นาราภัทรลากกระเป๋า เดินตามมาคอสไป ขณะเดินอยู่ภายในคฤหาสน์หลังใหญ่ ก็อดตะลึงไปกับความงดงามของคฤหาสน์หลังนี้ไม่ได้ คฤหาสน์อัลซาโค้ร์ได้รับการตกแต่งวิจิตรตระการตาราวกับพระราชวังที่เธอเคยเห็นตามหน้าหนังสือนิตยสาร
“เชิญเข้าไปนอนรอ เอ้ย! นั่งรอในห้องนี้ได้เลยนารา”
มาคอสเปิดประตูห้องออกกว้าง แสร้งผายมือเชิญให้นาราภัทรเดินเข้าไปภายในห้องรับแขกหรูหรา
“อีกนานไหมคะ กว่าพี่ชายของคุณจะกลับเข้ามาในคฤหาสน์ผีสิง”
มาคอสแทบสำลักน้ำลายกับคำถามของนาราภัทร รู้สึกว่าหญิงสาวปักใจเรียกคฤหาสน์ของตระกูลเขาด้วยคำเหล่านี้
“ผมบอกคุณยังไม่ได้ว่าดอนริคคาร์โด้จะกลับมาเมื่อไร เอาเป็นว่าถ้าพี่ชายผมมาถึงคฤหาสน์ผีสิงแล้ว ผมจะบอกให้เขามาพบคุณในทันที”
มาคอสเหน็บแนมหญิงสาวกลับคืนบ้าง พอนาราภัทรอ้าปากจะเล่นเกมยี่สิบคำถามกับเขา ก็ยกมือห้ามทัพ แล้วออกคำสั่งเสียงห้วน
“เข้าไปรอพี่ชายผมในห้องนารา! ถ้าไม่เข้าไป ก็เดินออกไปจากบ้านของผมได้เลย”
นาราภัทรถึงกับหน้าตึงกับคำสั่งของอีกฝ่าย “ก็ได้ ฉันเข้าไปรอพี่ชายคุณในห้องนี้ก็ได้ ถ้าเขามาถึงแล้ว ช่วยกรุณาบอกด้วยว่าให้มาพบฉันให้เร็วที่สุด”
“ฮึ! หวังว่าดอนริคคาร์โด้คงยอมทำตามคำสั่งของคุณนะนารา”
มาคอสเอ่ยพูดลอยๆ จากนั้นก็ปิดประตูกระแทกเสียงดัง ยิ้มเยาะอยู่ตรงมุมปาก เมื่อคิดถึงคำสั่งของหญิงสาวที่เอ่ยออกมาเมื่อสักครู่
“คิดผิดแล้วนารา ที่ออกคำสั่งกับดอนริคคาร์โด้ ต่อให้โลกแตก พี่ชายของผมก็ไม่มีทางทำตามคำสั่งของคุณอย่างแน่นอน”
พานาราภัทรเข้าไปรอพี่ชายในห้องรับรองแขกแล้ว มาคอสก็ออกมานั่งจิบบรั่นดี
อยู่ตรงเคาน์เตอร์บาร์ภายในคฤหาสน์หลังใหญ่ เพื่อรอการกลับมาของพี่ชาย หากเป็น
เมื่อก่อนชายหนุ่มคงนั่งฉิบบรั่นดีด้วยอารมณ์สุนทรี ทว่าในตอนนี้ใบหน้าหล่อเหลามีริ้วรอยความเป็นกังวลวิ่งวนไปทั่ว ขณะนึกถึงใครบางคนที่อยู่ไกลจากเขาเหลือเกิน
ทว่า...ไม่ใช่เพราะระยะทางระหว่างเกาะซิซิลีกับประเทศไทยที่อยู่ห่างไกลจากเขา แต่เป็นเส้นทางรักระหว่างเขากับนิลนารา ที่อยู่บนเส้นทางขนานซึ่งไม่มีโอกาสมาบรรจบกันต่างหาก ที่ทำให้เขารู้สึกว่า เขาและนิลนาราช่างอยู่ห่างไกลกันซะเหลือเกิน...
