"เมื่อคืนฉันเจอเธอ"
ณดลทำหน้าสงสัยที่อยู่ๆเจตต์ก็พูดขึ้นมา ไม่รู้ว่าเธอไหนปกติผู้หญิงของเจตต์ก็เยอะพอประมาณอยู่แล้ว จะเรียกว่าเป็นเสือก็ได้ เพียงแต่เสือตัวนี้อาจจะเลือกกินสักหน่อย นอกเสียจากคืนนั้น ที่พลาดเผลอลากสาวอื่นขึ้นรถกลับคอนโดโดยที่ไม่ได้ดูตาม้าตาเรือ
"เธอไหนครับบอส?"
"คนที่ฉันพากลับมาห้องด้วยคืนก่อน"
"อ๋อ งั้นบอสจัดการเรียบร้อยแล้วใช่มั้ยครับ ผมจะได้ไม่ต้องตามสืบอีก"
"สืบต่อไป อยากจะรู้เหมือนกันว่าจะยื้อเพื่ออัพค่าตัวไปถึงเมื่อไหร่ ผู้หญิงสมัยนี้มีที่ไหนที่ไม่อยากได้เงิน และผู้หญิงดีๆที่ไหนที่กล้ามีอะไรกับผู้ชายที่ไม่ได้รู้จักแม้แต่ชื่อ"
เจตต์ในชุดสูทเต็มยศนักธุรกิจหนุ่มหล่อ เขายืนกอดอกทอดสายตาไปนอกตึกผ่านกระจกใสที่มองวิวข้างนอกได้อย่างชัดเจน ไม่รู้ทำไมในสมองของเขาถึงได้คิดเวิ่นเว้อถึงแต่ผู้หญิงคนนั้นแทบทุกเวลาที่สมองว่าง
"หรือว่าเธออยากจะแบล็กเมล์บอส"
ณดลเบิกตาโพลงอย่างตกใจเมื่อนึกมาถึงตรงนี้ เพราะรู้มาว่าอีกไม่นานเจ้านายของเขาจะแต่งงาน
"จิ๊! นั่นสินะ ฉันลืมเรื่องนี้ไปเลย ถ้าเป็นแบบนั้นจริงหล่อนก็มาเหนือเมฆน่าดู ผู้หญิงสมัยนี้มารยาร้อยพันเล่มเกวียนต่อให้ฉลาดแค่ไหนบางทีก็พลาดได้อย่างง่ายดาย"
เจตต์จิ๊ปากหันพรวดกลับมาทางณดล ค้ำมือทั้งสองข้างลงบนโต๊ะ
"จ้างนักสืบมือดี พอเจอตัวแล้วก็เชิญเธอมาที่คอนโดของฉันเป็นการส่วนตัวให้ได้..แต่ถ้าไม่มาดีๆ.."
เจตต์หยุดพูด
"ถ้าไม่มาดีๆ ยังไงครับบอส?"
"ทำยังไงก็ได้ให้ฉันเจอผู้หญิงคนนี้สองต่อสอง ฉันจะจัดการกับเธอเอง"
"รับทราบครับบอส"
ณดลรับคำ แต่ในใจก็อดที่จะนึกแปลกใจไม่ได้
'อะไรของเค้า ต้องจัดการที่คอนโดสองต่อสอง บอสจะจัดการยังไง ปกติก็ไม่เคยเป็นแบบนี้กับผู้หญิงคนไหน'
ณดลกระพริบตาถี่ๆ มองผู้เป็นเจ้านายที่ดูขรึมๆเหม่อๆด้วยหน้าตาที่สงสัย ประมาณว่าอยากรู้แต่ไม่อยากถามหาเสี้ยนให้ตำเท้า
@@@
"จะไปไหน?"
