มาร์ตินที่นั่งอยู่เงยหน้ามาถามนิวเยียร์ ทำให้ผมหันไปมองหน้าไอ้นิวเยียร์ ไม่ใช่แค่ผมนะ ทุกคนก็หันหน้าไปมองไอ้นิวเยียร์กันหมด
“ก็เขาดูน่ารักดีนี่หว่า น่าสนใจดีนะเด็กคนนั้นน่ะ” ไอ้นิวเยียร์พูดขึ้นแล้วยิ้มเล็กน้อย นี่มันชอบยัยนั่นจริงๆ เหรอ? ผมไม่อยากจะเชื่อเลย
“นิไม่ขัดนะคะว่าพี่จะชอบใคร แค่เขาชอบพี่ชายของนิจริงๆ ก็พอ” นิต้าที่ยืนข้างๆ นิวเยียร์พูดขึ้นมาแล้วฉีกยิ้มให้พี่ชายตัวเอง
“ขอบใจนะ” นิวเยียร์ก้มลงยิ้มให้นิต้าแล้วเอามือยีหัวน้องสาวเบาๆ ก่อนที่มันจะเหลือบมาสบตากับผมที่มองหน้ามันอยู่
“เลโอ กูลืมซื้อน้ำมาว่ะ ไปซื้อกับกูหน่อย”
ไอ้นิวเยียร์บอกผมแล้วก็เดินนำออกไปนอกเขตสนาม ผมจึงลุกเดินตามมันออกไป ผมไม่รู้เหรอกว่ามันจะพูดอะไรกับผมแต่ผมก็แอบสังหรณ์ใจว่ามันอาจจะเกี่ยวกับเรื่องของยัยนั่นก็ได้
“อะไรอ่ะ น้ำกับขนมหรือพวกผ้าเย็นก็ซื้อมาหมดแล้วนี่นาพี่เขาจะไปซื้ออะไรอีกเนี่ยแค่นี้ก็เยอะแล้วนะ” นิต้ายืนบ่นพึมพำอยู่แล้วก้มลงมองของที่ซื้อมาแบบงงๆ
“มันอาจไม่พอก็ได้ไงค้าบน้องนิ แต่ว่ามันมีกลิ่นเรื่องสนุกอยู่นะ” น้ำนิ่งเดินมาข้างๆ นิต้าแล้วพูดขึ้น
“มึงเป็นหมาเหรอวะนิ่ง จมูกดีเกินไปละ 55555” มาร์ตินล้อน้ำนิ่งแล้วระเบิดหัวเราะออกมา
“มึงนี่ปากหมาไม่เลิกนะไอ้มาร์ติน มาๆ กูจะถีบเอาหมาออกจากปากให้” น้ำนิ่งหันหน้าไปมองก่อนจะวิ่งไล่ถีบมาร์ตินรอบสนามบาส จนคนที่นิ่งเงียบมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างสิงโตถึงกับถอนหายใจและกุมขมับ
ไอ้นิวเยียร์มันเดินนำผมมาหยุดอยู่ข้างโรงยิมแล้วมันก็หันหน้ามาจ้องผมนิ่งๆ แล้วก็เดินวนรอบตัวผมแล้วทำหน้ายิ้มๆ ออกมา นี่มันจะทำอะไรผมมั้ย ทำไมมันต้องเดี๋ยวหน้านิ่งเดี๋ยวยิ้มมาทางผมวะ ผมขนลุกนะเนี่ย -_-”
“ถ้ากูสนใจเด็กคนนั้นมึงไม่ขัดข้องอะไรใช่มั้ยวะ เลโอ” ไอ้นิวเยียร์ที่เดินวนรอบตัวผมหนึ่งรอบมาหยุดอยู่ข้างหน้าผมแล้วพูดขึ้น
“เรื่องของมึงดิ ถามกูทำไม?” ทำไมมันต้องมาถามผมเรื่องนี้วะ?
“กูเห็นนะ ทุกวันเลยตั้งแต่ย้ายเข้ามาเด็กคนนั้นนั่งรถมาโรงเรียนกับมึงทุกวัน ทีแรกกูก็เข้าใจว่ามึงมีแฟนแต่ดูจากที่มึงจอดรถในที่ลับตาคนแล้วให้เด็กคนนั้นเดินเข้าโรงเรียนเองกูเลยคิดว่าไม่น่าจะใช่ แต่กูก็ต้องถามเพื่อความแน่ใจก่อนว่ามึงจะไม่ขัดข้องอะไรถ้ากูจะเดินหน้าจีบเขา”
ในที่สุดก็มีคนรู้สินะสิ่งที่ผมไม่อยากบอกใครว่ายัยนั่นมากับผมทุกวัน ปกติผมไม่สนเหรอกว่าใครจะยังไง แต่ถึงยัยนั่นจะน่ารำคาญ อ่อนแอ แต่ผมก็ไม่อยากให้ยัยนั่นมีปัญหาหรือโดนรังแกที่โรงเรียนเพราะแค่ซ้อนท้ายผมมาโรงเรียน แต่สิ่งที่ไอ้นิวเยียร์ทำเมื่อวานอาจจะทำให้ยัยนั่นโดนรังแกก็ได้
“เพื่อนสมัยเด็ก...”
ผมบอกออกไปตามจริง ยอมรับเลยว่าผมตกใจเล็กน้อยที่ไอ้นิวเยียร์คิดจะเข้าหายัยนั่นเพราะดูท่าทางแบบยัยนั่นไม่น่าจะตรงสเปคไอ้นิวเยียร์เท่าไหร่ ผมไม่ได้รู้สึกอะไรเหรอกถ้าต่อไปนี้ยัยนั่นอาจจะได้เป็นแฟนของเพื่อนผม จริงๆ นะ...
“งั้นถือว่ากูบอกมึงแล้วนะเว้ย คนนี้กูสนใจจริงๆ ชื่อบราวนี่สินะ ชื่อน่ารักซะด้วย ^^”
นิวเยียร์ยิ้มให้ผมก่อนจะเดินมากอดคอผมแล้วลากผมไปที่สนามบาสเหมือนเดิม นี่มึงติดนิสัยแบบนี้มาจากไอ้ตินกับไอ้นิ่งใช่มั้ยวะเนี่ย -_-*
“ไหนว่าไปซื้อน้ำไง?” พอพวกเราเดินมาถึงสนามไอ้เชี่ยวก็ปลายตามามองทางเราก่อนจะถามขึ้น
“เออว่ะ กูลืมซื้อเลยไม่เป็นไรเหรอกในนั้นมีเยอะแล้ว ^^”
ไอ้นิวเยียร์ตอบไอ้เชียวไปอย่างอารมณ์ดี ความอารมณ์ดีกับมันทำให้ทุกคนหันมามองแบบงงๆ ต่างจากผมที่ตอนนี้ในหัวของผมยังมีแต่คำพูดของมันวนอยู่เต็มไปหมด ‘ชื่อบราวนี่สินะ..’ ‘คนนี้กูสนใจจริงๆ ..’ ‘ถ้ากูสนใจเด็กคนนั้นขึ้นมามึงไม่ขัดข้องอะไรใช่มั้ยวะ..’ คำพูดเหล่านี้มันยังคงวนอยู่ในหัวผมไม่หยุด แล้วทำไมผมถึงสลัดมันออกไปจากหัวไม่ได้ด้วย หรือว่าผมจะเริ่มเป็นคนน่ารำคาญขึ้นมาแล้วเหรอ? เห้อ อารมณ์เสียชิบ!!
...วันต่อมา..
วันนี้ฉันมาถึงโรงเรียนก็นั่งฟุบอยู่ที่โต๊ะเลย ฉันมึนหัวมากไม่รู้เลโอเป็นอะไรไปวันนี้เขาขับรถเร็วกว่าปกติมากซึ่งปกติของเขาคือเร็วมากอยู่แล้วแต่วันนี้คือเร็วกวันไหนๆ เลย ขับปาดซ้ายปาดขวาจนฉันกรี๊ดจนแสบคอแถมยังเวียนหัวไปหมดจนอยากจะขย่อนข้าวต้มเมื่อเช้าออกมาทางเดิมเลย TT
“อรุณสวัสดิ์น๊าบราวน์น้อยของฉัน จุ๊บๆ >3
“หน้าเธอดูซีดๆ นะ ไม่สบายเหรอบราวนี่” คริสตัลพูดขึ้นแล้วยกมือขึ้นมาทาบที่หน้าผากฉัน ฮันนี่เองก็ยกสองมือขึ้นมาจับแก้มฉันเหมือนกัน
“ป..เปล่าจ้ะ เมื่อเช้านี้โชเฟอร์รถเมล์ที่ฉันนั่งมาเขาขับรถเหวี่ยงน่ะฉันเลยเมารถนิดหน่อย”
ฉันพูดโกหกเพื่อนออกไปอย่างช่วยไม่ได้ ฉันไม่อยากให้ใครรู้เหรอกว่าฉันมาโรงเรียนพร้อมเลโอทุกวันเพราะต้องการเลี่ยงปัญหา แล้วดูเหมือนเลโอเองก็ไม่ได้อยากให้ใครรู้เหมือนกัน...
“รถคันไหนเนี่ย ฉันจะร้องเรียนซะให้เข็ดเลยขับรถแบบนี้ผู้โดยสารในรถจะเป็นอันตรายนะ -*-” ฮันนี่ทำหน้ามุ่ยแล้วบ่นให้โชเฟอร์คนที่ฉันพูดถึง
“เดี๋ยวฉันก็ดีขึ้นแหละ ตอนนี้แค่มึนๆ กับอยากอ้วกนิดหน่อยเอง @_@”
ฉันทำหน้าอ้อนแล้วกอดแขนฮันนี่ไว้ ส่วนฮันนี่และคริสตัลก็ผลัดกันลูบหัวฉันเบาๆ อย่างเอ็นดู ดีจริงๆ ที่มีเพื่อนรักแบบนี้ ฉันนี่โชคดีจริงๆ >
‘ว๊าย มาทำอะไรแถวนี้คะ กรี๊ดๆๆๆ’ เสียงกรี๊ดกร๊าดดังมาจากข้างนอก ทำให้ฉันกับเพื่อนหันไปมองทางต้นเสียงนั้นก็เจอกับนิวเยียร์ที่กำลังเดินเข้าห้องมาทางพวกเรา เขามาทำอะไรที่นี่อ่ะ เขาเรียนอยู่ห้องพิเศษไม่ใช่?
“อ่ะนี่ เมื่อเช้าฉันเห็นเธอเดินผ่านแล้วสีหน้าดูไม่ดีเท่าไหร่น่ะเลยเป็นห่วง ^^” นิวเยียร์ฉีกยิ้มให้พร้อมทั้งยื่นถุงขวดน้ำ ผ้าเย็น แล้วก็ขนมต่างๆ มาตรงหน้าฉัน
“O_O?” ฉัน
“-*-++” ฮันนี่
“-_-?” คริสตัล
“55555 พวกเธอนี่ทำหน้าตลกชะมัดเลย แต่หน้าแบบนี้มันก็น่ารักดีนะ ^^” นิวเยียร์โน้มหน้าลงมามองหน้าฉันแล้วยกมือขึ้นมาจะลูบหัวฉันที่กำลังนั่งมองเขาแบบอึ้งๆ
เพี๊ยะ!!
