อาทิตาไม่สามารถกระดิกกระเดี้ยไปไหนได้ ลมหายใจอุ่นร้อนเข้าออกไม่เป็นจังหวะ พอถูกขโมยจูบรุนแรงอย่างนี้ เธอก็ตั้งสติไม่ได้เหมือนกัน
“อื้อ...”
เสียงอู้อี้เล็ดลอดออกจากริมฝีปากงาม ศราวิลหาได้ใส่ใจ อารมณ์อันหลากหลายเข้าครอบงำร่างเขา ทำได้แค่กอดอาทิตาแน่นๆ แล้วลากหล่อนไปทิ้งร่างลงบนเตียงพร้อมกัน
หญิงสาวจุกไม่น้อยเมื่อคนข้างบนโถมทับร่างเธอ ริมฝีปากยังถูกจูบ เขาไม่ฟังอะไรเลย ตะบี้ตะบันจูบลงมาอย่างดุดัน เธอหายใจไม่ทั่วท้อง เนื้อตัวร้อนไปหมด ทำอะไรไม่ได้ก็กัดริมฝีปากเขาเสีย
“อ๊า! นี่เธอ!?” ศราวิลมองคนที่อยู่ใต้ร่าง ดวงตาแดงก่ำของหล่อนบ่งบอกได้หลายอย่าง หล่อนอาจจะโกรธหรือไม่ก็กลัว
“รีบปล่อยก่อนที่ฉันจะกรี๊ดลั่นบ้าน” อาทิตามีขู่ เธอทำได้แค่ขู่จริงๆ ในตอนนี้
“ฉันไม่ปล่อย!”
แล้วศราวิลก็ทำอย่างที่เขาพูดไว้ แม้ริมฝีปากจะมีเลือดซึม แต่ยังดึงดันจูบอาทิตาไม่หยุด หล่อนดิ้นอยู่ใต้ร่างเขา ได้กลิ่นลมหายใจอันผ่าวร้อน ได้กลิ่นเนื้อสาวหอมกรุ่น หล่อนดิ้นแรงขึ้นเรื่อยๆ ทว่าอยู่ๆ ร่างหล่อนก็...หยุดนิ่ง
การนิ่งเฉยเกินไปของอาทิตาสะกิดใจเขา ตัดใจผละจากริมฝีปากนั้น อาทิตามองมาด้วยแววตาคล้ายตัดพ้อต่อว่า
“ไหนว่าไม่ทำ...คนที่ไม่เต็มใจไง ดิ้นจนหมดแรงขนาดนี้ ยัง...ไม่รู้อีกเหรอ”
ศราวิลลุกจากการโถมทับร่างบาง หยดน้ำใสเจือจางในดวงตาหล่อน ช่างน่าสงสารนัก นี่เขาทำอะไรลงไป ไม่เคยต้องทำแบบนี้กับผู้หญิงไม่ใช่เหรอ
“เธอยั่วโมโหฉันก่อน”
เขาแก้ต่าง ไม่มีการโต้เถียงของอาทิตา มีแต่รอยยิ้มสมเพชที่หล่อนส่งมาให้เขา หล่อนพลิกตัวนอนตะแคง คู้ร่างบนเตียงโดยไม่แยแสผ้าห่ม
เขาถอยห่างร่างหล่อน นั่งลงข้างเตียงนั้นแล้วคิดทบทวนสิ่งที่ทำลงไป เขาต้องการอะไรจากอาทิตากันแน่ ต้องการให้หล่อนเสียใจ หรือต้องการให้หล่อนมองมาที่เขา เมื่อไม่ได้อย่างที่หวังก็ถึงกับใช้กำลัง มันใช่หรือ
ความมุ่งมั่นตั้งแต่เจอหน้าอาทิตาและได้รู้ว่าหล่อนคือลูกเมียน้อยของพ่อเขา มันหายไปได้ด้วยหรือ หรือเป็นเพราะเขาอยู่ใกล้หล่อนมากเกินไป ถูกปากร้ายๆ แต่ไร้เดียงสาของหล่อนครอบงำจนลืมความมุ่งมั่นก่อนหน้า เขาต้องทำให้หล่อนเจ็บสิ
ใช่...ตอนนี้หล่อนก็เจ็บบ้างแล้ว แต่ทำไม...เขาไม่ได้รู้สึกสะใจสักนิดเดียว
“อือ...นะ...หนาว หนาว...แม่คะ...ซัน...หนาว...”
