เช้าวันนี้ทัพไม่ได้มากินข้าวที่บ้านใหญ่ ตื่นมาก็ไม่เห็นแล้วจนทิษยาสงสัยจึงเอ่ยถาม
“คือ..พี่ทัพเขาคงรีบน่ะครับ”
“รีบเหรอ..งานด่วนล่ะสินะ”
ขิงไม่กล้าบอกว่าเมื่อคืนทัพกลับไปนอนที่นั่นไม่อย่างนั้นตนคงจะโดนว่ากล่าวอย่างมาก
“เดี๋ยวคืนนี้มีงานสังสรรค์นะ แกก็ไปกับทัพเดี๋ยวฉันโทรบอกเขาอีกที”
“งานสังสรรค์เหรอครับ”
“ก็งานพบปะทั่วไป ที่จริงฉันไม่อยากให้แกออกงานสังคมหรอกแต่คนอื่นเขาอยากเห็น เฮ้อ…อย่าทำอะไรขายหน้าล่ะ มารยาทของผู้ดีศึกษามาบ้างหรือเปล่า”
ขิงก็พยักหน้าเพราะเขาถูกป้าฝึกมาบ้าง
“งั้นก็ดี คืนนี้ก็ไปร่วมงาน”
หลังจากกินข้าวขิงจึงว่างเหมือนทุกวัน เขาตัดสินใจหางานอดิเรกได้นั่นคือการถักไหมพรม เขาเลือกที่จะถักเสื้อผ้าของเด็กน้อยเพื่อให้ลูกทั้งสอง ไม่รู้ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง
หวังว่าป้าจะเลี้ยงดูอย่างดี
ถอนหายใจพลางถักไปเรื่อยกระทั่งหยุดมือเพราะเริ่มไปต่อไม่เป็น
“เอ่อ..ต้องถักแบบนี้ครับ”
เสียงของใบข้าวดังขึ้นเขากำลังยกของว่างมาให้พอดี
“ไม่ต้องมายุ่ง”
พอถูกพูดว่าใบข้าวจึงยืนมองอยู่ห่าง ๆ แต่สายตายังคงมองไหมพรมและได้ยินเสียงหงุดหงิดจากขิงเป็นระยะจนสุดท้ายคนถักก็ต้องหันมามอง
“นี่…ถักยังไงนะ”
พอใบข้าวได้ยินก็ยิ้มแล้วเดินมาสอน ขิงจึงทำตามและก็เป็นไปได้ดี
“นายถักบ่อยเหรอ”
“ผมชอบถักครับ..เพราะคุณแม่ใหญ่คุณแม่เล็กจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าช่วยสอน ยิ่งตอนหน้าหนาวก็ถักให้น้อง ๆ ครับ”
“งั้นเหรอ…”
ใบข้าวก็มองไหมพรมที่เริ่มเป็นรูปร่างเสื้อเด็กก็หน้าเจื่อนลง ขิงเห็นสีหน้านั้นก็ยกยิ้มเพราะรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไร
“เสื้อผ้าของลูกฉันนายว่าโอเคไหม”
“….ครับ”
“อีกไม่นานเขาก็จะเกิดมา นายคงต้องช่วยดูแลด้วยนะ”
คนฟังเม้มปากแล้วพยักหน้า
แต่แล้วเสียงฝีเท้าได้วิ่งมาเป็นคนรับใช้คนหนึ่งท่าทางเร่งรีบ
“มีอะไร”
“คือใครไม่รู้ปั้นตุ๊กตาสาปแช่งไว้ที่ด้านหลังบ้านค่ะ คุณนายรีบให้มาบอก”
“อะไรนะ! ตุ๊กตาสาปแช่ง”
“ใช่ค่ะ”
ขิงก็ขมวดคิ้วแต่แอบยิ้มเพราะคุณนายบอกกล่าวกันไว้ก่อนหน้าแล้วว่าจะให้คนปั้นตุ๊กตาสาปแช่งเพื่อใส่ร้ายใบข้าว
“แล้วรู้ไหมว่าใครทำ”
“ไม่รู้ค่ะ รีบไปดูเถอะค่ะ คุณนายรออยู่”
“อะ..อืม..”