“อย่าเอามือนายมาแตะเพื่อนฉันนะ!” -*-++ ฮันนี่ตีมือนิวเยียร์เสียงดังพร้อมพูดกับขึ้นแล้วส่งสายตาที่พร้อมจะมีเรื่องสุดๆ ใส่นิวเยียร์
“ไม่เอาน่าฉันแค่เป็นห่วงเพื่อนเธอเองนะ เธอนี่มือหนักชะมัดเลย” นิวเยียร์พูดตอบพร้อมกับสะบัดมือข้างที่โดนฮันนี่ตีไปมา ท่าทางเขาคงเจ็บแหละมือแดงเลย
“ฉันต่อยนายแน่ถ้านายยังไม่ออกไปจากห้องพวกเรา ออกไปเลยนะ!” ฮันนี่ตอบกลับนิวเยียร์เสียงดัง ส่วนคริสตัลก็ยืนกอดอกมองนิวเนียร์นิ่งๆ แบบไม่รับแขก
“เอ่อ...นายกลับไปเถอะนะ ขอบคุณที่เป็นห่วงฉันไม่ได้เป็นอะไรเหรอก^^-” ฉันบอกนิวเยียร์ไปเพื่อให้เขารีบออกไปก่อนที่ฮันนี่จะพุ่งไปชกหน้าเขาจริงๆ
“อื้ม ^^ เธออย่าลืมกินของที่ฉันซื้อมาให้ด้วยนะฉันไปล่ะ”
นิวเยียร์โบกมือบ๊ายบายฉันก่อนจะเดินออกจากห้องไป แล้วเสียงกรี๊ดของสาวๆ ก็กรี๊ดดังห่างออกไปเรื่อยๆ แต่หลังจากนั้นฉันก็รู้สึกขนลุกกับสายตาของผู้หญิงจากทั้งในห้องและนอกห้องที่มองเข้ามามองฉันเป็นตาเดียวกัน น่ากลัว TOT
“ยังไงๆ บราวนี่ไหนบอกว่าไม่ได้คบกันไง ทำไมหมอนั่นดูเทคแคร์เธออกนอกหน้าขนาดนี้อ่ะ” ฮันนี่ลากเก้าอี้มานั่งข้างฉัน แล้วจ้องหน้าฉัน
“นั่นสิบราวน์ ทำไมนายนั่นดูเทคแคร์เธอออกหน้าแบบนี้” คริสตัลเอ่ยถามฉันอีกคน อ๋อยยย ฉันไม่รู้ TT
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ทำไมจู่ๆ เขาทำแบบนี้ ฉันไม่ได้สนิทหรือรู้จักเขาเป็นพิเศษเลยนะ TT” ฉันทำหน้าเบ้ทันที เพราะรู้เลยว่าฉันต้องโดนหาเรื่องแน่ๆ ขนาดรอบก่อนที่มีแค่รูปออกมาฉันยังโดนริเรียจิกตาใส่เลย ไหนจะผู้หญิงคนอื่นๆ ทั่วโรงเรียนอีก ตายแน่ๆ บราวนี่ไม่พ้นอายุ 18 แน่ๆ TT_TT
“ลาเรียนสักอาทิตย์มั้ยบราวน์ ให้เรื่องมันเงียบก่อนค่อยมาเรียน ไม่งั้นเธออาจะโดนผู้หญิงพวกนั้นหาเรื่องแน่ๆ ” คริสตัลพูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
“ไม่ได้เหรอกคริสต์ อีกไม่นานเรามีสอบมิดเทอม ถ้าช่วงนี้ขาดเรียนบราวนี่อาจจะตามงานไม่ทันก็ได้ ไม่เป็นไรเหรอกฉันจะปกป้องบราวนี่น้อยของฉันเอง >
“แต่ทุกเทอมที่ผ่านมาก่อนสอบ 1 อาทิตย์อาจารย์จะปล่อยให้เราอ่านหนังสือทบทวนไม่ใช่เหรอ บราวนี่ลาช่วงนั้นได้ไง” คริสตัลแย้ง
“มันไม่ทันเหรอกถ้าจะมีคนหาเรื่องบราวนี่คงไม่รอให้ถึงช่วงนั้นเหรอก” ฮันนี่ตอบ คริสตัลก็พยักหน้าเห็นด้วย
“ขอบใจนะทั้งสองคน มันคงไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้แล้วแหละ U_U” ฉันพูดไปงั้นแหละ แต่ในใจคือกลัวมากว่าฉันจะไม่เจอแค่สายตาจิกกัดกับเสียงซุบซิบตามหลังแบบครั้งก่อน
