เช้าวันถัดมา
ไร่ภครารมย์
แก้วเจ้าจอมนั่งจ้องมองชามข้าวต้มกุ้งตรงหน้าด้วยอารมณ์เบื่อหน่าย มือทั้งสองข้างกอดตุ๊กตาหมีตัวโปรดของตนเองไว้ด้วยความหวงแหน ดวงตาคู่สวยเหลือบมองออกไปบริเวณหน้าบ้านเป็นระยะจนผู้เป็นมารดาเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติ
"หยีทำไมไม่ทานข้าวล่ะลูก?" คุณยอดดาวเอ่ยถามบุตรสาว
"หนูไม่หิวนี่คะ" เด็กสาวตอบมารดาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา เพราะเกรงว่าผู้เป็นบิดาจะได้ยินเข้า
"ไม่หิวก็ต้องทานนะคะ มื้อเช้าเป็นมื้อสำคัญ อีกเดี๋ยวคุณหมอเขาก็มารับไปโรงพยาบาล จะหิวกลางทางเอานะ"
ทว่าทันใดนั้น...
"สวัสดีครับคุณน้ายอดดาว" เสียงทุ้มนุ่มนวลของบุรุษผู้หนึ่งดังขึ้นจากด้านหน้าประตูบ้าน
"พี่หมอ" แก้วเจ้าจอมฉีกยิ้มกว้างด้วยความดีใจ ในขณะที่โจนาสเดินตรงเข้ามาหาที่โต๊ะอาหาร
"ไงเรา ไม่ยอมทานข้าวเหรอ?"
"รอทานพร้อมพี่หมอค่ะ" คำตอบตรงไปตรงมาของแก้วเจ้าจอมทำให้คุณยอดดาวรู้สึกแปลกใจ นางจ้องมองสองหนุ่มสาวสลับกันไปมา จึงเห็นว่าโจนาสกำลังจ้องมองคนตัวเล็กตรงหน้าด้วยแววตาเอ็นดู
"คุณหมอนั่งก่อนนะคะ เดี๋ยวน้าให้เด็กยกข้าวต้มมาให้" นางเชื้อเชิญจิตแพทย์หนุ่ม
"ขอบคุณครับ" เขาทิ้งตัวนั่งลงข้างกายแก้วเจ้าจอม
"ถ้าอย่างนั้นก็คุยกันไปก่อนนะคะ เดี๋ยวน้าจะไปดูว่าเด็กคั้นน้ำผลไม้เสร็จหรือยัง จะได้ยกมาให้ทีเดียวเลย"
"ครับ" โจนาสยิ้มให้ผู้อาวุโสกว่าก่อนที่นางจะเดินออกไป
"ไง...ตกลงว่าไม่อยากทานข้าวจริงๆ หรือว่าแกล้งบอกว่ารอพี่กันแน่"
"หยีรอพี่หมอจริงๆ ค่ะ อีกอย่างพ่อกับแม่ให้หยีทานข้าวคนเดียวทุกวันอยู่แล้ว ไม่มีใครอยากทานข้าวกับคนบ้าอย่างหยีหรอกค่ะ" เด็กสาวเล่าเรื่องราวของตนให้จิตแพทย์หนุ่มฟัง
"เอาล่ะ งั้นต่อไปพี่จะมาทานข้าวเป็นเพื่อนหยีให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้นะครับ"
"จริงนะคะ สัญญานะคะ" เด็กสาวฉีกยิ้มกว้างด้วยความดีใจอีกครั้ง
"ครับผม รีบทานเถอะจะได้รีบไปทำธุระกันต่อ" สองหนุ่มสาวพูดคุยหัวเราะกันในขณะที่ทานอาหารเช้าด้วยกัน คนงานในบ้านหลายคนรู้สึกแปลกใจที่เห็นแก้วเจ้าจอมเปลี่ยนไปและมีอารมณ์ที่เย็นลงมากกว่าที่เคยเป็น
ห้างสรรพสินค้า
"ไหนพี่หมอบอกว่าจะพาไปโรงพยาบาลไงคะ?" คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย ดวงตากลมโตมองไปรอบๆ ห้างสรรพสินค้าหรูกลางเมืองเชียงใหม่ที่เธอไม่ได้มานานหลายเดือนแล้ว
"แล้วเราอยากไปโรงพยาบาลหรือเปล่าล่ะ?"