ขิงจึงรีบเร่งตามไปโดยมีใบข้าวตามไปด้วย เมื่อไปถึงเขาก็เห็นกลุ่มคนรวมทั้งทิษยายืนกอดอกรออยู่ สีหน้าของทุกคนล้วนรู้เห็นยกเว้นใบข้าวที่เดินตามมา
“มีอะไรเหรอครับคุณแม่”
“ก็มีคนคิดร้ายกับลูกน่ะสิ เพ็ญเอามาให้ดูเร็ว”
เพ็ญจึงยื่นให้ดู ตุ๊กตานั้นสลักชื่อของขิงไว้พร้อมกับมีกระดาษสาปแช่ง พอขิงเห็นก็ขมวดคิ้วเพราะมันน่ากลัวกว่าที่คิดอย่างมาก เขาเหลือบตามองคุณนายที่มีสีหน้าสะใจเล็กน้อยมองยังไงก็เหมือนจะชอบใจที่ตุ๊กตาสาปแช่งนี้ทำได้ดี
เธอไม่ได้คิดที่จะทำให้ใบข้าวตกที่นั่งลำบากเท่านั้นแต่คำสาปแช่งนี้ยังเข้าตัวขิงเต็ม ๆ หากมันเป็นของปลอมก็ดีไปแต่ถ้าของจริงล่ะ
ขิงพยายามทำสีหน้าปรับเปลี่ยนเป็นสงสัย
“ใครทำแบบนี้กับผม! ชั่วช้าสารเลวจริง ๆ!”
ทิษยาและเพ็ญกัดฟันแต่ก็ต้องแสดงต่อไป
“นั่นสิ ใครมันกล้าทำลูกของแม่ คนที่น่าสงสัยก็คงเป็น….”
เพียงเท่านั้นแววตาของทุกคนต่างมองไปยังใบข้าวเป็นตาเดียวจนเจ้าตัวเริ่มรู้ว่าพวกเขาคิดอะไร
“ผมไม่ได้ทำนะครับ”
คุณนายหรี่ตามองแล้วเดินไปเผชิญหน้า
“นอกจากแกใครจะทำอีก!”
“ผม…ผมไม่ได้ทำ”
เพียะ!
เสียงตบดังลั่นพร้อมกับหน้าของใบข้าวที่แดงเรื่อ เขาน้ำตาคลอพลางมองคนอื่น ๆ ที่กำลังยิ้มอย่างสะใจ เขาส่ายหน้ารีบถอยเท้าพลางยกมือไหว้
“คุณนายผมไม่ได้ทำจริง ๆ นะครับ”
“ก็มีแค่แกที่คิดร้ายกับสะใภ้ฉัน ถ้าไม่ใช่เมียน้อยอย่างแกจะเป็นใครได้!”
“ผมขอสาบานว่าไม่ได้ทำ!”
“ฉันไม่เชื่อ..รีบพามันไปขังเร็วเข้า! เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยจัดการ”
พอเหล่าคนใช้ได้ยินจึงรีบจับตัวใบข้าวไว้
“คุณนายผมไม่ได้ทำจริง ๆ นะครับ คุณนาย!” เสียงตะโกนพร้อมเสียงร้องไห้อย่างไม่ยินยอมดังขึ้นลั่นแต่เขาก็ไม่อาจสู้แรงหลายคนได้ เมื่อใบข้าวถูกพาไปทิษยากับขิงก็มองหน้ากันเล็กน้อยจากนั้นเธอก็เดินไป
ขิงกำมือแน่น เพราะเขาคิดว่านางคุณนายต้องคิดกำจัดตนในอนาคตแน่นอน คงต้องหาหนทางเอาคืน