มิราถือรองเท้าส้นสูงย่องเบาออกมาจากบ้านแต่ต้องหยุดกึกกะทันหันเมื่อโดนจับได้
"แฮ่ เบื่อๆขอออกไปข้างนอกหน่อยนะคะพี่พนาขา"
บอกพรางยิ้มแห้งๆใส่พี่ชายที่กำลังเตรียมตัวออกนอกบ้านเหมือนกัน
"เราน่ะยังไม่คุ้นกับกรุงเทพฯเลย จะออกไปไหนก็ระวังตัวหน่อย เกิดเผลอไปทำเรื่องงามหน้าเข้า คุณพ่อกับคุณแม่จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน รู้ก็รู้เมืองไทยยุคนี้ทำอะไรผิดนิดหน่อยก็โดนขุดไปถึงต้นตอของตระกูล"
"นี่พี่หรือพ่อคะ ให้มิราได้ออกไปหายใจหายคอบ้างเถอะนะ สัญญาด้วยเกียรติของลูกเสือเนตรนารีว่าจะไม่ทำให้ใครเดือดร้อนแน่นอนค่ะ"
มิราทำท่าวันทยหัตถ์สามนิ้วแตะที่หางคิ้วขวา พนาถึงกับหัวเราะออกมาใจอ่อนยวบลงทันที
"ได้ แต่อย่ากลับดึกนะเพราะพี่ไปต่างจังหวัดสามวัน มีอะไรก็โทรหาเพื่อนพี่ได้ เบอร์มือถือพี่เคยส่งให้แล้ว"
"คนที่เป็นคู่หมั้นมิราคนนั้นเหรอคะ มิราไม่อยากเจอเขา ไม่รู้ว่าหน้าตาจะขี้เหร่สักแค่ไหนอยู่มาจนถึงป่านนี้แล้วยังหาเมียเป็นของตัวเองไม่ได้ ถึงขั้นให้ผู้ใหญ่มาจับคู่ให้ ชิส์!"
"วิจารณ์ให้มันน้อยๆหน่อย เวลาเจอหน้าจะได้ไม่หน้าแตกมาก"
พนาจิ้มที่หน้าผากมนของน้องสาวด้วยความหมั่นไส้ในความปากกล้าของน้องสาว มิราคนนี้เคยตายไมค์ซะที่ไหน อะไรที่ไม่ถูกต้องเจ้าหล่อนเถียงหัวชนขวา ตอนเด็กๆทะเลาะกันบ่อยก็เรื่องการไม่ยอมเชื่อฟังอะไรง่ายๆถ้าไม่มีเหตุผลให้หล่อนเพียงพอ
"อ่ะๆ จะไปไหนก็ไปเถอะ พี่เชื่อว่าน้องสาวของพี่จะไม่ทำอะไรให้พี่เป็นกังวลแน่นอน"
พนาโอบไหล่ของมิราไว้หลวมๆมือหนึ่งก็ถือสูทและกระเป๋าคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กเตรียมออกพื้นที่ไปเป็นวิทยากรต่างจังหวัดตามคำเชิญในวันหยุดสุดสัปดาห์การไปเป็นวิทยากรตามบริษัทห้างร้านของเอกชนคืออาชีพเสริมอีกหนึ่งอาชีพของอาจารย์พนา
ถึงแม้ว่าตระกูลนรากุลจะรวยอยู่แล้วด้วยทรัพย์สมบัติของบรรพบุรุษที่ตกทอดกันมา
และถึงจะไม่ได้ทำธุรกิจใหญ่โตก็มีให้กินไม่หมดไปหลายชั่วอายุคน
ไม่ว่าจะเป็นที่นาหลายพันไร่ ไหนจะสวนผลไม้ส่งออก บ้านเช่าที่กระจายอยู่ในหลายจังหวัด อสังหาตึกแถวให้เช่า เดือนๆหนึ่งก็กอบโกยไม่หวาดไม่ไหว
มิราเลยยังไม่ได้รีบร้อนลงมือทำอะไรเพราะลำพังเงินเดือนส่วนแบ่งจากกองกลางของเธอก็เดือนล่ะหลายแสนเป็นแม่เสือนอนกินมีเงินให้ใช้สบายๆ ถึงแม้ว่าตอนนี้จะโดนยึดชั่วคราวก็เถอะ พี่ชายเธอก็ไม่ได้ถึงกับใจร้ายไม่ให้ใช้จ่ายอะไรเลย