"ไม่อยากไปค่ะ"
"ไม่อยากไปก็ไม่ต้องไป เพราะไม่รู้จะไปทำไม ถ้าเกิดไปตรวจเจอว่าบ้าขึ้นมาจริงๆ เนี่ยมันจะแย่เอานะ ฮ่าๆๆ" โจนาสหัวเราะร่าอารมณ์ดี ในขณะที่แก้วเจ้าจอมฉีกยิ้มกว้างกับคำพูดของเขา
"แล้วที่หมอมาที่ห้างมีอะไรจะซื้อล่ะคะ?"
"อ้าว...ลืมแล้วเหรอที่เราคุยกันเมื่อวาน"
"คุยเรื่องอะไรคะ เราไม่ได้คุยกันว่าเราจะมาเดินห้างซะหน่อย"
"มาสิ มาซื้อแชมพูกลิ่นที่หยีใช้ไงครับ มันหอมชื่นใจดี พี่ชอบ..." ชายหนุ่มจ้องมองใบหน้าจิ้มลิ้มด้วยแววตาสุดยากจะคาดเดา เพราะมันแปลกเปลี่ยนไปมากกว่าครั้งก่อน
"อ๋อ...ค่ะ" เธอตอบเท่านั้นแล้วจึงหลบสายตาของโจนาส เพราะความรู้สึกร้อนผ่าวกำลังปรากฏขึ้นบนใบหน้าของตนอย่างไร้เหตุผล
แก้วเจ้าจอมเดินนำหน้าโจนาสระหว่างเลือกซื้อสินค้า ในขณะที่ชายหนุ่มได้แต่เข็นรถเข็นเดินตามเด็กสาวราวกับสามีภรรยากำลังเลือกซื้อของเข้าบ้าน
"เอาขวดเล็กหรือขวดใหญ่ดีคะ?" มือเรียวเอื้อมไปหยิบขวดแชมพูทั้งสองขนาด และยื่นมาตรงหน้าชายหนุ่มเพื่อถามถึงความต้องการของเขา
"เอาขวดใหญ่สองขวดครับ" กลิ่นกายหอมละมุนของคนตัวโตทำให้แก้วเจ้าจอมไม่ยอมหลบทางให้เขา ใบหน้าจิ้มลิ้มจึงแนบชิดกับแผงอกแกร่งในระหว่างที่โจนาสเอื้อมมือไปหยิบแชมพูขวดใหญ่อีกหนึ่งขวดจากชั้นวางมาใส่ตะกร้า
"หยีครับ..."
"คะ?" เธอเรียกสติตนเองกลับมาเมื่อเสียงทุ้มนุ่มนวลของชายหนุ่มดังขึ้น
"ถ้าอยากกินอะไรให้บอกนะครับ" เขาบอกพลางดึงแชมพูขวดเล็กวางกลับไปบนชั้นวางสินค้า และดึงแชมพูขวดใหญ่อีกขวดวางลงในตะกร้า
"ค่ะพี่หมอ ว่าแต่...คืนนี้หยีขอไปนอนค้างที่บ้านพี่หมอได้หรือเปล่าคะ?" คำถามแสนไร้เดียงสาของเด็กสาวทำให้โจนาสรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ เขาไม่อยากปฏิเสธเธอเพราะต้องการถนอมความรู้สึกของอีกฝ่าย แต่หากจะตอบตกลงมันก็คงไม่ใช่สิ่งที่เหมาะสมมากนักหากสองหนุ่มสาวจะหลับนอนใต้ชายคาเดียวหันทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นอะไรกัน
"หยี..." ดวงตากลมโตจ้องมองใบหน้าหล่อคมคายด้วยแววตาคาดหวัง
"ยาหยี..." ในขณะเดียวกันก็มีเสียงของบุคคลที่สามดังขึ้น โจนาสหันขวับไปหาต้นเสียงนั้นด้วยแววตาเรียบเฉย
"ธันวา กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่?" แก้วเจ้าจอมเรียกชื่อเด็กหนุ่มคนนั้นด้วยความสนิทสนม ก่อนที่สองหนุ่มสาวจะโผเข้ากอดกันด้วยความดีใจ โจนาสเอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงและยืนมองเด็กทั้งสองคนคุยกันอยู่ครู่ใหญ่
"พี่หมอคะ นี่ธันวาเพื่อนสนิทของหยี ส่วนนี่พี่หมอโจนาส เป็น..."
"รู้แล้วน่า ยาหยีตัวแสบจอมก่อเรื่อง สวัสดีครับหมอ" ธันวายกมือไหว้จิตแพทย์หนุ่มและหันกลับมาสบตากับเพื่อนสนิทอีกครั้ง
"งั้นนายก็รู้แล้วสิว่ามีเพื่อนเป็นบ้า คิกๆ" เด็กสาวหัวเราะคิกคักชอบใจ
"บ้าก็รักน่า งั้น...เราไปกินไอติมกันดีไหม?"
"ดีสิ อยากกินอยู่พอดีเลย"
"เดี๋ยว เดี๋ยวนะ แต่หยียังพาพี่หมอซื้อของไม่เสร็จเลยนะครับ" โจนาสทักท้วงขึ้นด้วยความรู้สึกหงุดหงิดใจ
"งั้นพี่หมอไปกินไอติมด้วยกันก่อนนะคะ แล้วเดี๋ยวหยีจะพามาเลือกซื้อของต่อ" คำขอของเด็กสาวทำให้นายแพทย์หนุ่มปฏิเสธไม่ได้ เขาจำเป็นต้องไปด้วยเพราะตอนนี้เธออยู่ในความดูแลของตน
ร้านไอศกรีม
"แล้วเรื่องเรียนต่อล่ะ ยังไงเทอมนี้ก็ไม่ทันใช่ไหม" ธันวาถามขึ้นระหว่างที่แก้วเจ้าจอมกำลังเพลิดเพลินกับไอศกรีมของโปรดตรงหน้า
"ไม่เห็นแคร์เลย" เธอไม่เห็นยี่หระและยังตักของอร่อยเข้าปากคำโต
"ก็ใช่สิ ลูกสาวพ่อเลี้ยงเกล้าแห่งไร่เหนือ ไม่ต้องทำอะไรก็สบายไปทั้งชาติ" ธันวาค่อนขอดเพื่อนสนิทด้วยรอยยิ้ม
"หึ ฝันไปเถอะ คนอย่างยาหยีไม่มีทางเกาะพ่อแม่กินไปตลอดชีวิตหรอก"
ไม่เกาะพ่อแม่งั้นเกาะเราก็ได้ เราเลี้ยงยาหยีได้นะ" ธันวาหยอกเย้าเพื่อนรักและยังหัวเราะร่าออกมา ราวกับภายในร้านไอศกรีมแห่งนี้มีกันอยู่เพียงสองคนเท่านั้น
บทสนทนาของสองหนุ่มสาวทำให้โจนาสรับรู้ได้ถึงความสนิทสนมของพวกเขา ทว่าตนกลับไม่ได้ยิ้มแย้มไปกับรอยยิ้มสดใสของแก้วเจ้าจอมอย่างที่มันควรจะเป็น มิหนำซ้ำยังรู้สึกหงุดหงิดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
"เอาล่ะ ถ้าทานเสร็จแล้วก็ไปกันเถอะ พี่มีธุระที่ต้องไปทำอีก" โจนาสหยัดกายยืนขึ้นและคว้าข้อมือเรียวเล็กของแก้วเจ้าจอมมากุมไว้
"พี่หมอมีธุระต่อเหรอคะ งั้นเดี๋ยวหยีกลับกับธันวาก็ได้ค่ะ" เพราะได้เจอกับเพื่อนที่ไว้ใจได้ และยังเกรงว่าจะรบกวนโจนาสมากเกินไปเธอจึงพูดออกไปเช่นนั้น นายแพทย์หนุ่มจึงจ้องมองใบหน้าจิ้มลิ้มอย่างไม่สบอารมณ์นัก...
มันเป็นความรู้สึกแปลกๆ คล้ายๆ ลมจะออกหูใช่ไหมคะคุณหมอ อ่านจบแล้วขอกำลังใจด้วยหนา❤️