เสียงครางของอาทิตา ฉุดความสนใจของศราวิลให้พุ่งไปที่หล่อนอีกครั้ง หล่อนหนาวหรือ
มือข้างหนึ่งแตะเข้าที่ท่อนแขนเรียว ศราวิลประหลาดใจที่ได้รู้ว่าหล่อนตัวร้อนขนาดนี้ หรือเพราะความโกรธจนหน้ามืดตามัวทำให้เขาละเลยส่วนนี้ไป เขาอุ้มอาทิตาขึ้นไปนอนหนุนหมอนดีๆ ชุดนอนที่หล่อนสวมเป็นเสื้อยืดผ้านิ่มกับกางเกงขาสั้นสีเดียวกัน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าหล่อนสวมอะไรข้างในหรือเปล่า มันเดาได้ไม่อยากเลย โดยเฉพาะเมื่อพุ่มทรวงอวบอัดผลิพุ่งตั้งชันขนาดนี้
“นี่เธอ เธอ...กินยาหรือยัง” เขาเขย่าตัวหล่อน อาทิตาลืมตาขึ้นมา “ฉันถามว่ากินยาหรือยัง”
หญิงสาวมองเขาตาขวาง รู้ว่าเขาถามอะไร แต่ไม่ยอมตอบ ฝืนกายพลิกหันหลังให้ ไม่พูด ไม่มองหน้า ไม่อยากได้ยินแม้แต่เสียง
ศราวิลเม้มปากอย่างข่มใจ ไม่ตอบก็อย่าตอบ ไม่ตอบงั้นก็ทำอย่างอื่นให้ไข้มันลดก็แล้วกัน
แล้วศราวิลก็ทำอย่างที่ใจคิด เขาหาผ้ามาเช็ดตัวให้อาทิตา เช็ดเท่าที่ทำได้ ไม่ยอมถอดเสื้อผ้าหล่อนออก เพราะกลัวจะอดใจไม่ไหวปล้ำคนป่วยขึ้นมาจริงๆ เช็ดตัวหล่อนไปสักพัก เนื้อตัวก็เริ่มเย็นลง จะเหลือก็ที่หน้าผาก ที่เช็ดอย่างไรก็ไม่ทุเลาเสียที
“เธอนี่จริงๆ เลย ทำไมถึงสร้างความลำบากให้ฉันขนาดนี้นะ”
ปากบ่นว่าแต่มือหยิบผ้าชุบน้ำมาบิดเบาๆ แล้ววางบนหน้าผากนูนเกลี้ยง หล่อนนอนนิ่งในขณะที่เขานั่งเอาหลังพิงหัวเตียง เพื่อคอยเปลี่ยนผ้าเปียกออกจากหน้าผากให้
เขาทำอยู่อย่างนั้น ตั้งแต่อาทิตาเพิ่งหลับไป จนได้ยินเสียงไก่ขันดังมาจากด้านนอก
และด้วยความเมื่อยล้า ศราวิลเลยผล็อยหลับในท่าที่ยังนั่งอยู่ ศีรษะเขาวางเกยอยู่ขอบเตียง มือข้างหนึ่งวางอยู่ใกล้กับศีรษะของอาทิตา ราวกับชายผู้ภักดีที่คอยดูแลสตรีที่รักมาตลอดทั้งคืน จนในที่สุดก็เผลอหลับไป