อีกอย่างมิราเป็นผู้หญิงแนวอินดี้ๆไม่ค่อยมีสังคมกับเขาเท่าไหร่ ถึงแม้ว่าบิดาและมารดาจะพยายามพาออกงานบ่อยๆแต่เจ้าหล่อนก็แอบหนีกลับตั้งแต่งานยังไม่เริ่มด้วยซ้ำ และอีกหลายอย่างในความแสบสันของมิราที่ผู้เป็นบิดาและมารดาพากันกุมขมับอยู่เสมอๆ
หากแต่มิราไม่ได้อยากเป็นคนดื้อรั้นแบบนั้นหรอก เธอเพียงหวังว่าสักวันจะเจอใครสักคนที่เข้ามาเติมเต็มหัวใจของเธอ ไม่ใช่ได้สามีที่ต้องเชื่อฟังคำสั่งของเขาและต้องอยู่ในกรอบไปจนตาย
มิราเพียงต้องการให้หัวใจที่อ้างว้างของเธอจะมีใครสักคนที่เข้ามาเติมเต็มและอยู่เคียงข้างกันตลอดไป ชีวิตบนกองเงินกองทองที่ต้องอยู่ในกฏเกณฑ์ไม่เคยได้สัมผัสถึงความรักความอบอุ่นมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย ผู้ชายที่เข้ามาก็ไม่รู้ว่าจะจริงใจหรือไม่ เห็นในข่าวกันโครมๆว่าโดนหลอกให้รักเพื่อหวังทรัพย์สินเงินทองทั้งนั้น
หากเลือกได้มิราขอมีชีวิตชาวบ้านที่ราบเรียบอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา เข้านอนพร้อมกัน กินข้าวพร้อมกัน แบบนั้นซะดีกว่าอีก มันคงจะเป็นความสุขมากๆ นี่แหละชีวิตที่เป็นความฝันของมิราจริงๆ
@@@
"คุณครับ เจ้านายของผมต้องการพบ"
มิราถึงกับเลิกคิ้วมองผู้ชายตรงหน้าด้วยความสงสัยว่าเขาเป็นใคร
"เจ้านายของคุณคือใคร?"
ไม่รู้อะไรดลใจให้มิรากลับมาที่ไนท์คลับแห่งนี้อีกครั้ง ถึงได้มาโดนดักตรงทางเข้าแบบนี้ด้วยเหตุอะไร มิราไม่ได้รู้สึกกลัวแค่รู้สึกสงสัยเท่านั้น
"คนนี้ครับ"
ผู้ชายใส่แว่น รูปร่างผอมเพรียวเหมือนไม่ใช่ชายแท้ยื่นโทรศัพท์มือถือที่มีรูปของคนที่อยากพบให้เธอดู
"อ๋อ นายคนนี้น่ะเหรอ?"
เห็นแค่รูปก็ทำให้หัวใจของเธอเริ่มเต้นโครมคราม
'พี่พนาไม่อยู่ ไปเจอเขาหน่อยก็แล้วกัน อยากรู้เหมือนกันว่าต้องการอะไร หรือว่า..จะหลงรักเราเข้าแล้ว'
มิราเอามือทามอกอมยิ้ม
"งั้นไปสิคะ"
ณดลถึงกับ'หือ'อยู่ภายในใจ อะไรจะง่ายขนาดนั้น เขาทำสัญลักษณ์ให้ลูกน้องสองสามคนที่เตรียมไว้เผื่อมิราไม่ตกลงปลงใจง่ายๆให้ถอยไปก่อน ไม่ต้องลงมืออะไรทั้งนั้น
"งั้นเชิญที่รถครับคุณผู้หญิง"
ณดลผายมือให้มิราเดินตรงตามเขาไปขึ้นรถ มิรายิ้มกริ่มที่จะได้เจอคนในฝันของเธอ วันนี้ทางสะดวกพี่ชายของเธอก็ไม่อยู่
'อยากรู้จังนายวันไนท์จะพาเราไปทำอะไร?'