หยูจินเซียงอยู่ทำความรู้จักกับฮูหยินน้อยที่ติดตามสามีมาร่วมงานอยู่อีกพักใหญ่ รอดูจนแน่ใจแล้วว่าไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงเหมือนที่ผ่านมานางจึงได้ขอตัวกลับ
“ขออภัยด้วยขอรับฮูหยินท่านนี้ เวลานี้คงต้องให้ท่านรั้งอยู่ที่นี่อีกสักครู่ มีเหตุเพลิงไหม้ที่จวนข้างเคียงเรา ถนนด้านหน้าถูกทหารมาปิดไว้เพื่อให้คนทางนั้นได้เดินทางออกจากจวนได้สะดวกก่อนขอรับ” บ่าวรับใช้หน้าจวนสกุลไหววิ่งเข้ามาบอกกับหยูจินเซียงก่อนที่นางจะเดินไปถึงหน้าจวน
“เพลิงไหม้ ในพิธีแต่งงานหรือ?” หยูจินเซียงไม่อยากจะเชื่อว่าจะมีเหตุการณ์คล้ายกับนางเกิดขึ้น ทั้งยังเกิดขึ้นกับเพื่อนบ้านของไหวอี้ตี่อีกด้วย”
“ขอรับฮูหยิน ได้ยินว่าเพลิงลุกไหม้จากพลุที่แขกจุดขึ้นมาใกล้กับเรือนหอ ดูเหมือนว่าบริเวณเรือนหอจะกลายเป็นต้นเพลิงแล้วลุกลามไปยังสถานที่ใกล้เคียงอีกด้วยขอรับ”
หยูจินเซียงใจหายวาบ เกมบ้านี่จะอะไรกันนักกันหนา ไม่เกิดเหตุขึ้นกับนางหรือไหวอี้ตี่ก็ยังจงใจทำให้เกิดเหตุเพลิงไหม้ในงานมงคลของผู้อื่นจนได้
รอจนสถานการณ์จากเพื่อนบ้านของไหวอี้ตี่สงบลงแล้ว บ่าวรับใช้สกุลไหวจึงได้มาส่งข่าวบอกคนในงานเลี้ยงให้ทยอยกลับออกจากจวนกันได้
หยูจินเซียงไม่เลิกม่านมองดูโศกนาฏกรรมที่น่าอดสูนั้นแม้แต่นิด นางได้กลิ่นควันไฟ ได้ยินเสียงร้องไห้ดังแว่วผ่านมาตามกระแสลมเบาๆ รู้สึกเสียใจและคาดเดาได้ในใจว่าภายในจวนแห่งนั้นได้สูญเสียสิ่งใดไปบ้าง
7 เดือนต่อมา
กลุ่มของหยูคุนและหยูเฟิง พี่ชายสองคนของหยูจินเซียงได้เดินทางกลับมาพร้อมกับกลุ่มของเวยหวังหย่ง เป็นเพราะสถานการณ์ทางชายแดนที่ก่อนหน้านี้ตึงเครียดขึ้นมาเล็กน้อย กลุ่มแรกจึงไม่ได้ถูกปล่อยให้กลับมาพัก แต่พอราชสำนักส่งทหารเข้าไปเพิ่ม พวกเขาจึงได้กลับมาพร้อมกันใน 7 เดือนต่อมา
“ท่านพ่อ ท่านแม่ ข้ากลับมาแล้ว” เวยหวังหย่งคำนับเวยติ้งอันกับกู้ฮูหยินเสร็จก็เดินมาจับมือภรรยาของตนที่มายืนรอรับอยู่หน้าประตูจวนพร้อมกับน้องและบ่าวรับใช้ในจวน
“เซียงเอ๋อร์ ข้ากลับมาแล้ว” เวยหวังหย่งจ้องมองไปที่ดวงหน้างามไม่หยุด เห็นภรรยาหน้าตาผ่องใส ซ้ำยังคล้ายว่าจะอิ่มเอิบขึ้นอีกเล็กน้อยไม่ได้ผอมแห้งบอบบางอย่างเมื่อ 7 เดือนก่อนก็ยิ่งพอใจที่ทุกคนปฏิบัติกับหญิงสาวเป็นอย่างดี
“ท่านพี่ กลับเข้าไปในจวนก่อนเถิดเจ้าค่ะ ท่านเพิ่งมาถึงพักเสียก่อน ข้าสั่งให้บ่าวเตรียมน้ำเอาไว้แล้ว” หยูจินเซียงรู้สึกเขินอายกับสายตาที่เปลี่ยนไปของเวยหวังหย่งยิ่งนัก เวลานี้เขาไม่ได้ใช้สายตาดุดันจ้องมองตนเหมือนครั้งที่พบกันครั้งแรกในอุทยานดอกไม้ แต่แววตาคุกคามที่แน่นหนักชัดเจนนั้นก็ไม่ได้อ่อนโยน ตามแบบฉบับของบุรุษชาตินักรบ
“เจ้าจำข้าได้?” เวยหวังหย่งเลิกคิ้วสูงร้องถามออกมาด้วยความแปลกใจ
“สะใภ้ใหญ่หายป่วยตั้งแต่เจ้าออกเดินทางคืนแรกแล้ว เจ้ารู้เอาไว้เถิดว่านางเป็นหน้าเป็นตาให้เจ้าได้สมเกียรติเลยทีเดียว” กู้ฮูหยินอดชื่นชมบุตรสะใภ้หลายประโยคไม่ได้
คนสกุลเวยทุกคนไม่มีผู้ใดรู้บ้างว่าสองสามีภรรยายังไม่ทันได้เข้าหอก็ต้องแยกจากกัน พวกเขารีบแยกตัวกระจายกันออกไปคนละทิศละทาง ปล่อยให้สองสามีภรรยาเดินจูงกันกลับเรือนพักไป
หญิงสาวใจตุ้มๆ ต่อมๆ กับท่าทางห้าวหาญของผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีของตน เวยหวังหย่งสูงใหญ่ เวลานี้เขาแทบจะอุ้มนางแทนการจับจูงเดินแบบคนปกติด้วยซ้ำ
“พวกเจ้าออกไปให้หมด” เวยหวังหย่งไล่สาวใช้สี่คนที่เพิ่งเตรียมน้ำให้เขาเสร็จออกจากเรือนพัก
“จินเซียง เจ้าหายป่วยแล้วจริงหรือ” ชายหนุ่มแย้มยิ้มอย่างเบิกบาน เขาต้องการให้หยูจินเซียงเป็นภรรยาโดยสมบูรณ์อยู่แล้ว แต่จะไม่ดีกว่าหรอกหรือหากอีกฝ่ายมีสติสัมปชัญญะครบถ้วน
“ข้าหายป่วยนานแล้วเจ้าค่ะ ข้าจดจำทุกอย่างได้ดี ท่านไปอาบน้ำเสียก่อน อีกเดี๋ยวพวกเราสองคนต้องออกไปร่วมโต๊ะกับท่านพ่อท่านแม่อีก ท่านอย่าทำรุ่มร่าม” หยูจินเซียงดิ้นเบาๆ อยู่ในอ้อมกอดของเวยหวังหย่ง
คนผู้นี้คงไม่จับนางกินตอนฟ้ายังสว่างเช่นนี้กระมัง ถึงแม้บ่าวรับใช้จะออกไปนอกเรือนกันหมดแล้ว แต่นางรู้ว่าคนเหล่านั้นย่อมเฝ้ารอรับใช้อยู่ใกล้ๆ
“เจ้าไม่ต้องกลัวข้ารอมาได้ 7 เดือน รออีกไม่กี่ชั่วยามจะทำไม่ได้เชียวหรือ” เวยหวังหย่งลูบไล้ไปที่เส้นผมและแผ่นหลังบอบบางของหญิงสาว สูดดมเอากลิ่นกายของนางเข้าปอดไปด้วยความคิดถึง
“แม้ว่าข้าจะหายป่วยแล้วแต่ก็ใช่ว่าจะจำความในอดีตได้ทั้งหมด เราสองคนใช้เวลาทำความรู้จักกันอีกสักพักดีหรือไม่เจ้าคะ” หยูจินเซียงรู้สึกว่าเวยหวังหย่งรีบรุกเกินไปแล้ว ต่อให้รู้ว่านี่เป็นเกมแต่นางก็ทำใจยอมเป็นภรรยาบุรุษที่เพิ่งพบหน้าไม่กี่ครั้งได้ลง
เกมนี้ก็เสมือนจริงจนนางรู้สึกหวาดหวั่นไม่น้อยกับร่างกายที่ไม่คุ้นชินของบุรุษตรงหน้า อย่าว่าแต่ในเกมเลย ในชีวิตจริงนางก็ยังไม่เคยมีคนรัก ไหนเลยจะใจกล้าหน้าทนสมยอมได้หน้าตาเฉย
อีกฝ่ายก็ไม่ได้บีบบังคับใจ เวยหวังหย่งเพียงแค่วางปลายคางที่เต็มไปด้วยหนวดเคราของตนไว้บนศีรษะของหญิงสาว
“ตกลง ข้าจะรอจนกว่าเจ้าจะยอมรับข้าด้วยความเต็มใจ” เวยหวังหย่งไม่ได้หมายถึงหยูจินเซียงเพียงผู้เดียว แต่กำลังพยายามข่มกลั้นความต้องการทางร่างกายของตนเองไปพร้อมกัน
เขายังไม่มั่นใจด้วยซ้ำ ว่าการเปลี่ยนแปลงในใจอย่างกะทันหันของตนนั้นเป็นเพราะเสียใจที่ไม่ได้หูอี้เหลียนมาเป็นภรรยา หรือเป็นไปเพราะความต้องการตามธรรมชาติของบุรุษเมื่อได้ใกล้ชิดกับหยูจินเซียง
เรื่องหูอี้เหลียนนั้นตนตัดใจไปแล้ว หากหยูจินเซียงยังคงมีอาการป่วย ตนก็จะร่วมหอกับนางตามความเห็นของผู้อาวุโสที่ภรรยามีหน้าที่ให้กำเนิดบุตร แต่ในเมื่อนางปกติดีแล้วก็ควรให้เวลานานนานกว่านี้อีกสักนิด
ถึงเวลากลางคืนหยูจินเซียงก็เริ่มใจสั่นอีกครั้ง แม้เวยหวังหย่งจะรับปากแล้วว่าจะยังไม่แตะต้องนาง แต่การนอนบนเตียงเดียวกันกับบุรุษผู้แผ่รัศมีความเป็นชายออกมาอย่างเหลือล้นนั้น ไม่นางก็เขาคนใดคนหนึ่งอาจจะอดทนกับแรงกระตุ้นตามธรรมชาติไม่ไหวก็เป็นได้
หญิงสาวเดินวนเป็นหนูติดจั่นอยู่ในห้องนอนอย่างกล้าๆ กลัวๆ แต่จนแล้วจนรอดผ่านไปนับชั่วยามก็ไม่เห็นเวยหวังหย่งกลับเข้ามาในเรือนนอนแต่อย่างใด
“ซินอี้ ซินยี่ พวกเจ้าลองไปดูที่ห้องหนังสือทีว่าท่านพี่ทำสิ่งใดอยู่ แต่หากเขามีธุระพวกเจ้าก็ไม่ต้องเข้าไปวุ่นวาย ถามความเอาจากบ่าวรับใช้ของเขาก็พอ” หญิงสาวรู้สึกว่าผิดปกติเกินไป เวยหวังหย่งเพิ่งกลับมาถึงจวนเป็นวันแรก ต่อให้มีธุระหนักหนาเพียงใดก็สมควรรีบกลับมาพักผ่อน
ซินยี่เป็นฝ่ายอาสาออกไปถามความเอง หายไปไม่ถึง 1 เค่อ (15 นาที) นางก็กลับมาบอกหยูจินเซียง
“บ่าวยังไปไม่ถึงห้องหนังสือก็ได้พบกับคนที่ท่านเขยส่งมาก่อน ดูเหมือนว่ามีเรื่องสำคัญให้ท่านเขยต้องออกไปนอกจวนโดยด่วน เลยให้คนมาแจ้งฮูหยินว่าไม่ต้องรอเจ้าค่ะ”
หยูจินเซียงมองว่าเรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องปกติในยามที่บ้านเมืองมีสงคราม ขนาดคืนวันแต่งงานเวยหวังหย่งยังต้องออกเดินทางตามคำสั่ง นางจึงปล่อยวางและเข้านอนไปอย่างไร้กังวล
ผ่านไป 8 วัน เวยหวังหย่งก็ยังไม่กลับมาที่จวน ไม่แม้กระทั่งจะส่งข่าวมาบอกหยูจินเซียงด้วยซ้ำ มีเพียงเวยติ้งอันกับกู้ฮูหยินที่ทำสีหน้ายุ่งยากใจและเกลี้ยกล่อมให้สะใภ้ใหญ่รอคอยอย่างใจเย็น
ยังดีที่หยูคุนและหยูเฟิงพี่ชายใหญ่และพี่ชายรองของนางพาน้องสาวสองคนจากจวนสกุลหยูมาเยี่ยมนางที่จวนสกุลเวยบ้าง ทำให้หญิงสาวไม่ได้เอาแต่หมกมุ่นครุ่นคิดถึงความผิดปกติของสามี
“คุณหนู บ่าวคิดว่ามีบางอย่างที่ผิดปกติอยู่นะเจ้าคะ” ซินอี้เข้ามากระซิบเสียงเบากับนายหญิง
“มีสิ่งใดผิดปกติหรือซินอี้”
หยูจินเซียงหูผึ่งขึ้นมา นางคิดเอาไว้แล้วว่าการหายไปของเวยหวังหย่งต้องเป็นเนื้อเรื่องอะไรสักอย่างในเกม นางเพียงแค่รอว่าจะมีสิ่งใดเกิดขึ้นเท่านั้น