ำหนักตามเหตุผล “พร้อมไม่รบกวนการทำงานของคุณดีกว่าค่ะ” ถ้าเธอเดินไปกับทิวาแล้วความอดทนของเธอหมดลงเผลอไปแสดงท่าทางไม่น่ามองเข้าก็อาจจะเสียภาพพจน์ที่ดีได้ พร้อมรักจึงปฎิเสธที่จะไปกับเขา  ทิวาจึงโน้มตัวลงไปสตาร์ทรถเปิดแอร์ให้พร้อมรัก และเขาก็เดินไปยังทิศทางที่นับดาวบอกตำแหน่งของตนไว้ เธอนั่งหันหลังให้กับเขา ตรงนี้มีลมพัดอ่อนๆ ถ้าคนที่คุ้นเคยกับอากาศก็จะไม่รู้สึกร้อนนัก จังหวะที่เขากำลังเดินไปเป็นขณะเดียวกับที่นับดาวเอื้อมไปหยิบขวดน้ำที่เย็นฉ่ำ เธอบิดเปิดฝาแหงนหน้ายกปากขวดจ่อที่ปาก  ทิวาหยุดนิ่งการก้าวเดินฉับพลัน เขากลืนน้ำลายในทันทีเมื่อภาพลำคอขาวขยับเมื่อเธอกำลังดื่มน้ำ ไม่รู้ทำไมภาพนี้จึงทำให้เขารู้สึกแปลกๆ ได้ จู่ๆทุกอย่างก็เชื่องช้า ไปหมด ทิวาไม่อาจละสายตาจากภาพตรงหน้าได้เลย... ทิวาตกอยู่ในภาพภวังค์ตรงหน้า ไม่รู้ตัวเลยว่าด้านหลังมีหญิงสาวชาวต่างชาติเดินมาพอดี เธอเงยมองทิวาและมองตามสายตาของเขา ใบหน้าหญิงสาวก็แสดงอารมณ์ความไม่พอใจอย่างชัดเจน เธอจึงรีบเดินผ่านหน้าเขาไปยังที่นับดาวนั่งอยู่ ทิวารู้สึกตัวเมื่อนับดาวหันกลับมามองเขา หลังจากที่หญิงสาวคนนั้นพูดอะไรกับเธอแน่ๆ เขาจึงเดินไปหาเธอโดยทันที “นี่ค่ะ” นับดาวเลื่อนเอกสารตรงหน้าไปให้เขา และส่งสายตาให้พี่มยี ไปจากที่นี่ มยีวางขนมที่ถือมาไว้และเดินไปอย่างว่าง่ายแม้จะมองทิวาด้วยสายตาที่ไม่วางใจก่อนก็ตามที ทิวาไม่สนใจหญิงสาวต่างชาติคนนั้น เปิดดูเอกสารคร่าวๆ อากาศร้อนเกินไปสำหรับเขา เอกสารก็ดูคร่าวๆก่อนก็ได้ เพราะเอกสารพวกนี้สามารถเอาไปดูที่ออฟฟิศได้ สิ่งที่ตอนนี้เขาควรทำคือเดินสำรวจตลาดด้วยตาของตัวเอง  นับดาวที่ในมือยังกำขวดน้ำที่ยังดื่มไม่หมดไว้ สายตาก็แอบชำเลืองมองเขา ที่ขมับทั้งสองของเขามีเหงื่อผุดออกมาอย่างช่วยไม่ได้ มองดูแล้วก็น่าสงสารบอกไม่ถูก เพราะถ้าเธอไม่ได้ยินเรื่องราวของเขามาจากกิ่งแก้ว ก็คงคิดว่าเขาไม่เคยลำบากมาก่อน Grrrr Grrrr เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ของทิวาดังขึ้น ในจังหวะที่เอกสารที่เขาเปิดอ่านคร่าวๆ กำลังจะหมด ทิวาล้วงโทรศัพท์ออกมา เป็นสายเข้าจากผู้ช่วย เขากดรับสายทันที “ผมมีข้อมูลที่เจ้านายไม่อยากเชื่อแน่ๆครับ”  “นายอยู่ที่ไหน” “ผมกำลังกลับเข้าออฟฟิศครับ” “โอเค งั้นเดี๋ยวเจอกัน” ทิวากดวางสาย “พอดีมีงานด่วนเข้ามา เรากลับออฟฟิศก่อน ไว้ค่อยมาสำรวจวันอื่น” นับดาวพยักหน้า แม้ตอนนี้เป็นใกล้บ่ายสามกว่าแล้ว ช่วงเวลานี้กว่าจะกลับถึงออฟฟิศคงใช้เวลาเดินทางนานกว่าตอนขามาแน่  และจริงอย่างที่นับดาวคาดไว้ พวกเธอกลับมาถึงออฟฟิศก็ห้าโมง กว่าแต่นั่นไม่ใช่เพราะว่ารถติดอะไรนักหนา เป็นเพราะทิวาต้องการไปส่งพร้อมรักที่บ้านของเขาก่อน เมื่อมาถึงออฟฟิศนับดาวก็ออกจากลิฟท์ชั้นห้าไม่ได้ตามเขาไปชั้นหก ตลอดทางตั้งแต่ที่พร้อมรักลงจากรถนับดาวและทิวาไม่ได้พูดคุยอะไรกันแม้แต่คำเดียว เชียร์ส แก็งสาวสาวสาว ในที่สุดก็ครบองค์กันอีกครั้ง กิ่งแก้วที่ซ่าท้าชนกับทุกคนอย่างไม่เกรงกลัว พิมพ์รักผู้บอบบางสไตล์กึ่งเด็กเนิร์ดที่ไม่ได้หัวอ่อน นับดาวสาวหน้าหวานนิสัยซื่อตรงเสียสละเป็นที่รักของคนรอบข้าง พวกเธอรู้จักกันตั้งแต่มัธยม แม้พอมาเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยต่างก็แยกสาขาที่เรียน แต่ความแน่นแฟ้นสายสัมพันธ์ของมิตรภาพไม่ได้ลดลงเลย กิ่งแก้วเลือกเรียนด้านกฎหมายเหมือนกับพ่อของเธอ พิมพ์รักเลือกบริหารธุรกิจเพื่อที่จะมาสืบทอดบริหารงานต่อจากพ่อของเธอ นับดาวเลือกเรียนบัญชีตามสายที่ชอบ แม้แก้วจะชนกันสามใบแต่โต๊ะกลับนั่งด้วยกันสี่คน ข้างกายนับดาวยังมีเด็กชายวัยสามขวบที่กำลังกินอย่างเอร็ดอร่อย วันนี้เป็นวันเสาร์นับดาวและเพื่อนในแก็งก็ออกมาเปิดหูเปิดตากันเหมือนในอดีตที่เคยเป็น สิ่งที่เปลี่ยนไปคือนับดาวไม่ใช่ตัวคนเดียวแล้ว เธอมีเทวาติดตามมาด้วย ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร สามสาวไม่เคยเปลี่ยนเลยเมื่อมารวมตัวอยู่ด้วยกัน ไม่รู้ทำไมพวกเธอถึงมีเรื่องให้คุยกันได้ตลอด เทวามองคนโน้นทีคนนี้ทีแม้จะชินตาแต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าตกลงผู้หญิงเขามีกี่ปากกันแน่  กิ่งแก้วจะอยู่เมืองไทยไม่นาน เธอได้มีโอกาสไปฝึกงานที่สำนักงานกฎหมายในอเมริกา แน่นอนว่าเส้นสายพ่อของเธอล้วนๆ ซึ่งกิ่งแก้วไม่สนใจคำครหาใดๆ “คนไม่มี ก็ปากมากไปอย่างงั้นแหละ ฉันมีเส้นสาย ทำไมต้องปิดบังความยิ่งใหญ่ของตัวเองด้วย” กิ่งแก้วมีความมั่นใจในแบบที่ใครก็ไม่สามารถทำลายลงได้ ภาพสรวลเสเฮฮาร้านปิ้งย่างแบรด์ดังในห้างใหญ่ กำลังถูกมือดีเก็บภาพไว้มากมายจากโทรศัพท์มือถือ คนปลายทางเปิดขยายภาพมองดูใบหน้าคนในภาพคนแล้วคนเล่า แต่มุมภาพกี่ภาพก็ทำให้เขาไม่อาจเห็นเด็กผู้ชายข้างกายนับดาว ทิวาที่นั่งอยู่ในห้องสมุดที่บ้าน กำลังทบทวนปะติดปะต่อเรื่องราวที่ได้ทราบมา เมื่อวานที่เขาเห็นข้อมูลพร้อมภาพถ่ายหญิงสาวที่ชื่อนับดาว อนันนตกุล ที่ได้มาจากผู้ช่วยซึ่งทำงานได้ดีมาก นามสกุลนี้ถูกตั้งขึ้นใหม่เมื่อสี่ปีก่อนนี้เอง แม้ตอนนี้เขายังหาข้อเชื่อมโยงระหว่างนับดาวกับพ่อเขาไม่ได้ แต่เด็กฝึกงานคนนี้รู้จักกับลูกสาวอาประธาน เธอชื่อนับดาว นามสกุลยังเป็นนามสกุลตั้งใหม่ที่เกือบเป็นนามสกุลเดียวกับเขา  เมื่อวานตอนที่เขากลับมาถึงออฟฟิศ ผู้ช่วยที่เห็นหน้าเด็กฝึกงานหลายครั้งแล้ว ได้เรียกข้อมูลเด็กฝึกงานที่มีเพียงหนึ่งเดียวมาจากฝ่ายบุคคล ที่อยู่ปัจจุบันของเธออยู่ใกล้ตลาดที่ไปเมื่อวานมาก ทั้งๆที่เมื่อวานเธอสามารถบอกเขาได้ว่าขอกลับบ้านเลย ซึ่งไม่มีความจำเป็นที่ต้องกลับมาพร้อมกับเขา เป็นที่ชัดเจนมากว่าเธอต้องการปกปิดตัวเอง เธอเหลือเพียงแม่ ซึ่งเธอระบุอาชีพของมารดาไว้ว่าค้าขาย ตอนนี้เมื่อหานับดาวผู้ต้องสงสัยเจอแล้ว ที่เหลือก็แค่หาหลักฐานประกอบข้อสันนิษฐานของเขาเท่านั้น  ก็อก ก็อก เมื่อคนในห้องอนุญาต คนด้านนอกก็ผลักประตูเข้ามา เป็นทนายประธานที่ทิวาโทรไปเพื่อจะขอไปพบ แต่ประธานบอกว่าจะแวะมาหาทิวาเอง “สวัสดีครับคุณอา” “หลานมีอะไรจะใช้อาเหรอ” ทิวายิ้มออกมาอย่างเกรงใจ  “ผมอยากจะปรึกษาคุณอานะครับ คือว่าวันนี้ผมจะไปพบคุณพ่อของพร้อมรัก ผมกับพร้อมรักเราคบกันมาสามปีแล้ว เธอคือผู้หญิงที่ผมจะแต่งงานด้วย” ประธานนั่งฟังอย่างตั้งใจ “แต่ไม่ใช่ในเร็วๆวันนี้ อย่างน้อยผมก็กะว่าให้พ้นช่วงร้อยวันของคุณพ่อไปก่อน” ประธานพยักหน้าเห็นด้วย “แต่ผมก็อยากจะจัดการอะไรแต่เนิ่นๆ เมื่อผมแต่่งงานแล้ว ผมอยากทราบว่าผมต้องย้ายออกหรือให้พร้อมรักย้ายเข้ามาที่นี่ครับ” “กรรมสิทธิ์ในบ้านหลังนี้ถือกันคนละครึ่ง โดยเงื่อนไขห้ามโอนหรือขายต่อเท่านั้น อาว่าที่นี่กว้างขวางมากพอให้สองครอบครัวอยู่ด้วยกันได้นะครับ พินัยกรรมไม่ได้ระบุแบ่งว่าชิ้นไหนของคุณชิ้นไหนไม่ใช่ พวกคุณมีสิทธิ์จะอยู่ตรงไหนก็ได้ครับ” 
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม