“แบล็กลูก ฟังแม่ก่อนนะ คือว่าแม่...”
ยังไม่ทันที่มัลลิกาจะได้พูดจบ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน แฝดผู้พี่ลูกชายคนโตของเธอก็เดินออกไปทันที ทั้งที่พึ่งเดินเข้ามาในร้านอาหารกลางกรุงปารีส ที่เธออุตส่านัดลูกสาวของเพื่อนสนิทมา เพื่อทานข้าวด้วยกัน หรือความหมายแบบนัยๆก็คือ พามาดูตัวนั่นเอง
“เอ่อ หนูเฟย์ คือว่า ป้าต้องขอโทษแทนลูกชายของป้าด้วยนะลูก พอดีเขาคงมีธุระด่วนเลยรีบออกไป งั้นเราทานกันสองคนก็ได้เนาะ”
มัลลิการีบหันมาบอกหญิงสาวที่นั่งมองมาอยู่ ก่อนจะนั่งลงฝั่งตรงข้ามอย่างเสียไม่ได้ ส่วนหญิงสาวอีกคนก็ได้แต่มองตามหลังร่างสูงไปอย่างรู้สึกหมายมั่น เกิดมาไม่เคยยอมใครและเธอไม่เคยโดนใครหักหน้าให้อับอายได้มากมายขนาดนี้มาก่อน
แบล็กเหรอ คอยดูเถอะ ฉันนี่แหละจะทำให้นายสยบอยู่แทบเท้าของฉันให้ได้
หญิงสาวคิดออกมาในใจก่อนจะหันมายิ้มหวานให้กับคนตรงหน้า ก่อนที่จะเริ่มทานอาหารที่สั่งมาได้พักใหญ่แล้วนั้น โดยที่มัลลิกาอดเสียดายไม่ได้ เพราะเธอนั้นอยากได้หญิงสาวตรงหน้ามาเป็นลูกสะใภ้จริงๆ
“ออกรถ”
เสียงทุ้มต่ำบอกขึ้นอย่างหัวเสีย ก่อนที่รถจะขับเคลื่อนออกไป โดยมีรถอีกสองคันขับตามหลังมาเพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับมาเฟียหนุ่ม
แบล็ก คารอส หรือ มอเฟียส คารอส ดำรงเดช ชายหนุ่มลูกเสี้ยว ไทย – ฝรั่งเศส กำลังนั่งมองออกไปนอกรถอย่างใช้ความคิด เขาเป็นหัวหน้ามาเฟียกลุ่มใหญ่ ที่คุมพื้นที่แทบทั้งหมดในฝรั่งเศส โดยมีลูกน้องหลายกลุ่มกระจายตัวไปตามพื้นที่ต่างๆเพื่อดูแลในแต่ละเขตพื้นที่ จากชีวิตที่ดูเรียบง่ายและมีความสุขอยู่กับครอบครัว เขาโดนมาเฟียกลุ่มเล็กๆทำร้ายในวันที่บิดามารดาของเขาพาไปเที่ยวพักผ่อนช่วงหน้าร้อนจนเกือบปางตาย หลังจากหายดีเขากลับไปแก้แค้นคนพวกนั้น จนแทบปางตายไม่แพ้กัน และเหมือนโชคชะตากำหนดมา หัวหน้ามาเฟียกลุ่มนั้นมาเจอเข้าพอดี และเด็กหนุ่มเลือดร้อนในวันนั้นก็ได้มาเป็นหัวหน้ากลุ่มมาเฟียในวันนี้ เพราะดันไปเป็นที่เข้าตาของหัวหน้ามาเฟียกลุ่มนั้นเข้า
“กลับบ้าน”
เขาบอกขึ้น หลังจากรถออกตัวมาได้พักใหญ่ๆ ก่อนที่คนขับรถจะเลี้ยวรถไปอีกทางทันที มอเฟียสเดินเข้าไปในบ้านหลังใหญ่อย่างคุ้นเคย ก่อนจะกวาดตามองไปรอบๆบ้าน ที่เขาไม่ได้กลับมานานหลายเดือน
“พี่แบล็ก!!! พี่แบล็กจริงๆด้วย พิ้งคิดถึงพี่แบล็กมากๆเลยรู้ไหมคะ”
พิ้ง หรือ มาดิแกน น้องสาวคนเล็กของบ้าน รีบวิ่งเข้ามาหาพี่ชายคนโตด้วยความดีอกดีใจ ส่วนแบล็กรีบอ้าแขนรับเอาร่างเล็กของน้องสาวเข้ามากอดอย่างคิดถึงเสียงเจื้อยแจ้วไม่แพ้กัน
“เป็นไงบ้างเรา พี่ไม่อยู่ ไปทำเรื่องอะไรเอาไว้บ้างรึเปล่า”
“เปล่าสักหน่อย พิ้งเป็นเด็กดี แล้วอีกอย่าง พี่ไวท์ดุขนาดนั้น พิ้งไม่กล้าสร้างเรื่องหรอกค่ะ”
มาดิแกนรีบฟ้องพี่ชายคนโตทันที เพราะทั้งบ้านก็เห็นจะมีแต่มอเฟียสนี่แหละที่ใจดีกับเธอที่สุด เพราะมอแกนฝาแฝดคนเล็กนั้นไม่ได้ใจดีอย่างฝาแฝดผู้พี่เลยสักนิด ในความคิดของเธอ
“พี่ได้ยินนะ”
แต่ยังไม่ทันที่สองพี่น้องจะได้พูดอะไรต่อ เสียงนิ่งขรึมอีกเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น ทำเอามาดิแกนรีบหันไปมองด้านหลังและเผลอแบะปากยื่นออกมาทันที
“เห็นไหมคะพี่แบล็ก พี่ไวท์ใจร้ายที่สุด พิ้งไม่อยากเห็นหน้าพี่ไวท์แล้ว พิ้งไปก่อนนะคะ”
มาดิแกนรีบเอ่ยขอตัวพร้อมกับเขย่งหอมแก้มพี่ชายคนโตแล้วเดินออกจากบ้านไปทันที ส่วนพี่ชายทั้งสองได้แต่ส่ายหัวกับความขี้งอนของน้องสาวอย่างเป็นอันรู้กัน
“กลับมาบ้านได้แล้วเหรอ”
มอแกนเอ่ยทักทายพี่ชายออกไป พร้อมกับเดินนำเข้ามาในห้องนั่งเล่น โดยมีแบล็กเดินตามเข้ามานั่งลงฝั่งตรงข้าม
“แกไปทำอะไรให้น้องโกรธอีกล่ะถึงงอนขนาดนั้น”
“ช่างเถอะ ว่าแต่แกล่ะ มีอะไรถึงกลับบ้านได้”
มอแกนถามออกมา เพราะปกติแล้ว มอเฟียสไม่ค่อยกลับบ้านถ้าไม่มีปัญหาอะไรหนักๆ หลังจากเรียนจบ เขากับพี่ชายก็แทบจะเดินกันคนละเส้นทาง มอเฟียสเลือกที่จะเดินเข้ากลุ่มมาเฟียส่วนเขาเลือกที่จะเข้ามารับภาระทั้งหมดของครอบครัวแทน
“เปล่า ฉันก็แค่อยากกลับมา”
มอเฟียสบอกขึ้น พร้อมกับถอนหายใจยืดยาว ทำเอามอแกนที่จ้องมองอยู่ทนไม่ไหว
“ฉันกับแกเราเป็นฝาแฝดกัน แล้วคิดเหรอว่าฉันจะไม่รู้ว่าแกกำลังมีปัญหาอยู่”
“เฮ้อ ฉันต้องบินไปดูงานที่ฮ่องกง ครั้งนี้น่าจะนานหน่อย เลยคิดจะแวะมาหาทุกคนก่อนบิน”
มอแกนมองหน้าแฝดผู้พี่ เขาไม่เคยเข้าใจเหตุผลที่พี่ชายไปเป็นมาเฟีย ทั้งๆที่ธุรกิจของที่บ้านก็ใหญ่โตมากมายให้ได้ทำอยู่แล้ว
“ตอนไหนนายจะหยุด”
“.........อื้อ ฉันมาบอกนายแค่นี้ และทุกคนคงไม่อยู่บ้านใช่ไหม พอดีฉันต้องกลับไปจัดการงานอีกฉันไปก่อนละกัน”
มอเฟียสรีบกล่าวลา ก่อนจะเดินออกไป เพราะเขาไม่อยากตอบคำถามที่เขาเองก็ไม่รู้คำตอบ ขึ้นหลังเสือแล้วถ้าจะลงก็คงยาก ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากมีชีวิตปกติเหมือนคนทั่วไป แต่สิ่งที่เขาตัดสินใจทำในวันนั้น มันไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงได้ง่ายๆในวันนี้
“ฉันขอให้นายปลอดภัย...พี่ชาย”
มอแกนได้แต่มองตามหลังผู้เป็นพี่ไป ก่อนจะเอ่ยขึ้นเสียงแผ่วเบา เขาไม่สามารถทำอะไรได้เลยนอกจากภาวนาให้พี่ชายของเขาปลอดภัยทุกครั้งที่มอเฟียสเดินออกจากบ้านไป เพราะเขารู้ดีว่าวงการพวกนี้นั้น เหมือนกับเอาชีวิตไปแขวนอยู่บนเส้นด้ายในทุกย่างก้าว
ตับ! ตับ! ตับ! ตับ! ตับ!
“อ๊ะ!!! อ๊า! มะ...มอเฟียส อื้อออ อ๊า แรงอีก อื้อออ ที่รัก อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊า!!!”
“ฮึ่มมมม”
เสียงขยับโยกกระแทกกระทั้นของการร่วมรักดังขึ้นอย่างหนักหน่วงไม่ขาดสาย เมื่อตอนนี้ มอเฟียสกำลังเอาความเครียดทุกอย่างมาลงกับร่างเล็กสูงโปร่งของนางแบบสาว คู่ขาหนึ่งในหลายคนที่สามารถรองรับพลังรักอันมหาศาลของเขาได้อย่าง เรน่า ทุกครั้งที่เขามีเรื่องให้คิดมากมายอย่างเช่นตอนนี้
“ให้เรน่าไปด้วยนะคะ เรน่าอยากไปคอยให้ความสุขกับคุณ เรน่าสัญญาค่ะว่าจะไม่ทำตัวให้เกะกะเด็ดขาด นะคะ มอเฟียส”
“ไม่ได้ ครั้งนี้ผมอาจจะไม่ได้กลับมา คุณไปหาคนอื่นเถอะ ผมให้ลูกน้องโอนเงินเข้าบัญชีให้เรียบร้อยแล้ว”
พูดจบ มอเฟียสก็ลุกขึ้นเดินออกจากร่างแบบบางไปทันที ทิ้งให้เรน่าที่กำลังสับสนมึนงงกับคำพูดของเขาอยู่นั้น ก่อนจะคิดขึ้นได้ ว่าที่เขาพูดเพราะเขาทิ้งเธอเรียบร้อยแล้วตอนนี้
“มะ...มอเฟียสคะ!!! นี่มอเฟียส!! คุณจะมาทำแบบนี้กับเรน่าไม่ได้นะคะเรน่ารักคุณ มอเฟียส!!! อ๊าย!!!”
เรน่าถึงกับร้องโวยวายลั่นห้องพร้อมกับขว้างปาข้าวของใกล้มืออย่างโกรธเคือง เรื่องอะไรเขาจะมาทิ้งเธอง่ายๆแบบนี้ แล้วต่อจากนี้เงินที่เธอเคยได้รับมาตลอดก็จะหดหายไปด้วย
“ฉันไม่ยอมเด็ดขาด ฉันต้องได้คุณ...มอเฟียส!!”
หญิงสาวกัดฟันบอกออกมา พร้อมกับจ้องมองไปที่บานประตูห้องพักที่ปิดสนิท ส่วนทางด้านมาเฟียหนุ่ม เมื่อความต้องการถูกปลดปล่อยหมดแล้ว เขาก็กลับออกมาทำงานต่อ