ตอนที่ 10 นอนกับหนูได้ไหม

1495 คำ
เวลาผ่านไปนับเดือนกับการทำงานเป็นผู้ช่วยเลขา นิวเยียร์มีความสุขกับงานชั่วคราวนี้มาก เพราะมันทำให้เธอได้อยู่ใกล้กับคนที่เธอชอบ แม้ว่าบางวันเขาจะไม่ได้ทำงานประจำอยู่ที่โต๊ะ เพราะต้องนัดเจอกับลูกค้าบ้าง หรือเข้าประชุมเป็นเวลาหลายชั่วโมงบ้าง แต่มันก็ยังดีกว่าการไม่ได้เจอหน้ากันเลยตลอดทั้งวัน ตั้งแต่มีโอกาสได้คุยแชทกันทุกคืน ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนก็นับว่าดีขึ้นกว่าการเป็นแค่คนที่อยู่คอนโดเดียวกัน ดีกว่าการเป็นเพื่อนนั่งกินข้าว ทั้งคู่มีการพูดคุยและสนิทสนมกันมากขึ้น มากพอที่จะไว้ใจกันและกัน และเธอก็สามารถมานั่งเล่นในห้องของเขาเป็นเวลานานได้ แม้จะนาน ๆ ครั้งก็ตาม เนื่องจากยังมีงานออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ที่ยังต้องทำหลังเลิกงานแทบทุกคืนอยู่ และคืนนี้กว่าเธอจะได้อาบน้ำนอนก็ปาไปเกือบเที่ยงคืน เพราะเพิ่งจะทำงานออกแบบเสร็จ แต่แล้วนิวเยียร์ก็ต้องสะดุ้งตื่นทั้งที่ยังหลับไปได้ไม่นาน แล้วนอนงอตัวด้วยอาการปวดที่ท้อง ด้วยความที่อาการหนักขึ้นเรื่อย ๆ จนทนไม่ไหว ทำให้เธอต้องลุกขึ้นนั่งพิงหลังกับหัวเตียง มือข้างหนึ่งก็กดตรงท้องช่วงบนแต่ก็ไม่อาจคลายความเจ็บปวดลงได้ พอลุกไปเปิดดูกล่องยาที่อยู่ตรงลิ้นชักที่โต๊ะวางทีวีก็มีแต่ยาแก้ปวดลดไข้ และอุปกรณ์สำหรับทำแผล เธอตัดสินใจเดินไปกดกริ่งเรียกคนที่อยู่ห้องตรงข้าม มืออีกข้างก็กดที่ท้องผ่านชุดนอนกระโปรงสายเดี่ยวที่มีเสื้อคลุมสวมทับอยู่ตลอด เธอรู้สึกเจ็บมากจนยืนหลังตรงไม่ได้ ต้องโน้มตัวไปทางด้านหน้าแทน เพิร์ธที่เพิ่งเข้านอนไปเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน แต่ก็ยังไม่ทันได้หลับสนิท เมื่อได้ยินเสียงกริ่งหน้าห้องก็ไม่ได้รู้สึกถึงความแปลกใจแต่อย่างใด เขาคิดว่าคนที่จะกดกริ่งในเวลาแบบนี้ได้คงมีแค่คนเดียวเท่านั้น และพอเปิดประตูออกไปก็พบกับใบหน้าซีดเซียวไร้เครื่องสำอาง และมีสีหน้าเหยเกเอ่ยกับเขาเสียงแผ่วเบา “มียาแก้ปวดท้องไหมคะ” “เข้ามาก่อนครับ” เพิร์ธเปิดประตูออกกว้างแล้วหลีกทางให้หญิงสาวเดินหลังค่อมเข้ามาในห้องอย่างเชื่องช้า เขาจึงถือวิสาสะเข้าไปช่วยประคองพาไปนั่งที่โซฟา แล้วรีบเดินไปหยิบยาพร้อมกับน้ำที่เทใส่แก้วนำมายื่นให้กับเธอ “ขอบคุณนะคะ” นิวเยียร์ยื่นมือที่สั่นเทาออกไปรับยาและน้ำมากิน “ปวดมากเหรอครับ ไปหาหมอกันไหม” เขาเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง สีหน้าของเธอดูไม่สู้ดีเลย “ไม่เป็นไรค่ะ กินยาสักพักเดี๋ยวก็คงหาย” เธอพูดออกไปเพราะเกรงใจ แค่มาเคาะห้องดึกดื่นแบบนี้ก็รู้สึกแย่มากแล้ว “ถ้างั้นนอนพักดูอาการที่นี่ก่อนไหมครับ ดูสักชั่วโมงเผื่อว่ายังไม่ดีขึ้น พี่จะได้พาไปโรงพยาบาล” “ก็ได้ค่ะ” เธอรู้ว่าเขาเป็นห่วง เลยไม่อยากทำตัวดื้อดึง แล้วอีกอย่างเธอก็ปวดท้องมาก ถ้าให้เดินกลับห้องก็ไม่รู้ว่าจะเดินไหวหรือเปล่า จึงได้ตอบตกลงไป เจ้าของห้องเดินเข้าไปหยิบหมอนในห้องนอนมาให้ แล้วประคองเธอนอนลงตรงโซฟา นิวเยียร์นอนตะแคงข้างเอามือกุมท้อง คิ้วเรียวก็ขมวดเข้าหากันเป็นปม และมีใบหน้าเหยเกอยู่ตลอดเวลา ตลอดหนึ่งชั่วโมงเขานำแท็บเลตมานั่งทำงานที่โซฟาอีกตัว เพื่อเฝ้ามองคนป่วยเผื่อว่าอาการจะแย่ลง “เป็นยังไงบ้างครับ” “ยังปวดอยู่ค่ะ แต่ก็ดีกว่าเมื่อกี้หน่อย” “ไปหาหมอ ตรวจดูให้แน่ใจดีไหมครับ” เขากลัวว่าเธอจะไม่ใช่แค่ปวดท้องกระเพาะ แต่ถ้าเป็นไส้ติ่งขึ้นมาอาการจะยิ่งแย่ขึ้นไปใหญ่ ไปตรวจให้แน่ใจจะดีกว่า นิวเยียร์ไม่กล้าปฏิเสธความเป็นห่วง ทำได้แค่เพียงข่มกลั้นความเจ็บปวด กลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดที่เรียบร้อยมากกว่านี้ โดยที่มีเขายืนรออยู่หน้าห้อง ดีที่ได้ชายหนุ่มคอยประคองอยู่ไม่ห่างจนลงไปถึงรถก็พากันมุ่งหน้าไปที่โรงพยาบาลทันที แม้จะเร่งรีบแต่เพิร์ธก็ไม่ได้ขับรถเร็วมาก ด้วยกลัวว่าจะกระทบกระเทือนทำให้อาการของนิวเยียร์เป็นหนักขึ้น พอถึงโรงพยาบาลและตรวจดูแล้ว ก็พบว่าเธอแค่ปวดท้องเพราะกินข้าวไม่ตรงเวลา สาเหตุก็มาจากช่วงหลัง ๆ เธอมักจะหลงลืมอาหารมื้อเย็นไป เพราะเดี๋ยวนี้ทั้งสองคนไม่ค่อยได้กินข้าวเย็นด้วยกันแล้ว นิวเยียร์เลือกที่จะกินข้าวกับเขาแค่มื้อเช้ากับมื้อกลางวัน ส่วนตอนเย็นหลังเลิกงานก็ต้องรีบกลับมาทำงานของตัวเองต่อ บางครั้งก็มากินเอาตอนดึก หมอจึงให้ยาตามอาการกลับไปกินที่บ้าน ทั้งสองคนเดินทางกลับมาถึงคอนโด นิวเยียร์ก็หยิบคีย์การ์ดมาเปิดประตู โดยที่มีเพิร์ธคอยประคองจนกระทั่งพาเธอไปส่งที่เตียง “พี่เพิร์ธคะ” เธอเรียกเขาเสียงแผ่ว ยื่นมือไปจับที่มือของชายหนุ่ม “ครับ ปวดท้องหนักกว่าเดิมเหรอ หรือว่าหิวน้ำเดี๋ยวพี่ไปเอาให้” “ค่ะ หนูหิวน้ำ” เธออยากจะขออะไรบางอย่าง แต่ก็กลัวว่าเขาจะปฏิเสธ เพิร์ธไปเอาน้ำในตู้เย็นเทใส่แก้วมาให้หญิงสาว นิวเยียร์ขยับพิงหัวเตียงรับน้ำมาดื่มพอเป็นพิธี แล้ววางแก้วลงที่โต๊ะไม้ข้างเตียง “อย่าเพิ่งไปได้ไหมคะ พี่นอนเป็นเพื่อนหนูได้ไหม เผื่อว่าปวดท้องขึ้นมากลางดึก” นิวเยียร์เอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่ว ใบหน้ายังคงแสดงถึงอาการเจ็บปวดที่ยังไม่ทุเลา “ครับ” คราแรกเธอคิดว่าเขาจะปฏิเสธ แต่เพิร์ธกลับตอบตกลงทันที เขาคิดว่าเธอพักอยู่คนเดียว ถ้าช่วงดึกอาการปวดหนักขึ้นจะทำอย่างไร แต่ถ้ามีเขาอยู่ด้วย อย่างน้อยก็ยังมีคนให้พึ่งพา “พี่นอนตรงโซฟานะ ถ้ามีอะไรก็เรียกได้เลย ไม่ต้องเกรงใจ” เขาเอ่ยจบก็ประคองเธอนอนลงบนเตียงหนานุ่ม ดึงผ้าห่มขึ้นมาปกคลุมจนถึงหน้าอก แต่พอจะหันหลังเดินออกจากห้อง นิวเยียร์ก็คว้ามือของเขาไปจับอีกครั้ง พร้อมกับส่งสายตาอ้อนวอน “นอนกับหนูได้ไหมคะ” “พี่ว่า…” เพิร์ธเปล่งเสียงออกมาคล้ายกับว่าจะปฏิเสธ คนป่วยเลยรีบส่งเสียงอ้อนออกไปทันที “นะคะพี่เพิร์ธ ถ้าอาการหนักขึ้นมาจริง ๆ หนูคงไม่มีแม้แต่แรงจะตะโกนเรียก” เธอเอ่ยพลางนิ่วหน้า มืออีกข้างก็วางตรงช่วงท้องเอาไว้ตลอด เพิร์ธดูแล้วก็คงจะอย่างที่เธอว่า โซฟาอยู่นอกห้องนอน ถ้าเดินไปก็คงหลายสิบก้าว อีกอย่างเขาและเธอก็เคยนอนด้วยกันมาแล้ว ถือเสียว่าครั้งนี้เป็นเพราะเธอป่วย เขาไม่ได้อยากจะฉวยโอกาส “ครับ” เพิร์ธประคองหญิงสาวนอนลงบนเตียงอีกครั้ง แล้วดึงผ้าห่มขึ้นไปปกคลุมจนถึงหน้าอก ส่วนเขาก็เดินอ้อมไปอีกฝั่ง หยิบโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงวางที่ข้างหมอน แล้วขึ้นไปนอนหนุนหมอนใบที่ว่างอยู่ เมื่อหลับตาลงไปได้ไม่ถึงสิบนาที นิวเยียร์ก็พลิกตัวตะแคงข้างส่งแขนเรียวมาพาดกลางตัวของเขา ขยับศีรษะเข้ามานอนที่หมอนใบเดียวกัน แม้ว่าเธอจะป่วย และเขาก็ต้องนอนเฝ้าเพราะความจำเป็น แต่มันก็ทำให้คนเฝ้าไข้อย่างเขาถึงกับนอนไม่หลับ เพิร์ธเริ่มหายใจติดขัด จะขยับตัวออกก็กลัวว่าเธอจะตื่น ทำได้เพียงนอนนิ่ง พยายามปรับลมหายใจให้กลับมาเป็นปกติ แต่มันก็ยากเย็นเหลือเกิน โดนกอดแบบนี้จะให้เขาหลับลงได้อย่างไร “หนูชอบพี่นะ” ชายหนุ่มที่กำลังพยายามฝืนตัวเองให้นอนหลับ ก็ได้ยินเสียงพึมพำดังขึ้นเบา ๆ ที่ข้างหู พร้อมกับศีรษะของคนตัวเล็กที่ขยับเข้ามาซบที่ต้นแขนของเขา พร้อมกับแก้มนุ่มที่ขยับถูไปมาสองสามทีก่อนจะนิ่งไป
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม