เช้าที่แพทตี้วิ่งจ็อกกิ้งตรงสนามหน้าบ้าน ปกติมักนอนเอกเขนกบนเตียงจนสายโด่ง ในเช้านี้อยากตื่นเช้ากว่าทุกเช้าเพื่อออกวิ่งสุขภาพบ้าง ทีแรกตั้งใจจะปั่นจักรยาน ไปตรงสวนสาธารณะของหมู่บ้านเปลี่ยนใจ
เสียงเครื่องตัดหญ้าดังกระหึ่มอยู่ในสวน หญิงสาวได้ยินหยุดวิ่ง สงสัยว่าใครมาตัดหญ้าอยู่ในสวนของเธอในเวลาเช้า ทั้งที่เวลาแบบนี้เหมาะกับการพักผ่อนมากกว่า เดินไปยังจุดที่ได้ยินเสียงเครื่องตัดหญ้า สายตามองเห็นคนๆ หนึ่งสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวลายสก๊อตเก่าๆ กับกางเกงสีดำเก่าไม่ต่างกัน บนศีรษะสวมหมวกสานสีส้มครอบอยู่
“นี่ๆ ใครใช้ให้เข้ามาตัดหญ้าในบ้านของฉัน”
คนสวนตัดหญ้าไม่ได้ยินเสียงดังพูดอยู่ด้านหลัง ทำหน้านิ่งเดินตามเครื่องตัดหญ้าไม่ใส่ใจคนถาม ไม่หันไปตอบด้วยซ้ำ แพทตี้เริ่มฉุนเดินตามคนตัดหญ้าจนไปถึงตัว ยื่นมือดึงหัวไหล่คนสวนให้หันมาคุยกัน
“นี่นายฉันเรียกไม่ได้ยินหรือไง ใครใช้ให้เข้ามาในบ้านฉัน โดยไม่ได้รับอนุญาตมิทราบ” ตะเบ็งเสียงแข่งกับเครื่องตัดหญ้าที่ดังแสบแก้วหู คนสวนสามหมวกสานเหมือนลูฟี่เพื่อกันแดด แถมยังใส่หมวกไหมพรมครอบไว้ด้านในด้วย
“อะไรนะครับคุณผู้หญิง” เขาตะโกนแข่งกับเสียงเครื่องตัดหญ้า
“ถอดไอ้หนูฟังงี่เง่านั้นออกซะก่อน” ชี้ไปตรงหูฟังที่เสียบอยู่ในหู
“อ๋อ...โทษทีครับ” เขาดึงหูฟังออก
“ตอบฉันมาเดี๋ยวนี้”
“คุณผู้หญิงถามว่าอะไรนะครับ โทษทีผมไม่ได้ยิน”
“ใครใช้ให้เข้ามาในบ้านฉัน”
“อ้าว...คุณผู้หญิงเป็นคนจ้างผมให้มาตัดหญ้าวันนี้จำไม่ได้เหรอครับ”
“ฉันนี่นะ”
“คุณโทรไปบอกกับทางร้านขายต้นไม้เจ้าประจำ คุณโอไงครับเจ้าของร้าน ให้มาตัดหญ้าบ้านคุณ คุณบอกคุณโอว่าอยู่บ้าน อีกสองสามวันจะไม่อยู่รีบๆ มา” คนตัดหญ้าอธิบาย
“อ๋อ...คนของคุณโอหรอกเหรอ” คราวนี้หญิงสาวหน้าเหลอหลา นึกขึ้นได้ว่าตัวเองสั่งบริษัทจัดสวนให้หาคนมาตัดหญ้า เมื่อวานโทรไปนัดกับทางร้านต้นไม้ไว้ สนามหญ้ารกเต็มทีกลังงูและสัตว์มีพิษเข้ามาอาศัย
“ครับ” เขาค้อมศีรษะตอบรับเจ้าของบ้าน คนสวยความจำสั้น แถมยังขี้โวยวายหน้าตึงไม่เข้าท่า
“ชื่ออะไร ถอดหมวกหน่อยซิ เสียมารยาทคุยกับคนอื่นไม่ถอดหมวก” อยากเห็นหน้าคนมาทำงานในบ้าน
“ผมชื่อรังสิตครับ” บอกชื่อพร้อมกับถอดหมวกสาน กับหมวกไหมพรมออก
โอววว ! แม่เจ้านี่หรือคนสวน หน้าตาอย่างกับนายแบบเดินออกมาจากนิตยสารจีเอ็ม หรือไม่ก็ละติจูดแน่ๆ เขามีใบหน้าคมเข้ม กรามนูน จมูกโด่งคม รับกับคิ้วดกพาดเหนือดวงตากร้าวใจของเขามาก
“หิวน้ำไหม” เธอหาเรื่องคุย
“นิดหน่อยครับ ถ้าคุณผู้หญิงจะกรุณา ขอน้ำผมสักขวดก็ได้ครับ” เขาพูดอย่างถ่อมตัวน้ำเสียงสุภาพ หญิงสาวเหลือบไปเห็นสติกเกอร์ติดที่รถตัดหญ้า บริการไม่สุภาพโปรดแจ้ง พร้อมเบอร์โทรศัพท์ถัดลงมา
เขาคิดจะฉีกมันออกหลายที เคยเจอเจ้าของบ้านงี่เง่าเรื่องมาก สั่งนั่นสั่งนี่วุ่นวาย แถมพูดจาไม่ดีดูถูกคนทำงานบริการ ห้ามไม่ให้เครื่องตัดหญ้าเสียงดัง พอไม่ทำตามก็โดนโทรไปร้องเรียน เขาก็โดนเจ้านายด่า
“ได้สิ” แพทตี้แอบยิ้มจังหวะหมุนตัวเข้าไปในบ้าน บริษัทนี้รับคนตัดหญ้าต้องคัดหน้าตาขนาดนี้เลยเหรอ แล้วอาชีพนายแบบ ดารา จะมีคนหน้าตาดีไปแคตติ้งไหม เพราะมาทำงานสวนกันหมด “รอแป๊บหนึ่งนะ ฉันไปหยิบมาให้” หันกลับมาบอกคนตัดหญ้าส่งสายตาเชื่อมฉ่ำ พอจะก้าวดันไม่ทันระวัง เท้าดันไปเกี่ยวกับหญ้าเส้นที่ตัดไม่ขาด
มันทำให้เธอก้าวเสียหลักล้มคะมำ พอดีรังสิตหันไปเห็นเข้า ดันวิ่งเข้าไปช่วยไม่ทัน ย่อตัวลงไปช่วยพยุงเธอขึ้นมา เห็นหน้าสวยเต็มไปด้วยเศษไม่เว้นแม้แต่บนหัว จมูกแดงกระแทกกับพื้นเต็มๆ
“เป็นอะไรไหมคุณผู้หญิง”
“ช่วย...โอ๊ย...เจ็บ ช่วยพาฉันเข้าไปในบ้านหน่อย”
“จมูกคุณเลือดออก”
“ว๊ายยย !! ตายแล้ว” ยกมือลูบจมูกอย่างตกใจ
“มาเถอะผมช่วย” เขาอุ้มร่างสวยน่ารักเดินเร็วๆ เข้าไปในบ้าน “คุณมียาพวกอุปกรณ์ปฐมพยาบาลไหม เอาไว้ตรงไหน”
“มีอยู่บนตู้ยาตรงโน้น” เจ้าของบ้านสาวชี้ไปทางตู้ยาสามัญติดอยู่กับผนัง เธอถูกวางลงบนโซฟา รู้สึกอายมาก แทบไม่อยากมองคนตัดเลย
ผ่านไปไม่กี่วินาทีคนตัดหญ้ากลับมาพร้อมอุปกรณ์ทำแผล “จะทำอะไรน่ะ” ร้องถามพอเห็นของสองสิ่งในคนใช้แรงงาน
“ทำแผลให้คุณไงครับ”
“ไม่เอาแอลกอฮอล์มันแสบ”
“แสบนิดเดียวต้องล้างแผลไม่อย่างนั้นติดเชื้อโรค ไม่เอานะครับอย่างี่เง่าทำตัวเป็นเด็ก”
“ไม่นะ ไม่เอาอย่าเข้ามาใกล้” แพทตี้ดึงดันจะไม่ให้เขาทำแผล เพราะไม่เป็นอะไรมาก แอลกอฮอล์ทั้งฉุน พอโดนแผลก็แสบไม่เอาละ จากนั้นจึงเป็นวินาทีแห่งการยื้อแย่ง ผลักสำลีชุบแอลกอฮอล์ในมือเขาออก การยื้อกันไปมาทำให้ทั้งสองแนบชิด แตะต้องตัวกัน ความดื้อของแพทตี้ทำให้รังสิต ต้องใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด
จับเธอกดลงติดโซฟา ดังนั้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแพทตี้เป็นฝ่ายลงไปอยู่ด้านล่าง โดยมีรังสิตใช้มือทั้งสองกดข้อมือหญิงสาวแน่นติดกับเนื้อนิ่มของโซฟา
“คราวนี้จะยอมทำแผลหรือยัง” เขาถามใบหน้าลอยเหนือดวงหน้าตื่นของคนด้านล่าง สายตาทั้งคู่สบประสาน วาววาม ปรากฏกระแสแรงดึงดูดเข้าหากัน
“ปล่อยฉันสิ” เสียงอ่อย พร้อมกับท่าอ่อยสั่งเขาให้ปล่อย ทั้งๆ ไม่อยากให้ปล่อย เขากำยำ แข็งแรง ตัวใหญ่รูปร่างดูดให้เข้าไปซบกับแผงอกแน่น
“จะทำแผลไหม” เขาถามในมือยังถือสำลีชุบแอลกอฮอล์ชุบ
“ไม่ต้องทำแล้ว” เป็นความรู้สึกเขินอายที่แทรกใบหน้าจนร้อนผ่าว เขามองเธอจนทำให้ร่างกายแพทตี้ร้อน ไม่สามารถควบคุมจังหวะการเต้นของหัวใจได้
ใบหน้าหล่อเข้มใกล้เข้ามา กระทั้งปากได้รูปแนบชิดสนิทเบียดอยู่กับปากของเธอ รังสิตครอบครองปากนุ่ม ราวกับเป็นเจ้าของ ละเลียดเม้มขบ กัดกินทีละนิด คล้ายเฝ้ารอเวลาให้เธอต่อต้าน หรืออนุญาตอย่างใดอย่างหนึ่ง เมื่อเธอไม่ต่อต้าน ไม่อนุญาตอะไรสักอย่าง รังสิตจึงคิดไปเองว่าเธอชอบที่เขาจูบ จึงไปต่อกับลิ้นว่องไว สอดเข้าช่องปากเผยอรอคอย
เพราะอะไรก็แล้วแต่ทำให้แพทตี้ตอบสยองรังสิตทันท่วงที ด้วยการดูดลิ้นระรัวเกมเริ่มสวาทกับเขา ตัวเขามีกลิ่นหญ้าที่ตัดมากลิ่นฉุนหน่อยๆ ถ้าในเวลาปกติกลิ่นแบบนี้เธอคงไม่ชอบ แต่พอมาอยู่บนตัวชายหนุ่มคนตัดหญ้าหุ่นนายแบบคนนี้ กลับรู้สึกกลิ่นกระตุ้นความร่านในตัวเธอ มาพร้อมกับไฟราคะ ท่วมท้นยากหยุดยั้ง