‘พี่เพิร์ลไม่สบายค่ะ’
คำพูดของนาราภัทรที่ดังก้องเข้ามาในโสตประสาทอีกครั้ง ยิ่งทำให้สีหน้าของมาคอสเต็มไปด้วยความเป็นห่วงในตัวผู้หญิงที่เขาหลงรัก แต่ไม่มีสิทธิ์ในตัวหญิงสาว เพราะนิลนาราเป็นคู่หมั้นของพี่ชายเขา
“คุณไม่สบายมากหรือเปล่าเพิร์ล ตอนนี้คุณเป็นยังไงบ้าง”
มาคอสฝากคำถามนี้ไปถึงคนไกล อยากรู้ใจจะขาดว่านิลนาราเป็นอย่างไรบ้าง และความคิดถึงที่มีต่อหญิงสาวที่ตนแอบหลงรักก็มีอันต้องชะงักลง เมื่อเห็นร่างใหญ่ลำสันของพี่ชายกำลังเดินตรงมาหา
ดอนริคคาร์โด้ อัลซาโค้ร์ กลับเข้ามาในคฤหาสน์หรูหรา หลังจากดวงตะวันลาลับขอบฟ้าไปหลายชั่วโมงแล้ว ร่างสูงใหญ่ในสูทสีดำก้าวเท้าช้าๆ ทว่ามั่นคงเต็มไปด้วยอำนาจซึ่งแผ่อยู่รอบตัว พร้อมกับบอร์ดี้การ์ดคนสนิทอีกหนึ่งคนที่เดินตามมาติดๆ
เมื่อดวงตาคมกริบไม่ต่างจากดวงตาพญาอินทรี จ้องมองไปยังเคาน์เตอร์บาร์ภายในคฤหาสน์ เห็นน้องชายกำลังนั่งจิบบรั่นดีอยู่ ก็เอ่ยปากทักทายทันที
“มาถึงบ้านตั้งแต่เมื่อไรมาคอส”
“สายันต์สวัสดิ์ครับ ริคคาร์โด้”
มาคอสทักทายพี่ชายในยามเย็น ก่อนจะตอบคำถามของอีกฝ่ายที่กำลังก้าวเดินองอาจมาทรุดกายลงนั่งข้างๆ ตัวเขา
“กลับมาถึงตอนบ่ายแล้วครับ ว่าแต่พี่เถอะ งานทางนี้เป็นยังไงบ้าง เรียบร้อยดีหรือเปล่า”
“อืม...เรียบร้อยทุกอย่าง ดอนริคคาร์โด้ทำอะไรไม่มีพลาดอยู่แล้ว”
ดอนริคคาร์โด้ให้เครดิตกับตัวเอง ซึ่งแน่นอนว่างานไหนที่เขาลงมือจัดการด้วยตนเอง โดยไม่ต้องผ่านลูกน้อง ย่อมไม่มีคำว่าผิดพลาด หรือถึงแม้จะให้ลูกน้องเป็นฝ่ายจัดการ ก็ไม่มีคำว่าผิดพลาดเช่นเดียวกัน เพราะเขาไม่เคยรู้จักกับคำๆ นี้
“หมายความว่าตอนนี้มาเฟียทุกแก๊งในซิซิลี ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของตระกูลอัลซาโค้ร์” มาคอสถามย้ำเพื่อความมั่นใจ
“แน่นอน...มาคอส ทุกแก๊งจะต้องขึ้นกับตระกูลอัลซาโค้ร์ เพียงตระกูลเดียวเท่านั้น”
ดอนริคคาร์โด้รับคำเสียงเย็นยะเยือก กระตุกยิ้มเย็นตรงมุมปาก เสริมส่งให้ใบหน้าคมเข้มดูหล่อเหลาและน่าเกรงขามในเวลาเดียวกัน
“ข่าวดีแบบนี้ต้องฉลองใช่ไหมครับ”
มาคอสเอ่ยอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะหันไปสั่งบอร์ดี้การ์ดของพี่ชายซึ่งยืนอยู่ไม่ห่าง พร้อมสำหรับการรอรับใช้ดอนริคคาร์โด้และตัวเขาในทุกนาที
“โรมัน รินเหล้าให้ดอนด้วย”
“ได้ครับคุณมาคอส”
โรมัน ผู้ที่เป็นทั้งลูกน้องและบอร์ดี้การ์ดส่วนตัวให้กับดอนริคคาร์โด้ตอบรับคำสั่ง จากนั้นก็รินบรั่นดีให้กับเจ้านายทั้งสอง รวมทั้งตัวเองด้วย
“ต่อไปมาเฟียทุกแก๊งจะต้องทำตามคำสั่งของพี่ ดื่มให้กับความสำเร็จของตระกูลอัลซาโค้ร์” มาคอสชูแก้วบรั่นดีขึ้นสูง รอให้ผู้เป็นพี่ชายและโรมันยื่นแก้วมาชนกับแก้วของเขา
“ดื่มให้กับตระกูลอัลซาโค้ร์” ดอนริคคาร์โด้เอ่ยด้วยน้ำเสียงทรงอำนาจ ขณะชนแก้วกับน้องชาย
“ดื่มให้ดอนและคุณมาคอส”
น้ำเสียงที่โรมันเอ่ยออกมานั้น เต็มไปด้วยความเคารพและยำเกรงที่มีต่อเจ้า
นายทั้งสองคน
ดอนริคคาร์โด้ดื่มบรั่นดีรอบเดียวหมดแก้ว แล้วหันมาออกคำสั่งกับโรมัน
“เราเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว อยากนอนแช่น้ำอุ่นสักชั่วโมงสองชั่วโมง นายรีบไปจัดการให้เราด้วย”
ออกคำสั่งเป็นนัยๆ เพียงเท่านี้ ผู้ที่อยู่รับใช้ดอนริคคาร์โด้เป็นเวลานับสิบๆ ปี ก็รู้ดีว่าเจ้าพ่อหนุ่มต้องการอะไร นอกเหนือจากการนอนแช่น้ำอุ่น
“ได้ครับดอน ผมจะจัดการหาสาวๆ ที่สะอาดเอี่ยมอ่องมาให้ดอนครับ”
โรมันเอ่ยบอกไปแล้ว ก็ทำท่าจะผละไปทำตามคำสั่งของเจ้านาย แต่ถูกมาคอส
เรียกไว้เสียก่อน
“เดี๋ยวโรมัน อย่าเพิ่งไปหาสาวๆ ให้ดอน”
“ทำไม?”
ดอนริคคาร์โด้เป็นฝ่ายถามน้องชายสั้นๆ ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นสูงด้วยความแปลกใจกับคำตอบที่ได้รับจากมาคอสจอมขี้เล่น