“ฉันเตือนเธอแล้วใช่มั้ยบราวนี่ ว่าอย่ามาเข้าใกล้นิวเยียร์อีก เธออยากมีเรื่องจริงๆ ใช่มั้ย” ริเรียเข้าห้องมาแล้วเดินพุ่งมาหาฉันที่นั่งอยู่ แต่ฮันนี่ยืนขวางหน้าเธอไว้
“ใครๆ ก็เห็นว่านายนั่นเดินเข้ามาหาเพื่อนฉันเอง เธอไม่ควรมาหาเรื่องบราวนี่แบบนี้นะริเรีย” ฮันนี่พูดแล้วจ้องหน้าริเรียแบบพร้อมบวก
“ก็ใครจะไปรู้ล่ะ เพื่อนเธออาจจะไปให้ท่านิวเยียร์ก็ได้นี่ พวกเธอไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอด 24 ชม.นี่” ริเรียพูดตอบพร้อมกับส่งสายตาจิกกัดมาที่ฉัน
“แต่เธอก็น่าจะเห็นนะ ว่าทุกวันที่มาเรียนพวกเรา 3 คนตัวติดกันตลอดเวลาจนกระทั่งเลิกเรียน” คริสตัลแย้ง
“ไม่รู้ล่ะ ยังไงซะถ้าเธอไม่ไปล่อลวงนิวเยียร์มา มีเหรอคนอย่างเขาจะสนใจคนแบบเธอ ฉันขอเตือนอีกรอบอย่ายุ่งกับนิวยียร์หรือแม้แต่ใครก็ตามในกลุ่มนั้นไม่งั้นเธออาจจะโดนหนักกว่าที่เพื่อนเธอเคยโดนพวกกลุ่มแอนตี้นั่นแกล้งแบบเมื่อก่อนอีกนะ”
ริเรียจ้องมาที่ฉันก่อนจะปรายตามองไปยังฮันนี่ที่ยืนกัดฟันอยู่ คริสตัลเคยเล่าให้ฉันฟังแล้วว่าตั้งแต่ที่ฮันนี่เข้ามาเรียนตอนม.4 มาร์ตินก็เข้ามาคุยด้วยแล้วพูดถึงความหลังที่เคยเป็นแฟนกันตอน ป.2 ทำให้ฮันนี่โดนเขม่นทั้งจากรุ่นพี่ม.ปลายแล้วก็รุ่นน้องม.ต้นที่คลั่งไคล้มาร์ติน ฮันนี่โดนรุ่นพี่แกล้งและหาเรื่องสารพัดอยู่เป็นเทอมจนฮันนี่เริ่มทนไม่ไหวแล้วตอบโต้ พวกนั้นเลยไม่กล้าหาเรื่องฮันนี่อีกแต่ก็ยังมีบ้างที่จะมาพูดแซะหรือส่งสายตาจิกกัดมองแรงใส่เวลาฮันนี่เดินผ่าน ขนาดฮันนี่เองยังโดนขนาดนั้นมาก่อนเลย T^T ถ้าฉันโดนแบบฮันนี่ฉันคงเข้มแข็งแบบฮันนี่ไม่ได้แน่ๆ เลย...
“แล้วยังไง? ฉันเคยโดนมาก่อนก็แล้วมันยังไง? ฉันผ่านมันมาได้แล้วและตอนนี้ฉันก็จะไม่ยอมให้ใครมาทำอะไรเพื่อนฉันด้วย” ฮันนี่ยืนกอดอกประจันหน้ากับริเรีย
“ฉันเองก็จะไม่ยอมให้เธอมาทำอะไรเพื่อนฉันเหรอกนะ” คริสตัลเองก็มองหน้าริเรียแบบไม่ยอมเหมือนกัน
“ฉันน่ะแค่แอดมินเพจฉันไม่ทำอะไรแบบนั้นเหรอก แต่พวกลูกเพจฉันพวกเธอแน่ใจว่าจะรับมือไหวเหรอ?” ริเรียพูดก่อนจะเชิดหน้าเดินกลับไปนั่งโต๊ะตัวเอง
“หนอยยัยนี่ สักวันเถอะฉันจะหมดความอดทน ฮึ!” ฮันนี่พูดแล้วเบ้ปากใส่ริเรียที่มองออกไปข้างนอกหน้าต่างอยู่ ความจริงฉันก็แอบหวั่นใจแหละกลัวว่าตัวเองจะโดนหาเรื่อง แต่ฉันก็ซึ้งใจนะที่ยังมีฮันนี่แล้วก็คริสตัลที่ยังอยู่ข้างฉันและคอยพร้อมที่จะช่วยเหลือฉัน